
เพื่อไทยยื่นแนวทางแก้รธน.ให้นายกฯพรุ่งนี้
พท.เสนอแนวทางแก้รธน.ให้นายกฯ พรุ่งนี้
พท.เสนอแนวทางแก้รธน.ให้นายกฯ พรุ่งนี้
“สมพงษ์” กำชับสมาชิกทุกคนช่วยหาเสียง
พรรคเพื่อไทย 10 ก.ค.-เพื่อไทยประชุมกก.บห. กำหนดวันประชุมใหญ่ 21 ก.ค.นี้ พร้อมมีมติส่ง “สลิลทิพย์ สุขวัฒน์” สู้ศึกเลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีวาระสำคัญ เรื่องกำหนดวันประชุมใหญ่ โดยกำหนดให้ประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2563 ในวันอังคารที่ 21 กรกฎาคมนี้ อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับพรรค อนุมัติร่างระเบียบพรรคเพื่อไทยว่าด้วยการบริหารงานของตัวแทนพรรคประจำจังหวัด อนุมัติให้ส่งนางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. สมุทรปรการ เขตเลือกตั้งที่ 5 เห็นชอบงบการเงินและแต่งตั้งผู้สอบบัญชี และเห็นชอบรายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปี 2562 สำหรับวาระในการประชุมใหญ่ วันที่ 21 กรกฎาคม นอกจากจะพิจารณางบการเงินปี 2562 และการดำเนินกิจการของพรคในรอบปี 2562 แล้ว มีเรื่องสำคัญที่จะนำเสนอที่ประชุมคือ การเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งชุดใหม่ ให้เป็นไปตามองค์ประกอบที่กฎหมายพรรคการเมืองบัญญัติไว้ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคมีมติให้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 5 จังหวัดสมุทรปราการ ว่า จังหวัดสมุทรปราการเป็นฐานเสียงเดิมของพรรคเพื่อไทย และนางสลิลทิพย์เป็นผู้สมัครคนเดิม เคยเป็นส.ส. 3 สมัย ในจังหวัดสมุทรปราการ […]
“สมคิด”ชี้งบประมาณปี64ไม่สอดรับ New Normal มีความซ้ำซ้อนในการใช้งบที่ไม่ตอบโจทย์ประเทศ โดยเฉพาะการเร่งฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ
กกต. 26 พ.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 พ.ค.) เป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4 ลำปาง มีผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น 5 คน จาก 5 พรรคการเมือง ประกอบด้วย นายวัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 1 ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ จากพรรคเสรีรวมไทย หมายเลข 2 นายอำพล คำศรีวรรณ พรรคพลังท้องถิ่นไท หมายเลข 3 นายองอาจ สินอนันต์เศรษฐ์ พรรคไทรักธรรม หมายเลข 4 และน.ส.ปทิตตา ชัยมูลชื่น พรรคเศรษฐกิจใหม่ หมายเลข 5 ขณะที่ พรรคเพื่อไทยที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่าจะไปสมัครในวันสุดท้ายของการรับสมัคร แต่ปรากฏว่าไม่ได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยพรรคเพื่อไทยแถลงว่า นายพินิจ จันทรสุรินทร์ ไม่ประสงค์ลงรับสมัคร เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสูญเสียบุตรชาย ประกอบกับมีอายุมาก จึงไม่ต้องการลงรับสมัครเลือกตั้ง และพรรคเพื่อไทยเห็นว่า […]
เพื่อไทย 26 พ.ค.- นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.กู้เงิน ทั้ง 3 ฉบับ เพื่อให้เงินถึงมือประชาชนมากที่สุด และให้มีกลไกการตรวจสอบการใช้เงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ หลังเห็นข้อบกพร่องของ พ.ร.ก.กู้เงิน ทั้ง 3 ฉบับ โดยเฉพาะการควบคุมและตรวจสอบการใช้เงินที่หละหลวม จึงเสนอให้เพิ่มสัดส่วนของคณะกรรมการในการเข้ามาตรวจสอบและพิจารณากลั่นกรองโครงการต่างๆ โดยมีตัวแทนจาก ส.ส.และผู้ประกอบการ เพื่อให้การใช้เงินมีประสิทธิภาพ และป้องกันการทุจริต ขณะที่ นายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่รัฐบาลจะต้องดูแลประชาชนอย่างทั่วถึงทุกกลุ่ม และเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ รักษาเสถียรภาพการเงินการคลังของประเทศ แต่ต้องทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ แต่การเยียวยาของรัฐบาล กลับทำให้ประชาชนเกิดความสับสน จึงเชื่อว่ารัฐบาลจะไม่สามารถใช้เงิน 1.9 ล้านบาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกอบกู้เศรษฐกิจได้ .- สำนักข่าวไทย
พรรคเพื่อไทย 26 พ.ค.-หน.เพื่อไทยแจงเหตุไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งส.ส.เขต 4 ลำปาง เคารพการตัดสินใจ “พินิจ” สนใจลงนายกฯอบจ.มากกว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายพินิจ จันทรสุรินทร์ แคนดิเดตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ลำปาง เขต 4 แทนตำแหน่งที่ว่าง ว่า พรรคเพื่อไทยดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งครบถ้วนถูกต้อง สามารถไปยื่นสมัครได้ตั้งแต่วันแรกของการเปิดรับสมัคร ซึ่งนายพินิจแสดงความพร้อมลงรักษาพื้นที่และดูแลพี่น้องประชาชนชาวเขต 4 ลำปาง แต่เมื่อถึงวันรับสมัคร นายพินิจรู้สึกไม่สบายใจ เพราะยังคงโศกเศร้าเสียใจ ยังทำใจเรื่องสูญเสียบุตรชายไม่ได้ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการประเมินว่ารัฐบาลไปต่อลำบาก อายุสภาอาจเหลือไม่มาก และต้องเผชิญกับการใช้อำนาจรัฐสารพัดรูปแบบ ที่สำคัญนายพินิจมีความประสงค์จะลงสมัคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ซึ่งต้องแข่งขันในอีกไม่กี่เดือน และได้ยื่นความจำนงค์แจ้งให้พรรคทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงตัดสินใจขอเว้นวรรคการเลือกตั้งครั้งนี้ไปก่อน “นายพินิจสนใจทำงานการเมืองท้องถิ่น เพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนชาวลำปาง เมื่อพรรคทราบก็เข้าใจ และเห็นว่าไม่มีใครเหมาะสมจะมาแทนได้ในเวลานี้ จึงไม่ส่งตัวแทนของพรรคลงสมัคร การเลือกตั้งมีแพ้มีชนะได้ แต่หัวใจสำคัญคือการอาสารับใช้พี่น้องประชาชน เราตั้งใจสู้เต็มที่เพื่อดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนต่อไป แต่เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของนายพินิจ” นายสมพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
พรรคเพื่อไทย 26 พ.ค.-หน.เพื่อไทยแจงเหตุไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งส.ส.เขต 4 ลำปาง เคารพการตัดสินใจ “พินิจ” สนใจลงนายกฯอบจ.มากกว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายพินิจ จันทรสุรินทร์ แคนดิเดตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ลำปาง เขต 4 แทนตำแหน่งที่ว่าง ว่า พรรคเพื่อไทยดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งครบถ้วนถูกต้อง สามารถไปยื่นสมัครได้ตั้งแต่วันแรกของการเปิดรับสมัคร ซึ่งนายพินิจแสดงความพร้อมลงรักษาพื้นที่และดูแลพี่น้องประชาชนชาวเขต 4 ลำปาง แต่เมื่อถึงวันรับสมัคร นายพินิจรู้สึกไม่สบายใจ เพราะยังคงโศกเศร้าเสียใจ ยังทำใจเรื่องสูญเสียบุตรชายไม่ได้ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการประเมินว่ารัฐบาลไปต่อลำบาก อายุสภาอาจเหลือไม่มาก และต้องเผชิญกับการใช้อำนาจรัฐสารพัดรูปแบบ ที่สำคัญนายพินิจมีความประสงค์จะลงสมัคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ซึ่งต้องแข่งขันในอีกไม่กี่เดือน และได้ยื่นความจำนงค์แจ้งให้พรรคทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงตัดสินใจขอเว้นวรรคการเลือกตั้งครั้งนี้ไปก่อน “นายพินิจสนใจทำงานการเมืองท้องถิ่น เพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนชาวลำปาง เมื่อพรรคทราบก็เข้าใจ และเห็นว่าไม่มีใครเหมาะสมจะมาแทนได้ในเวลานี้ จึงไม่ส่งตัวแทนของพรรคลงสมัคร การเลือกตั้งมีแพ้มีชนะได้ แต่หัวใจสำคัญคือการอาสารับใช้พี่น้องประชาชน เราตั้งใจสู้เต็มที่เพื่อดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนต่อไป แต่เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของนายพินิจ” นายสมพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 26 พ.ค.- นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย เปิดเผย ถึงการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ว่า นายพินิจ จันทรสุรินทร์ อดีต ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย และบิดาของนายอิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ ที่เพิ่งเสียชีวิตไป ได้แจ้งความจำนงมายังพรรคเพื่อไทยแล้วว่า จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ และความพร้อมทางจิตใจ ภายหลังจากเพิ่งสูญเสียบุตรชาย ส่วนพรรคจะส่งใครลงหรือไม่นั้น ก็ถือว่าเป็นดุลยพินิจของพรรค “ครอบครัวจันทรสุรินทร์ ทุกคนมีตำแหน่งทางการเมืองครบแล้ว ทั้ง ส.ส และ นายกเทศมนตรี แต่เหตุผลหลัก คือ ไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า หลังจากที่นายอิทธิรัตน์เสียชีวิต” นายทนุศักดิ์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 25 พ.ค.-เพื่อไทย เตือนรัฐคงพ.ร.ก.ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิวอาจมีปฏิกิริยาย้อนกลับ เชื่อหวังสกัดความเคลื่อนไหวทางการเมือง แนะสร้างสมดุล สุขภาพ เสรีภาพ และเศรษฐกิจ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการขยายเวลาประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารรราชชการในสถานการณณ์ฉุกเฉินและคงประกาศเคอร์ฟิว ของรัฐบาล ทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินการดังกล่าว เป็นการกระชับอำนาจ และใช้อำนาจอย่างฟุ่มเฟือย ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ ขณะที่ปัญหาโควิด-19 คลี่คลายได้สำเร็จจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชน แต่หากรัฐบาลยังยืดเคอร์ฟิวไปเรื่อย ๆ อาจเกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับจนรัฐบาลรับมือไม่ได้ ขณะที่นักวิชการมองว่าวิกฤติโควิด-19 หนักกว่า รุนแรงกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง 10 เท่า และรัฐบาลต้อง3 ลูกมรสุมโควิด -19 มรสุมเยียวยาเศรษฐกิจและมรสุมวิกฤติการเมืองทั้งในและนอกพรรครัฐบาล ดังนั้น รัฐบาลต้องสร้างสมดุล ทั้งสุขภาพ เสรีภาพ และเศรษฐกิจ ให้เกิดขึ้นให้ได้ “ไม่ใช่ว่ารัฐบาลเอาทุกปัญหาไปกลบไว้ใต้โควิด และหลบหลังโควิด แล้วอธิบายว่าแก้ปัญหาสังคม เศรษฐกิจไม่ได้เพราะโควิด การแก้ปัญหาโควิด-19 หลายเรื่องไม่ควรทำ โรงเรียนเปิดไม่ได้ แต่ห้างเปิดได้ ทั้งที่ห้างจำนวนคนมากกว่า เข้า-ออก ต้องแสกนข้อมูลที่ประชาชนเกรงว่าจะถูกแฮ็กข้อมูล หรือความพยายามเข้าถึงข้อมูลประชาชนหรือไม่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือการประกาศเคอร์ฟิว รัฐบาลต้องใช้ให้เหมาะสม สอดคล้องสถานการณ์ไม่ใช้ฟุ่มเฟือย” โฆษกพรรคเพื่อไทย […]
ขณะเดียวกัน หวั่น แบงก์ชาติไม่เป็นกลาง กรณีให้ออกตราสารหนี้ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ภาคเอกชน อาจกระทบความมั่นคงการเงินการคลัง
กรุงเทพฯ 21 พ.ค.- นายนพคุณ รัฐผไท ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การที่รัฐบาล โดยกระทรวงศึกษาธิการ นำนโยบายการเรียนออนไลน์มาบังคับใช้ ให้นักเรียนเรียนทางออนไลน์มากขึ้น แทนการเรียนในสถานศึกษา ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ปัจจัยหลักที่รัฐบาลนำนโยบายนี้มาใช้ คือ เกิดมาจากความกลัวไว้ก่อนของรัฐบาล กลัวว่าเด็กจะติดเชื้อ ซึ่งขัดแย้งในความเป็นจริง หากเด็กจะติดเชื้อก็ติดมาจากครอบครัว ไม่น่าจะมาติดในโรงเรียน นายนพคุณ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สอบถามผู้ปกครองพบว่าผู้ปกครองอยากให้เปิดโรงเรียน เพราะต้องทำงาน ไม่มีเวลามาดูแลบุตรหลาน นอกจากนี้ เครื่องมือในการเรียนก็ไม่มีความพร้อม ทั้งคอมพิวเตอร์ และระบบไวไฟฟรี จึงต้องการให้กระทรวงศึกษาทำการสอบถามทุกพื้นที่ของประเทศ จังหวัดไหนพร้อมก็ดำเนินการ พื้นที่ไหนไม่พร้อมก็ไม่ควรดำเนินการ ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะกระทรวงศึกษาไม่เคยทำการบ้าน ผลจึงล้มเหลวไม่เป็นท่า รัฐไม่เคยเรียนรู้จากประชาชน ใช้ระบบสั่ง แต่ไม่เคยถามประชาชนว่าพร้อมหรือไม่ .- สำนักข่าวไทย