ปชป.จี้ “เพื่อไทย” แจงให้ชัดปมแจกเงินดิจิทัล

พรรคประชาธิปัตย์ 19 เม.ย.-“เกียรติ” จี้ “เพื่อไทย” แจงให้ชัดปมแจกเงินดิจิทัล ถามเอาเงิน 5 แสนล้านบาทมาจากไหน หลังงบแผ่นดินเหลือ 2 แสนล้าน คนรวยได้เงินหมื่นต้องเสียภาษี รอดูผล กกต.ตัดสิน


นายเกียรติ สิทธีอมร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และผู้เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ชี้แจงเรื่องนโยบายแจกเงินดิจิทัลสามารถใช้เงินจากงบประมาณได้ ว่า  เป็นไปไม่ได้ เพราะเขาชี้แจงนโยบายนี้ไม่ชัดเจน การที่เขาบอกว่านโยบายดังกล่าวไม่กระทบกับงบประมาณแผ่นดินนั้น ใครก็พูดได้ แต่มีคำถามว่าจะเอางบประมาณมาจากไหน จึงถือว่ายังไม่ชัดเจนอยู่ดี และถึงวันนี้ก็ยังไม่ชัด และตนไม่ทราบว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีท่าทีอย่างไร เพราะเราไม่ได้เห็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยส่งไปว่ามันคืออะไร เราได้ยินเฉพาะที่เขาพูด

  “ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ อาจมีผลกระทบมากมายกับเศรษฐกิจทั้งประเทศ ก็ต้องมีความชัดเจน ดังนั้นผมขอเรียกร้องให้มีความชัดเจน และผมไม่มีปัญหาถ้าใครจะทำนโยบายที่ไม่เป็นความเสี่ยงกับประเทศ และมีความเป็นธรรม สิ่งหนึ่งที่ผมโดนถามตลอดว่าดีนะที่มีนโยบายของใครก็แล้วแต่เอาเงินจ่ายให้ตัวเองด้วย  อันนี้งง เพราะนโยบายนี้ หัวหน้าพรรคเขาก็ได้ แคนดิเดตนายกฯก็ได้หมด เจ้าสัวทุกคนก็ได้หมดในเงิน 10,000 บาทนี้ มันมีด้วยหรือ ผมยังไม่เคยเห็น ยกเว้นในอดีตไกลๆ เลยในยุคที่มีประชานิยมสุดโต่ง แต่หลังจากนั้นไม่มีใครกล้าทำ ดังนั้น เมื่อกล้าทำ เขาก็ต้องกล้าอธิบาย” นายเกียรติ กล่าว


ส่วนนโยบายแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท ถือเป็นประชานิยมสุดโต่งหรือไม่ นายเกียรติ กล่าวว่า  ผลที่ตามมาคือสร้างความเหลื่อมล้ำแน่นอน ทำไมคนที่มีอันจะกินยังได้รับเงินตรงนี้ไปใช้ และดีอย่างไรกับประเทศ นักวิชาการทุกคนออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากระตุ้นอย่างนี้ได้ผลระยะสั้น เอาเงิน 500,000 กว่าล้านบาท มากระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นอย่างนั้นหรือ และทุกคนพูดตรงกันหมดว่า นึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าจะเอาเงินมาจากไหน เพราะอย่างเก่งที่สุด เงินงบประมาณที่เหลือ 2 แสนกว่าล้านบาท ต้องถูกนำไปใช้อย่างอื่นที่จำเป็นอยู่ก่อนแล้ว แต่ถ้าจะต้องใช้เงินเกินกว่านั้น จะเอาเงินมาจากไหน  ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องมีคำอธิบายและตอบคำถามต่อประชาชนให้ได้ ไม่ใช่มาตอบเรื่องนี้กับตน อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากวิจารณ์นโยบายของพรรคการเมืองอื่นๆ ถ้าไม่ใช่สิ่งที่สร้างความเสี่ยงให้กับประเทศ

เมื่อถามว่า ประชาชนชื่นชอบนโยบายนี้ของพรรคเพื่อไทย นายเกียรติ กล่าวว่า จากที่ได้คุยกับคนชั้นกลาง พบว่าไม่ชอบเลย แต่คนรากหญ้าเห็นว่าควรได้ จึงบอกว่าถ้าเอาคนที่ไม่มีเงินในบัญชีเลยแม้แต่บาทเดียว หรือคนที่มีเงินในบัญชีไม่ถึง 10,000 บาท ก็ยินดีให้ได้เลย เพราะถือว่าตรงเป้า เนื่องจากลดความเหลื่อมล้ำได้ทันที และใช้เงินน้อยกว่า กระตุ้นเศรษฐกิจได้เหมือนกัน และยังมีคำถามอีกว่าคนที่มีรายได้เยออยู่แล้ว ถ้าได้รับเงินอีก 10,000 บาท จะต้องเสียภาษีด้วยหรือไม่ ก็ยังไม่มีความชัดเจน  

“เข้าใจว่านโยบายนี้ทำให้พรรคเพื่อไทยได้คะแนน แต่ต้องซื่อสัตย์ต่อประชาชนว่าภายใต้นโยบายที่น่าสนใจนั้นมีความเสี่ยงหรือไม่ ก็ต้องตอบให้ได้ และกกต.ต้องเป็นผู้อนุมัติสิ่งที่เขาชี้แจงว่าในที่สุดนโยบายนั้นใช้ได้หรือไม่” นายเกียรติ กล่าว


เมื่อถามว่า จะอ้างได้หรือไม่ว่าทุกพรรคมีนโยบายแจก และเป็นภาระงบประมาณได้เช่นกัน นายเกียรติ กล่าวว่า ไม่เหมือนกัน และต้องดูให้ลึก เพราะนโยบายของแต่ละพรรคที่เราเห็น ก็ชัดเจนว่าให้คนที่ควรต้องได้รับการดูแล ซึ่งถือว่ากระจายทั่วไปหมด ขณะที่มีคน 35 ล้านคนไม่ต้องการความช่วยเหลือตรงนี้ แต่อีก 15 ล้านคน ต้องการความช่วยเหลือ จึงขอให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงให้ชัดเจน เพราะถ้าประกาศออกไป คนก็ไม่เข้าใจ คนมองในมุมปะชาชนว่าอาจได้รับประโยชน์ แต่ผลกระทบที่รุนแรงจะเป็นอย่างไร เขารับผิดชอบได้หรือไม่ ที่สำคัญ เรื่องข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนนั้น ผู้ที่ประกาศนโยบายนี้และดำเนินการจะต้องรับผิดชอบ

“พอผมบอกว่านโยบายนี้เกี่ยวข้องกับบริษัทเอกชน ก็บอกไม่มี แต่จะใช้ใครทำ ท่านก็ไม่บอก พอผมถามว่าเงินมาจากไหน ก็บอกว่าจะไปจัดหามา ซึ่งพูดไม่ชัด และเดิมท่านบอกว่าเป็นเงินสกุลดิจิตอล ซึ่งคำพูดนี้ชัดเจน แต่ต่อมาบอกว่าเป็นดิจิตอลวอลเล็ต มันเปลี่ยนไปเรื่อย ต้องเอาให้นิ่งว่าที่นำเสนอคืออะไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของ กกต.” นายเกียรติ กล่าว

ส่วนจะสามารถปรับเปลี่ยนงบประมาณปี 2567 เพื่อโยกงบประมาณอื่นมาใช้เรื่องนี้ได้หรือไม่ นายเกียรติ กล่าวว่า  การเกลี่ยหรือจัดสรรงบประมาณทำได้ ถ้าเขาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ต้องมีเหตุผล เพราะเสกเงินมาไม่ได้ เงินงบประมาณมีจำกัดเหลือเพียง 200,000 กว่าล้านบาท และต้องใช้ภายใน 6 เดือน คือ 500,000 กว่าล้านบาท แล้วจะนำเงินมาจากไหน ถ้าจะบอกว่าภายใน 6 เดือน แจกเป็นวอลเล็ตไปก่อน แล้วค่อยมาขึ้นเงิน ก็ไม่ทันปีงบประมาณ จึงเป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยต้องชี้แจงว่าจะนำเงินจากไหนมาทำนโยบายนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]