“พล.อ.ประยุทธ์” เตรียมขึ้นเหนือตระเวนหาเสียง

ทำเนียบฯ 18 เม.ย.- “ธนกร” ระบุหลังสงกรานต์ “พล.อ.ประยุทธ์” ขึ้นเหนือตระเวนหาเสียง พิษณุโลก-เชียงใหม่ ชี้คะแนนนิยมยังดี แนะเพื่อไทยทบทวนนโยบายเงินดิจิทัล หลังนักวิชาการ-อดีตผู้ว่าฯ ธปท. มองสร้างความเสียหายแก่ชาติ ยันเกณฑ์ทหารยังจําเป็น แต่ต้องปรับสมดุล


นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า ได้เสนอแผนปราศรัยหาเสียงไปยังนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และวันนี้ (18 เม.ย.) เวลา 14.00 น. คณะทำงานชุดนี้จะประชุมเพื่อกำหนดแผนการปราศรัย  โดยเสนอให้เริ่มต้นที่ภาคเหนือ คือ จ.พิษณุโลก และเชียงใหม่ ซึ่งจะเริ่มในสุดสัปดาห์นี้ จากนั้นเป็นภาคอีสาน ต่อด้วยภาคกลาง และไปภาคใต้

“ภาคใต้ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ตนดูแลพื้นที่มาโดยตลอด ซึ่งต้องมีการปรับแผนหาเสียง โดยได้มีการพูดคุยกับคณะกรรมการภาคว่าจะมีการปรับแผนหาเสียงก่อนการเลือกตั้งประมาณ 10 วันก่อนโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง” นายธนกร กล่าว  


นายธนกร กล่าวว่า ส่วนความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ในพื้นที่ภาคใต้สูงมาก จากการที่ลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ เช่น ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำขอให้ประชาชนกาหมายเลข 22 และต้องเลือกผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตของพรรคทุกเขต เพื่อให้ผู้สมัครเหล่านี้มาเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีบางพรรคไปหาเสียง โดยทิ้งพรรคตัวเองแล้ว ไปบอกประชาชนให้เลือก “พรรคลุงตู่” แต่เลือกคนให้เลือกตัวเองเป็น ส.ส.โดยอ้างว่าเพื่อไปเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีในสภา บอกว่าไม่เป็นความจริง จึงต้องให้ผู้สมัครทำความเข้าใจกับชาวบ้าน โดยใช้คลิปให้ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค

นายธนกร กล่าวว่า ส่วนผลโพลที่ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นลำดับที่ 3 นั้น คิดว่าประชาชนที่เลือกฝั่งนี้ การเมืองในช่วงโค้งสุดท้ายจะเป็นลักษณะสองฝั่งอย่างชัดเจน คือ ฝั่งของ พล.อ.ประยุทธ์กับฝั่งของพรรคเพื่อไทย การเมืองจะบีบให้ประชาชนเลือกสองข้างนี้ ซึ่งคิดว่าความนิยมของประชาชนยังดีต่อเนื่อง ขณะที่ภาคอื่นๆ ค่อยๆ ดีขึ้น

“มั่นใจว่าประชาชนยังให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์และผู้สมัครของพรรค รทสช.ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง” นายธนกร กล่าว


นายธนกร กล่าวถึงการปราศรัยที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า กระแสดีมาก แต่วันนี้นโยบายบางพรรคทําให้ประชาชนสับสน อย่างนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย มีนักวิชาการและอดีตผู้ว่าแบงค์ชาติหลายคน เห็นว่านโยบายนี้จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ จึงออกมาให้สติว่าหากทำแบบนี้ประเทศจะเสียหายอย่างไร ซึ่งวันนี้มีข้อมูลรอบด้านแล้ว และเข้าใจว่าพรรคที่ทำนโยบายเหล่านี้คงจะต้องไปทบทวน

“เห็นจากรายงานข่าวของสื่อมวลชน ทีมนโยบายกับทีมกฎหมายของพรรคยังไปกันคนละทิศละทางอยู่ เพราะแหล่งที่มาของเงินบอกไม่ได้แน่นอน อย่างเช่นที่บอกว่าจะได้ภาษี vat มาเป็นแสนล้านบาท แต่อดีตผู้ว่าแบงค์ชาติบอกว่า ภาษี vat ได้แค่ 3 หมื่นกว่าล้าน และเงิน 2 แสนล้าน รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ไม่พออยู่ดีกับจํานวน 5 แสนล้าน แล้วคุณจะไปกู้ก็ไม่กล้า เพราะโจมตีรัฐบาลนี้ตลอดว่ากู้  เชื่อว่าสุดท้ายแล้วนโยบายนี้ไปไม่ได้ หรือถึงจะไปต่อประชาชนก็คงไม่เอาด้วย คิดว่านโยบายดังกล่าวต้องทบทวน ไม่ได้ก้าวล่วงพรรคท่าน แต่ท่านก็พูดถึงนโยบายพรรคตนอยู่ตลอดเวลา ก็มีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจง” นายธนกร กล่าว

สำหรับการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ที่มีการออกมาดีเบตกันในช่วงนี้ นายธนกร กล่าวว่า การเกณท์ทหารยังมีความจำเป็นอยู่  แต่จะปรับสัดส่วนอย่างไร เพราะเชื่อว่าคนที่อยากเป็นยังมีอยู่มาก ที่ผ่านมาทางกองทัพก็มีความพยายามจะปรับสมดุลต่างๆ ซึ่งคนที่ผ่านการเกณฑ์ทหารมาก็มีระเบียบวินัย ไม่ได้เสียหาย และชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น และวันนี้สวัสดิการต่างๆ มีการปรับขึ้นแล้ว เรื่องดังกล่าวจะปรับอย่างไรให้สมดุล ตนไม่ได้สุดขั้ว และเชื่อว่ากองทัพเองก็มีการปรับในเรื่องดังกล่าว

“ไม่อยากให้พรรคการเมืองนําเรื่องเหล่านี้ไปทำลายองค์กร หลายองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดี แต่ต้องไม่ให้คนไม่ดีมาปกครองบ้านเมือง เห็นนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกล  มักจะพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้เยอะไปหมด แต่คือเหตุการณ์ของแต่ละองค์กร ไม่ใช่หมายถึงองค์กรเขาไม่ดี ต้องให้ความเป็นธรรมกับหน่วยงานของรัฐด้วย ไม่ใช่เกิดสถานการณ์การยิงกันตาย แล้วมาบอกว่าต้องล้างทั้งองค์กร เป็นตรรกะที่แย่ ฉะนั้นถึงบอกว่าทุกองค์กรมีปัญหาต้องแก้กันไป การดีเบตต่างๆ ต้องนำข้อเท็จจริงมาอธิบายให้กับประชาชนและสังคมเข้าใจ ไม่ใช่มีอคติ และตั้งไหล่เพดานสูง จนประเทศไปไม่ได้ว่าไม่ใช่”  นายธนกร กล่าว

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณจะร่วมเวทีดีเบตที่ไหนบ้างหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้ยัง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ ที่ขอมา พล.อ.ประยุทธ์ก็ยินดี และเห็น พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ ซึ่งก็คือนักการเมืองแล้ว และก็มีประชาชนชื่นชมมากมาย ส่วนคนที่เห็นต่าง การแสดงออกต่างๆ  ถ้าอยู่ในกรอบไม่มีปัญหา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ลั่นพ่อป่วยจริง แจงสังคมได้

ทำเนียบ 13 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ลั่นแจงสังคมได้ พ่อป่วยจริง ใครจะคิดอย่างไร ห้ามไม่ได้ ชี้มติแพทยสภาว่าไปตามกระบวนการ เผย “ทักษิณ” เตรียมไปศาล 13 มิ.ย.นี้ ย้ำเหตุเกิดก่อนตัวเองนั่งเก้าอี้นายกฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏการณ์ดังกล่าวมองว่าเป็นการล้อมกรอบพรรคเพื่อไทย และมองกันว่าเป็นการแบ่งชนชั้นว่า ที่จริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติว่าเป็นอย่างไร และยังไม่มีแพทยสภาคนใด ที่ออกมาพูดว่านายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่จริง ยังไม่ได้มีข้อสรุปตรงนี้และทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ จะแปลว่าอย่างไรก็ไม่ทราบจริงๆ ส่วนจะเป็นชนชั้นอะไรอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย เมื่อถามว่าหลังแพทยสภามีมติออกมา จะมีผลอะไรตามมากับนายทักษิณหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าไม่มีและคุณพ่อเตรียมที่จะชี้แจงแค่นั้น เป็นการชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง เมื่อถามย้ำว่าประเด็นนี้สามารถแจงสังคมได้ใช่หรือไม่นางสาวแพทองธารกล่าวว่า แจงได้ และพูดมาตลอดว่า นายทักษิณอายุมากแล้ว และเคยเป็นโควิดตั้งแต่ ก่อนกลับประเทศไทยตอนอายุประมาณ 72 ปี ตนจำได้เพราะไม่สบายหนัก และมีประวัติเรื่องนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่การรักษาที่เมืองนอก และเกี่ยวเนื่องกันมา […]

เพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ซอยฉลองกรุง 55 ดับสนิทแล้ว

กทม. 13 พ.ค. – เหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ซอยฉลองกรุง 55 ไฟดับแล้วทุกจุด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบสารเคมี เตรียมปิดศูนย์บัญชาการวันนี้ แต่เปิดศูนย์พักพิงให้บริการประชาชนต่อเนื่อง กรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ เกิดขึ้นตั้งแต่ 16.00 น. ของวันที่ 11 พฤษภาคม กระทั่งเมื่อคืนนี้ช่วง 01.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม เกิดมีไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้งบางจุด เนื่องจากอุณหภูมิพลาสติกที่สูงสะสมประกอบกับลมแรง แต่เป็นเพียงหย่อมเล็กๆ และไม่มีการลามไปยังจุดอื่นๆ เจ้าหน้ายังคงคอยควบคุมอุณหภูมิเพื่อป้องกันการลุกไหม้ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน จนสามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศขณะนี้ พบว่ายังคงมีกลุ่มควันลอยออกมาจากตัวอาคารที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ และยังคงมีกลิ่นสารเคมีลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ วันนี้ นางเกศี จันทราประภาวัฒน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ภายในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ สำนักงานเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ด้วย ด้าน นายธราพงษ์ เพ็ชร์คง ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุด ควบคุมเพลิงได้สนิททั้งหมดในช่วงเที่ยงของวันนี้ […]

เตรียมฝากขัง “สจ.กอล์ฟ” พรุ่งนี้ อาจโดนข้อหาซ่องโจรเพิ่ม

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจยังไม่นำตัว “สจ.กอล์ฟ” กับลูกน้องไปฝากขังผัดแรก ต้องสอบปากคำเพิ่มเติม อาจแจ้งข้อหาซ่องโจรเพิ่มด้วย มั่นใจดิ้นไม่หลุด จากเหตุการณ์ นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ. เขต7 จ.สงขลา ลูกชาย สส.สงขลา ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจตชด. ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง ขณะไปลงคะแนน ก่อนถูกออกหมายจับ และเข้ามอบตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ขณะที่ลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้ว ซึ่งทั้ง7 คนยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังสภ.เมืองสงขลา เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาล จ.สงขลา พรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม วันนี้อาจมีการนำตัวผู้ต้องหาบางคนออกมาสอบสวนเพิ่มเติม และอาจแจ้งข้อหาเพิ่ม อาทิ ซ่องโจร เนื่องจากเป็นการรวมตัวเกิน 5 คนเพื่อกระทำความผิด อย่างไรก็ตาม คดีนี้เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานหนาแน่นทั้งพยานบุคคล ภาพจากกล้องวงจรปิด หลักฐานในโทรศัพท์มือถือของสจ.กอล์ฟ […]

กทม.ทำบุญให้ผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากตึก สตง. ถล่ม

กทม. 13 พ.ค.-พิธีตักบาตรพระสงฆ์และสวดพระพุทธมนต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากอาคาร สตง. ถล่ม พบมี ผู้ว่าฯ สตง.เข้าร่วมพิธี 13 พ.ค.68 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่บริเวณชั้น 3 ภายในพื้นที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป และพิธีสวดพระพุทธมนต์ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิต จากอาคาร สตง. ถล่ม โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เป็นประธาน พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม., นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. รวมถึงอาสาหน่วยกู้ภัยและผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงานช่วยเหลือตลอดทั้ง 45 วันของปฏิบัติการ โดยพบว่ามี นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมพิธีด้วย จากนั้นทีมงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมด ทั้งหน่วยกู้ภัย รวมถึงทีมจากศูนย์บัญชาการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีมสุนัขกู้ภัย […]