อินเดียใช้โดรนหาผู้รอดชีวิตจากเหตุธารน้ำแข็งชนเขื่อนแตก
อุตตราขัณฑ์ 10 ก.พ. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินเดียใช้โดรนบินสำรวจด้านในอุโมงค์ในพื้นที่แถบเทือกเขาหิมาลัย เพื่อค้นหาเจ้าหน้าที่โครงการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำอีก 35 คน ที่เชื่อว่าติดอยู่ด้านใน นับตั้งแต่ธารน้ำแข็งไหลลงมาชนเขื่อนแตก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 32 คนแล้ว รัฐอุตตราขัณฑ์ ทางตอนเหนือของอินเดีย แจ้งว่า ขณะนี้ยังคงมีผู้สูญหายอีกราว 204 คน ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่โครงการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กที่ถูกธารน้ำแข็งแถบเทือกเขาหิมาลัยแตกหักไหลลงมาพุ่งชนเขื่อนจนราบเป็นหน้ากลอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยอินเดียมุ่งเน้นไปที่การช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ในอุโมงค์ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งเชื่อมต่อกับโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแห่งหนึ่ง โดยใช้รถขุดเจาะขนาดใหญ่เพื่อระบายน้ำและโคลน หัวหน้าตำรวจของรัฐอุตตราขัณฑ์ กล่าวว่า หน่วยกู้ภัยเข้าไปในอุโมงค์ได้เพียงแค่ 120 เมตร เนื่องจากยังคงมีน้ำขังอยู่ข้างในสูงถึงเพดานอุโมงค์ อีกทั้งยังวิตกกังวลว่า ผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในอุโมงค์อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำจากสภาพอากาศหนาวเย็น นอกจากนี้ หน่วยกู้ภัยยังได้ส่งโดรนที่ติดตั้งกล้อง 5 ตัว บินเข้าไปในอุโมงค์ขนาดสั้น เมื่อวานนี้ แต่ไม่พบสัญญาณของผู้รอดชีวิต ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านธารน้ำแข็งของอินเดีย อธิบายถึงสาเหตุที่ธารน้ำแข็งแตกหักจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันว่า อาจเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว จนทำให้หิมะบนเทือกเขาละลายและเลื่อนไถลลงมา เนื่องจากอุณหภูมิโดยรอบที่สูงขึ้น ขณะที่ทางการอินเดียได้ส่งคณะนักวิทยาศาสตร์เข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อค้นหาสาเหตุของการเกิดน้ำท่วมในเทือกเขาที่มีความอ่อนไหวต่อระบบนิเวศแล้ว และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า.-สำนักข่าวไทย