มากัสซาร์ 8 ก.พ.- หลายฝ่ายชี้ว่า เหตุเขื่อนแตกทำน้ำท่วมเมืองมากัสซาร์ของอินโดเซียเมื่อปลายเดือนมกราคม ต้นเหตุไม่ใช่ฝนที่ตกทั้งวัน แต่เป็นเพราะการตัดไม้ทำลายป่าทำให้ดินบนภูเขาไหลลงมาทำให้เขื่อนตื้นเขิน เป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมร้ายแรงที่สุดในรอบ 15 ปี
เหตุเขื่อนแตกคร่าชีวิตคนไป 80 คน ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 13,000 คน สตรีคนหนึ่งเผยว่า ไปรับลูกที่โรงเรียนในช่วงบ่าย ตอนนั้นน้ำท่วมระดับเข่าและไม่คิดอะไรเพราะน้ำท่วมหลังฝนตกเป็นเรื่องปกติ แต่น้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงจนเก็บอะไรไม่ทัน ข้าวของเสียหายทั้งที่บ้านยกพื้นสูงขึ้นมาหนึ่งเมตร ต้นเหตุไม่ใช่ฝนแต่เป็นเพราะเขื่อนบิลีบิลีที่ห่างออกไป 15 กิโลเมตร เป็นเขื่อนป้องกันน้ำท่วมสร้างเสร็จในปี 2541
เจ้าหน้าที่ภัยพิบัติไม่เชื่อว่า ฝนที่ตกทั้งวันจะทำให้น้ำล้นเขื่อน ขณะที่ผู้ว่าจังหวัดสุลาเวสีใต้และผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมมองว่า เป็นเรื่องที่คาดได้ว่าจะเกิดขึ้น ดินบนภูเขาที่ไม่เกาะตัวเพราะมีการตัดไม้ทำลายป่ามาหลายปีถูกน้ำฝนชะไหลลงมาทำให้เขื่อนที่อยู่ด้านล่างตื้นเขินจนไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ตามที่ควรจะเป็น ผู้ว่าระบุว่า เขื่อนนี้ออกแบบให้อยู่ได้นานถึง 100 ปี เหตุเขื่อนแตกจึงไม่ใช่ภัยธรรมชาติตามที่สื่อรายงาน ขณะที่บุตรสาวของผู้ว่าซึ่งศึกษาปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยคิวชูในญี่ปุ่นเผยว่า ได้สำรวจแม่น้ำสามสายที่ไหลผ่านจังหวัด พบว่ามีแนวป่าปกคลุมไม่เกิน 1 ใน 5 พื้นที่ที่ควรจะเป็นป่ากลายเป็นนาข้าวและบ้านเรือน จำเป็นต้องให้ชุมชนตระหนักเรื่องการใช้ที่ดินอย่างมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ส่วนโครงการปลูกต้นไม้ที่หลายฝ่ายกำลังช่วยกันทำก็ไม่ทันการตัดไม้ที่ผลาญพื้นที่ป่าอย่างรวดเร็ว.- สำนักข่าวไทย