พรรคเพื่อไทย 3 ส.ค. –แกนนำเพื่อไทยประชุมหาแนวทางแก้รัฐธรรมนูญ ต้องมีส.ส.ร. เงื่อนไขแก้ต้องง่ายขึ้น คาดใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 1 ปี เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯพรุ่งนี้
พรรคเพื่อไทยประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีแกนนำร่วมประชุม อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ นายโภคิน พลกุล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวภายหลังประชุมว่า สถานการณ์ที่จะทำให้บ้านเมืองเดินไปได้คือการมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยและมีส่วนร่วมจากประชาชน ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา ปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎร ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยทำงานเป็นเวลาหลายเดือนและได้ข้อสรุปการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นประโยชน์และจะเป็นบันไดทำให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ ซึ่งพรรคเห็นด้วยกับกรรมาธิการฯ ที่นำเสนอ 2 เรื่องหลัก คือการให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และทำให้เงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญง่ายขึ้น
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยได้พิจารณาเรื่องเงื่อนเวลา ถ้าต้องการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นทางออกทางรอดของประเทศไทย จึงเห็นว่าระยะเวลาการร่างรัฐธรรมนูญไม่ควรเกิน 7-8 เดือน และกระบวนการตั้งหมดไม่ควรเกิน 1 ปี ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวความสามารถทำได้ เพราะมีรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่เป็นต้นแบบ ไม่ได้เริ่มจากศูนย์ และหลังมีรัฐธรรมนูญใหม่ ควรยุบสภา จัดเลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจประชาชนให้ตัดสินใจอนาคตของประเทศใหม่อีกครั้ง ภายใต้กฎกติกาที่เป็นสากลและเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน และจะยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ใน 1-2 วันนี้ที่เปิดสภาฯ
ส่วนกรณีส.ส.และส.ว.บางส่วนไม่เห็นด้วยกับการตั้งส.ส.ร.เพราะเป็นการตีเช็คเปล่า คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เป็นการตีเช็คเปล่าโดยไม่ยึดโยงอำนาจของประชาชนมาหลายเหตุการณ์แล้ว ตั้งแต่การรร่างรัฐธธรรมนูญ 2560 และมีส.ว.250 คน ซึ่งการมีส.ส.ร.จะมาจากประชาชนคืออำนาจอันชอบธรรมที่จะกำหนดทิศทางของประเทศ และกำหนดกฎหมายสูงสุดในการปกครองระเทศ ดังนั้น จึงไม่ใช่เช็คเปล่า แต่เป็นเช็คที่เขียนเต็มจำนวนในการให้อำนาจประชาชน และคนที่คิดว่าเป็นการตีเช็คเปล่าคือคนที่มองไม่เห็นความสำคัญของประชาชน
“วันนี้อยากขอร้องว่าอย่าเอาประโยชน์ส่วนตน บ้านเมืองเดินมาถึงจุดนี้ ประชาชนมีความยากลำบาก จำเป็นที่ทุกคนต้องมองเห็นปะโยชน์ส่วนรวม ดังนั้น ขอเรียกร้องความจริงใจจากนายกฯ เป็นลำดับแรก ซึ่งการเสนอแก้รัฐธรรมนูญไม่เกิน 1 ปี ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน หากนายกฯ มีความจริงใจคืนประชาธิปไตยที่แท้จริงให้ชาติ ประชาชน นายกฯ ต้องสั่งการให้ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลร่วมสนับสนุน ขณะเดียวกันส.ว.จะมีที่มาอย่างไรก็แล้วแต่ แต่เมื่อมาทำหน้าที่ให้ประชาชน ควรแสดงความจริงใจสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากแสดงอาการที่ไม่เหมาะสม อาจแสดงให้เห็นว่าท่านยังยึดติดอำนาจ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรุ่งนี้(4 ส.ค.) พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานหยุดการคุกคามนิสิตนักศึกษาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในสถานศึกษาหรือที่พักอาศัย เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง
ด้านนายโภคิน กล่าวว่า ในชั้นการศึกษาของกรรมาธิการฯ ลงรายละเอียดใน 2 ส่วน คือลงไปดูในรายประเด็น รายมาตรา ซึ่งกรรมาธิการฯทุกคนมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา ซึ่งหากไล่แก้ทุกประเด็นจะไหวหรือไม่ เพราะมันพันกันทุกประเด็น และ 2.ควรรับฟังความเห็นจากหลากหลายฝ่าย ซึ่งได้นำทั้งสองส่วนนี้มาปรึกษาในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ซึ่งมีข้อสังเกตเรื่องของเวลา หากร่นระยะเวลาลงมาได้จะมีประโยชน์ต่อสังคม เมื่อสาเหตุของปัญหามาจากรัฐธรรมนูญ
“ทุกฝ่ายควรต้อวร่วมมือกันแก้ไข ทั้งนายกฯ ส.ว.และที่ห่วงว่าจะใช้งบประมาณทำประชามติหลายครั้งจะใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งครั้งแรกคือฉบับ 60 และอีกครั้งจะเป็นฉบับที่ ส.ส.ร.ร่างขึ้น มีคนบอกว่าจะใช้งประมาณ 3 พันล้านบาทนั้น หากจะต้องเสียเงิน 6 พันล้านบาทเพื่อให้มีโรดแมปของประเทศ คือรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แพงมากหรือย่างไรกับที่เรานำเงินไปซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น ส่วนที่มีคนเสนอว่าทำไมไม่แก้รายมาตรา ซึ่งจะทำได้เร็วนั้น ยืนยันว่าทำได้เร็วจริงแต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน” นายโภคิน กล่าว
ด้านนายสุทิน กล่าวว่า ส.ส.ร.อาจจะเพิ่มอำนาจให้ส.ว.ก็ได้ ขอ ส.ว.อย่าวิตก สามารถพูดคุยให้เหตุผลได้.-สำนักข่าวไทย