อิหร่าน

เตหะราน 19 ต.ค. – ชาวอิหร่านเดินทางมาต้อนรับ เอลนาซ เรคาบี นักกีฬาปีนหน้าผาหญิงทีมชาติอิหร่าน ที่เดินทางถึงท่าอากาศยานในกรุงเตหะรานเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังเธอตกเป็นข่าวโด่งดังจากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาปีนหน้าผาชิงแชมป์เอเชียที่เกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์โดยไม่สวมฮิญาบ สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่านรายงานว่า เรคาบี วัย 33 ปี ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอิหม่ามโคไมนีในกรุงเตหะรานเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ ขณะที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอิหร่านเผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพชาวอิหร่านหลายสิบคนเดินทางมายังสนามบินเพื่อต้อนรับและปรบมือเสียงดังเป็นกำลังใจให้เรคาบีในขณะที่เธอกำลังเดินออกจากสนามบิน เรคาบีกล่าวกับสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอว่า เธอไม่ทันสังเกตว่าตัวเองลืมสวมฮิญาบขณะแข่งปีนหน้าผารอบสุดท้ายที่เกาหลีใต้ เนื่องจากถูกเรียกให้ลงแข่งแบบไม่ทันตั้งตัวและมัวแต่คิดเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน เธอเดินทางกลับถึงอิหร่านโดยสงบสุข มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี และเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทั้งยังระบุว่า เธอขอโทษชาวอิหร่านทุกคนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่ทำให้เกิดประเด็นตึงเครียด และยังไม่คิดที่จะลาออกจากทีมชาติอิหร่าน ก่อนหน้านี้ เรคาบีได้ลงแข่งขันกีฬาปีนหน้าผาชิงแชมป์เอเชียที่กรุงโซลของเกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์ โดยที่เธอสวมเพียงผ้าคาดศีรษะ จนทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการแสดงออกไปในทิศทางเดียวกับเหตุประท้วงยาวนานกว่าเดือนในอิหร่านเกี่ยวกับกรณีที่มาห์ซา อามินี หญิงชาวอิหร่าน วัย 22 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 กันยายน หลังถูกตำรวจศีลธรรมของอิหร่านควบคุมตัวในกรุงเตหะรานเมื่อวันที่ 13 กันยายน โทษฐานไม่สวมฮิญาบ ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎการแต่งกายตามหลักศาสนา โดยที่กฎดังกล่าวถูกบังคับใช้กับนักกีฬาหญิงที่เดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศด้วย ขณะที่กลุ่มสิทธิที่ตั้งอยู่นอกอิหร่านได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพของเรคาบี หลังมีรายงานว่าเพื่อน ๆ ของเรคาบีไม่สามารถติดต่อเธอได้.-สำนักข่าวไทย

เตหะราน 10 ต.ค. – กระทรวงต่างประเทศของอิหร่านขอให้ชาวต่างชาติที่เดินทางมายังอิหร่านเคารพกฎหมายอิสลาม ขณะที่ยังคงมีการประท้วงในอิหร่านเรื่องสตรีเสียชีวิตขณะอยู่ในการควบคุมของตำรวจอิหร่าน ซึ่งรัฐบาลอิหร่านโทษว่าเป็นฝีมือของศัตรูต่างชาติ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ในวันนี้ว่า อิหร่านเป็นประเทศที่ปลอดภัย ทางการอิหร่านขอให้ชาวต่างชาติที่เดินทางมายังอิหร่านด้วยเหตุผลด้านการท่องเที่ยวหรือธุรกิจ เคารพต่อกฎหมายอิสลาม ก่อนหน้านี้ ทางการอิหร่านระบุว่า ได้จับกุมชาวต่างชาติจากยุโรปจำนวน 9 คน ในเดือนกันยายน เนื่องจากทั้งหมดมีส่วนร่วมในการก่อเหตุไม่สงบจากกรณีที่มาห์ซา อามินี หญิงชาวอิหร่าน วัย 22 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 กันยายน หลังถูกตำรวจศีลธรรมของอิหร่านควบคุมตัวในกรุงเตหะรานเมื่อวันที่ 13 กันยายน โทษฐานไม่สวมฮิญาบ ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎการแต่งกายตามหลักศาสนา สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า บรรดาผู้นำของอิหร่านต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากเหตุชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่เมืองซาเกซ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอามินี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 กันยายน โดยมีผู้ชุมนุมจำนวนมากระบุว่าเป็นยุคล่มสลายของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ทั้งนี้ เหตุประท้วงครั้งใหญ่ทั่วอิหร่านได้รับแรงสนับสนุนจากหลายประเทศทั่วโลก จนทำให้รัฐบาลอิหร่านออกมากล่าวโทษสหรัฐกับอิสราเอลเป็นผู้ฉวยโอกาสจากเหตุไม่สงบเพื่อมุ่งทำลายความมั่นคงของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน. -สำนักข่าวไทย

เตหะราน 5 ต.ค. – เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 5.7 ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่านในวันนี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 276 คน สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ หรือยูเอสจีเอส รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 5.7 ในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากเมืองโควีในจังหวัดอาเซอร์ไบจานตะวันตกของอิหร่าน ราว 11.6 กิโลเมตร และมีระดับความลึก 10 กิโลเมตร ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านรายงานอ้างเจ้าหน้าที่การแพทย์ท้องถิ่นที่ระบุว่า ขณะนี้ มีผู้บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวอย่างน้อย 276 คน ในจำนวนนี้ มี 68 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากอาการกระดูกหักเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัยธรณีศาสตร์ของเยอรมนี (GFZ) รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 5.5 บริเวณพรมแดนอาร์เมเนีย อาร์เซอร์ไบจาน และอิหร่าน. -สำนักข่าวไทย

เตหะราน 28 ก.ย. – อิหร่าน ฮิวแมน ไรต์ส หรือไอเอชอาร์ องค์กรสิทธิมนุษยชนอิหร่านที่มีสำนักงานในนอร์เวย์ ระบุว่า กองกำลังความมั่นคงของอิหร่านได้สังหารผู้ชุมนุมอย่างน้อย 76 คนจากเหตุชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลา 11 วันนับตั้งแต่เกิดเหตุหญิงไม่สวมฮิญาบเสียชีวิตขณะถูกตำรวจอิหร่านควบคุมตัว ไอเอชอาร์ระบุว่า กองกำลังความมั่นคงของอิหร่านได้สังหารผู้ประท้วงอย่างน้อย 76 คน พร้อมกล่าวหาเจ้าหน้าที่อิหร่านว่าใช้กำลังเกินกว่าเหตุและใช้กระสุนจริงปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงจับกุมประชาชนหลายร้อยคน ในจำนวนนี้ มีนักข่าว 20 คนรวมอยู่ด้วย ขณะที่สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เหตุประท้วงทำให้มีผู้เสียชีวิต 41 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงอิหร่านหลายนาย พร้อมทั้งกล่าวโทษผู้ชุมนุมว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ผู้อำนวยการของไอเอชอาร์ระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเสี่ยงต่อการถูกทรมานและควบคุมตัวอย่างโหดร้ายทารุณ การยิงกระสุนจริงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมถือเป็นการก่ออาชญากรรมระหว่างประเทศ และขอเรียกร้องให้ทั่วโลกช่วยกันปกป้องสิทธิของประชาชนอิหร่าน ขณะที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสประชาชาติ (UNHRC) ระบุว่า รู้สึกวิตกกังวลอย่างมากจากการที่อิหร่านใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ชุมนุม และเรียกร้องให้อิหร่านเคารพสิทธิของประชาชนในการชุมนุมโดยสันติ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ขณะนี้ เหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิหร่านได้ขยายวงกว้างไปกว่า 80 เมืองและชุมชนทั่วประเทศนับตั้งแต่มีการจัดงานศพของมาห์ซา อามินี เมื่อวันที่ 17 กันยายน ก่อนหน้านี้ มาห์ซา อามินี หญิงชาวอิหร่าน […]