“พล.อ.ประยุทธ์” ลั่นขอเป็นศัตรูกับคนทุจริตคอร์รัปชัน

นครศรีธรรมราช 11 พ.ค.-“พล.อ.ประยุทธ์​” ช่วย “พงศ์สินธุ์” หาเสียงพื้นที่ชะอวด​ บอกเยาวชน​ ลุงไม่ใช่ศัตรูลูกหลาน  แต่เป็นศัตรูกับคนทุจริต​คอร์รัปชัน​ ลั่น​ไม่เคยได้เงินนอกเหนือจากเงินเดือน​ มีเงินหมื่นล้านแสนล้าน สุดท้ายต้องตาย​เหมือนกัน ขนาดโลงเท่ากัน​ ก่อนย้ำต้องสำนึกบุญคุณแผ่นดิน


พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม​ ในฐานะประธาน​ยุทธศาสตร์​และแค​นดิ​เดต​นายก​รัฐมนตรี​ของพรรค​รวม​ไท​ยสร้าง​ชาติ​ พร้อมด้วย นายธนกร​ วัง​บุญ​คง​ชนะ​ ​รองหัวหน้าพรรค​ นายเอกนัฏ​ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค​และแกนนำพรรค ​ช่วยนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรค หาเสียง​ที่ อ.ชะอวด​ จ.นครศรีธรรมราช

โดย พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า ลุงตู่มาหาแล้ว ลุงตู่ตัวจริงมาแล้ว ขอเสียงข้างนอกหน่อย วันนี้กำลังใจเต็มเลย วันนี้มาด้วยความคิดถึง คิดถึงจัง รู้อยู่ว่าชาวใต้คนใต้รักแรง ช่วงนี้เดินทางมาที่จังหวัดภาคใต้ ได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่ง ตนมาในพื้นที่ เพื่อให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.เขต ของพรรค พร้อมย้ำว่า เป็นห่วงหลายโครงการในพื้นที่ ซึ่งมีการบรรจุอยู่ในปีงบประมาณ 2567 ถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาล เราต้องหาเงินเข้าประเทศให้ได้มากขึ้น สิ่งที่ตนอยากจะทำคือ จะทำอย่างไรให้คนใต้มีงานทำ มีรายได้ที่ดี และอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวเดียวกัน​เหมือนเดิม และทุกจังหวัดจะต้องได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น​


พล.อ.ประยุทธ์​ ยังกล่าวว่า​ สิ่งที่ผมทำมาโดยตลอด คือ ทำด้วยความตั้งใจจริง เครียดอยู่เหมือนกัน​ ใช้เวลานาน​ในการแก้ไขปัญหาเดิมๆ ซึ่งต้องแก้ไขปัญหาได้อีกหลายวิธี​ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องมี ส.ส.พรรคเราให้ได้มากขึ้น จึงจะสามารถเสนอตนเป็นนายกรัฐมนตรีได้​ ดังนั้น รักตนคนเดียวไม่ได้​ ต้องรัก ส.ส.ของพรรคด้วย ก่อนที่จะชี้ไปทางด้านนอกในโรงเรียน ซึ่งเป็นเยาวชน​ เขาต้องการการศึกษาที่ดีกว่าเดิมหรือไม่ เราต้องสร้างโอกาสให้กับเขา​ เราเป็นผู้ใหญ่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอสมควรแล้ว​ เรารู้ว่าเราเดือดร้อน เราจะต้องไม่ทำให้ลูกหลานของเราลำบากต่อไปใช่หรือไม่ แต่เราต้องแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี

“ถ้าพูดได้​ แล้วทำไม่ได้​ มันคือปัญหาสร้างความขัดแย้ง​ พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว  

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ข้อสำคัญจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ให้ใครเป็นรัฐบาล ให้ใครเป็น ส.ส. ต้องเลือก 2 ใบ​ ถึงจะได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี​ มาเป็นรัฐบาล​ จะได้​มาทำสิ่งที่ทำให้เสร็จ​ ทำต่อเพิ่มมูลค่าให้ได้​ ถ้ารัฐบาลอ่อนแอ​ ประชาชนแตกแยก​ แล้วเขาจะมาลงทุนกับเราหรือไม่ เราต้องสามัคคี​ รับฟังเสียงจากทุกเสียง การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลยหรือไม่ ครอบครัวเราทะเลาะกันไม่ได้​ ครอบครัวเรามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เพราะฉะนั้นจะต้องมีความเคารพซึ่งกันและกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน บางอย่างผมรับได้​ บางอย่างผมรับไม่ได้ ฝากบอกน้องๆ ลูกหลานด้วยว่า “ลุงไม่ใช่ศัตรูของหลาน” มีศัตรูอย่างเดียวคือความไม่ซื่อสัตย์สุจริต คนทุจริต คนคดโกง


“ผมไม่เคยคอร์รัปชัน ผมไม่เคยได้เงินนอกเหนือจากเงินเดือนนายกรัฐมนตรี ลูกก็มี 2 คน หลานก็ไม่มี ครอบครัวมีอยู่ 4 คนเท่านั้นเอง ไม่ได้กินมากมาย​ ไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้กินหูฉลามทุกมื้อเสียเมื่อไหร่ มันจะรวยอะไรนักหนา ตายเอาอะไรไปได้ไหม มีเงินเป็นหมื่นล้าน​ แสนล้าน ตายเหมือนกันหรือเปล่า ขนาดโลงเท่ากันหรือไม่ ฝังที่เท่ากันหรือไม่ เพราะฉะนั้นแผ่นดินผืนนี้​ ให้เราทั้งเกิด แก่ เจ็บ และตาย​ ซึ่งแผ่นดินผืนนี้เท่านั้น เกิดมาเราต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน​ จะยากดีมีจน จะสบายไม่สบาย​ แต่แผ่นดินผืนนี้ให้เรายืนอยู่​ เพราะเป็นแผ่นดินแห่งอิสรภาพ​ เป็นแผ่นดินของคนไทย จะหัวขวาน​ ด้ามขวาน นี่คือประเทศไทย เราไม่ทะเลาะกันเอง​ในชาติ และจะไม่ทะเลาะกับคนอื่นด้วย วันหน้าเราจะได้เห็นลูกหลานที่สมบูรณ์แข็งแรง มีรายได้ที่เพียงพอ ไม่ว่าอะไรจะขึ้นจะลง​ นายกฯ โดนด่าทั้งวัน อากาศไม่ดี​ก็โดนด่า​ รถติดก็โดนด่า ผมรับได้หมด เพราะผมเป็นคนรักประชาชน ใครจะว่าอย่างไรก็ทำให้ผมนั้นมีกำลังใจ ยิ่งด่ายิ่งเป็นกำลังใจ ​ด่ามาเถอะครับ​ ผมรับได้ ชมหน่อยก็ยังดี ต้องการคำชี้แจง ต้องการฟังข้อเท็จจริง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอเสียงคนรักลุงตู่หน่อย​ คนรักพี่ตู่หน่อย​ แบยุ​ บังยุทธ์​ สำหรับประเทศไทยเป็นทุกอย่างให้ รักท่านเพราะตั้งใจทำให้ท่านทุกคน พร้อมดึงผู้สมัครมาเทียบกันว่าหล่อสู้กันได้ไหม จะต้องทำไปด้วยกัน ทั้งคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ก่อนทิ้งท้ายว่า 14​ เลือกตั้งสิครับ จะได้ทำต่อ ทำเพื่อใคร เราต้องอ่านความก้าวหน้าโลกมองเราอย่างไร​

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศ​ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทักทายประชาชนและเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นช่วงพักกลางวันพอดี​ ทำให้มีเด็กนักเรียนทุกระดับชั้น มารอพบ พล.อ.ประยุทธ์ และขอถ่ายรูป พร้อมส่งเสียงกรี๊ดดังสนั่นโรงเรียนชะอวด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย