อิหร่าน

เตหะราน 20 ก.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เผยวันนี้ว่า รัฐบาลรัสเซียยังไม่เห็นว่ายูเครนต้องการที่จะทำตามเงื่อนไขในข้อตกลงสันติภาพเบื้องต้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์หลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนอิหร่านในช่วงเช้ามืดวันนี้ว่า รัฐบาลรัสเซียยังไม่เห็นว่ายูเครนต้องการที่จะทำตามเงื่อนไขในข้อตกลงสันติภาพเบื้องต้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า ซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เสนอตัวเป็นคนกลางเพื่อช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่รัฐบาลยูเครนยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับคำพูดดังกล่าวของประธานาธิบดีปูติน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินได้เดินทางเยือนอิหร่านเมื่อวันอังคาร และได้พบกับ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่ถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีปูตินยังได้พบกับประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ในระหว่างเดินทางเยือนอิหร่าน เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงกลับมาเปิดการส่งออกธัญพืชของยูเครนจากท่าเรือในทะเลดำ ซึ่งถูกรัสเซียปิดล้อม ผู้นำรัสเซียระบุว่า รัสเซียพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการส่งออกธัญพืชของยูเครนจากท่าเรือในทะเลดำ แต่ก็ต้องการให้นานาชาติยกเลิกการใช้มาตรการจำกัดการส่งออกธัญพืชจากรัสเซียเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

เตหะราน 19 ก.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะเดินทางเยือนอิหร่านในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งที่สองของผู้นำรัสเซีย นับตั้งแต่รัสเซียสั่งเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินจะเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อพบกับอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการตุรกีระบุว่า ผู้นำทั้งสามจะหารือร่วมกันในประเด็นเกี่ยวกับการส่งออกธัญพืช สงครามซีเรีย และสงครามยูเครน บีบีซีมองว่า การเดินทางเยือนอิหร่านจะเปิดโอกาสให้ประธานาธิบดีปูตินเดินหน้าสานสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติพันธมิตรที่เหลืออยู่ไม่มากของรัสเซียและถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับรัสเซีย ทั้งนี้ การเดินทางเยือนอิหร่านของผู้นำรัสเซียมีขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่สหรัฐได้กล่าวหารัฐบาลอิหร่านเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า อิหร่านกำลังวางแผนส่งโดรนหลายร้อยลำให้แก่รัสเซียเพื่อนำไปใช้ในสงครามยูเครน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินได้เดินทางเยือนทาจิกิสถานและเติร์กเมนิสถานในเดือนมิถุนายน ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดฉากบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ โดยที่ทั้งสองประเทศเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต. -สำนักข่าวไทย

โทรทัศน์ของทางการอิหร่านรายงานวันนี้ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 5.6 ที่บริเวณน่านน้ำทางภาคใต้ของอ่าวเปอร์เซีย ของอิหร่าน ในช่วงเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น

เตหะราน 12 มิ.ย.- อิหร่านและเวเนซุเอลา สองประเทศที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตร ลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันนาน 20 ปี ประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซีของอิหร่านแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีนิโกลา มาดูโรของเวเนซุเอลาที่มาเยือนเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า การลงนามข้อตกลงนี้แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ในหลากหลายด้าน เวเนซุเอลาได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาหลายปี แต่ประชาชน เจ้าหน้าที่และประธานาธิบดีของประเทศนี้มีความแน่วแน่ว่า ควรจะต่อต้านมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ เป็นสัญญาณที่ดีที่พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า การต่อต้านจะได้ผล และจะบีบให้ศัตรูต้องล่าถอย ด้านประธานาธิบดีมาดูโรกล่าวว่า ความร่วมมือนี้ครอบคลุมเรื่องพลังงานและการเงิน รวมถึงการร่วมกันทำงานในโครงการด้านกลาโหม และนับตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมเป็นต้นไปจะมีการเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงการากัสของเวเนซุเอลากับกรุงเตหะรานของอิหร่าน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว การค้าและเศรษฐกิจระหว่างกัน นอกจากนี้เขายังได้เข้าพบอยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่านที่ระบุว่า ข้อสรุปที่ได้จากการต่อต้านและความสำเร็จของอิหร่านและเวเนซุเอลาคือ หนทางเดียวที่จะเผชิญหน้ากับแรงกดดันของสหรัฐคือ การลุกขึ้นสู้และต่อต้าน สำนักข่าวอีร์นาของทางการอิหร่านว่า นอกเหนือจากข้อตกลงความร่วมมือนาน 20 ปีที่ลงนามโดยรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังลงนามเอกสารความร่วมมือทางการเมือง วัฒนธรรม การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ น้ำมันและปิโตรเคมี ผู้นำเวเนซุเอลาเยือนอิหร่านเป็นประเทศที่ 3 ในสัปดาห์นี้หลังจากเยือนตุรกีและแอลจีเรีย อิหร่านเป็นพันธมิตรหลักของเวเนซุเอลา เช่นเดียวกับรัสเซีย จีน คิวบาและตุรกี.-สำนักข่าวไทย

สถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุรถไฟโดยสารตกรางทางตะวันออกของประเทศ ช่วงเช้ามืดวันนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 คน บาดเจ็บอีกมากกว่า 50 คน

เตหะราน 31 พ.ค.- ชาวอิหร่านในหลายเมืองชุมนุมร้องตะโกนต่อต้านรัฐบาลเมื่อคืนที่ผ่านมา บางรายตะโกนด่าทอผู้นำสูงสุด กรณีอาคารหลังหนึ่งพังถล่มเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 34 คนแล้วในวันนี้ คลิปที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์คลิปหนึ่งเห็นกลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนด่าทออยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ซึ่งถือเป็นสิ่งต้องห้าม โดยระบุสถานที่ว่าอยู่ในเขตนาซี-อาบัด ทางตอนใต้ของกรุงเตหะราน ขณะที่อีกคลิปหนึ่งเห็นตำรวจปราบจลาจลขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทั่วพื้นที่ดังกล่าวเพื่อไล่หรือขู่กลุ่มผู้ชุมนุม นอกจากนี้ยังมีคลิปกลุ่มผู้ชุมนุมในเมืองบูเชร์ ทางตอนใต้ของอิหร่านตะโกนว่ารัฐบาลโกหกว่าสหรัฐคือศัตรู ทั้งที่ศัตรูตัวจริงอยู่ตรงหน้าประชาชนนี่เอง ผู้ชุมนุมไม่พอใจในเหตุอาคารเมโทรโพลบิวล์ดิงสูง 10 ชั้นที่ใช้เป็นที่พักอาศัยและใช้เพื่อการพาณิชย์ในเมืองอาบาดาน จังหวัดคูเซสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ พังถล่มเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 34 คนแล้วในวันนี้ มีผู้บาดเจ็บอีก 37 คน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาผู้สูญหายอยู่ ทางการอิหร่านโทษว่า สาเหตุเกิดจากการทุจริตรับสินบนและความหย่อนหยานด้านความปลอดภัยส่วนบุคคล โดยได้จับกุมผู้ฝ่าฝืนระเบียบด้านการก่อสร้างแล้ว 13 คน แต่กลุ่มผู้ชุมนุมแย้งว่า เป็นเพราะรัฐบาลละเลยและมีการทุจริตรับสินบนอย่างกว้างขวาง ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาและยิงปืนขึ้นฟ้าสลายฝูงชน รวมทั้งปะทะกับผู้ชุมนุมในการประท้วงที่เกิดขึ้นมาร่วมสัปดาห์ ขณะที่รายงานข่าวส่วนใหญ่ของสื่อทางการเป็นภาพพิธีไว้อาลัยทางศาสนาและพิธีศพของผู้เคราะห์ร้าย.-สำนักข่าวไทย