สินค้า

มะนิลา 16 มี.ค.- ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า สื่อสังคมออนไลน์ของฟิลิปปินส์เต็มไปด้วยโพสต์หลอกลวงทางการแพทย์ มีทั้งสินค้าที่อ้างว่าได้รับการรับรองจากทางการ และการตัดต่อคลิปสร้างความเข้าใจผิด ทีมตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักข่าวเอเอฟพีเผยว่า ชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากพึ่งพาการรักษาทางออนไลน์ตั้งแต่ยังไม่มีโรคโควิด-19 ระบาด เพราะเสียค่าใช้จ่ายต่ำและสะดวก ต่อมาในช่วงที่โควิดระบาดพบว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันเกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ไม่ผ่านการทดสอบและวิธีการรักษาโรคเรื้อรังอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่มาในรูปแบบของโพสต์ฟรีและโพสต์เสียเงินในเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมที่สุดของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 76 ล้านคนในฟิลิปปินส์ โพสต์เหล่านี้อยู่นานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนโดยไม่ถูกเฟซบุ๊กตรวจพบ นอกจากนี้ยังมีการนำรายงานข่าวมาบิดเบือน และนำคลิปของบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเรื่องสุขภาพมาตัดต่อบิดเบือนเพื่อใช้โฆษณาสินค้าเหล่านี้ สตรีฟิลิปปินส์คนหนึ่งที่เป็นผู้ทำคลิปเผยแพร่ออนไลน์หรือวล็อกเกอร์โพสต์คลิปความยาว 15 นาทีเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 มีคนดูมากกว่าหมื่นครั้ง อ้างกับผู้ติดตามในยูทูบว่า สบู่รูปหัวใจที่เธอถืออยู่ช่วยให้ช่องคลอดกระชับและได้รับการรับรองจากสำนักงานอาหารและยาฟิลิปปินส์ ทั้งที่สำนักงานฯ เคยเตือนผู้บริโภคว่าอย่าใช้สบู่ที่ไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าว เพราะเสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีตั้งแต่ระคายเคืองไปจนถึงทำให้อวัยวะล้มเหลว เธอยอมรับในคลิปที่โพสต์ในอีกไม่กี่เดือนถัดมาว่า เกาด้วยความระคายเคืองถึงขั้นเลือดออก แต่ก็ยังคงโฆษณาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 20 พ.ย.- ข้อมูลศุลกากรจีนชี้ว่า เดือนตุลาคมปีนี้จีนส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับโควิดไปยังเกาหลีเหนือลดลง ยกเว้นถุงมือยาง แต่ยอดส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 46.3 จากเดือนกันยายน เดือนตุลาคม 2565 จีนส่งออกไปเกาหลีเหนือทั้งหมด 132.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,742 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 2 เท่าครึ่ง สินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นข้าว ถุงพลาสติก น้ำตาล วัตถุดิบสิ่งทอ และยาสูบ เฉพาะข้าวสารเมล็ดยาวส่งออกไปทั้งหมด 16,450 ตัน มูลค่า 7.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 261 ล้านบาท) ส่วนน้ำตาลส่งออกไปเกือบ 8,000 ตัน มูลค่า 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 161 ล้านบาท) นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังนำเข้าถุงมือยางทางการแพทย์จากจีน 1 ล้าน 4 แสน 7 หมื่นคู่ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนกันยายนที่นำเข้า 400,000 คู่ และเดือนสิงหาคมที่ไม่ได้นำเข้าเลย แต่นำเข้าหน้ากากอนามัยลดลงจากเดือนกันยายนที่เคยนำเข้ามากถึง […]

โตเกียว 26 ก.ย.- ญี่ปุ่นประกาศห้ามส่งออกสินค้าเกี่ยวกับอาวุธเคมีให้รัสเซีย และแสดงความกังวลเรื่องรัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครน รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศวันนี้เรื่องห้ามส่งออกวัสดุที่อาจนำไปใช้ผลิตอาวุธเคมีให้แก่ 21 องค์กรในรัสเซีย รวมถึงห้องทดลองปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เป็นการอนุมัติตามที่รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือจี 7 (G7) มีมติเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะเดียวกันนายฮิโรกาซุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นตอบข้อถามเรื่องนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดในกรณีที่รัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครนว่า ในฐานะที่เป็นประเทศเดียวในโลกที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากการถูกอาวุธนิวเคลียร์ถล่ม ญี่ปุ่นขอเรียกร้องอย่างแข็งขันว่า การขู่หรือการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี เขาไม่ขอตอบข้อถามที่ว่า ญี่ปุ่นเห็นชอบให้สหรัฐใช้อาวุธนิวเคลียร์กับรัสเซียหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่าเป็นคำถามที่เป็นการสมมติ.-สำนักข่าวไทย

นิวเดลี 18 ก.ค.- ผู้ค้าและเจ้าของร้านค้าในอินเดียจะจัดการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศในสัปดาห์หน้า เพื่อประท้วงที่รัฐบาลขึ้นภาษีสินค้าและบริการหลากหลายอย่างตั้งแต่วันนี้ ประธานสมาพันธ์พ่อค้าอินเดียที่มีเจ้าของร้านค้าและผู้ค้าส่งเป็นสมาชิกมากกว่า 10 ล้านรายแถลงว่า การที่รัฐบาลขึ้นภาษีสินค้าประเภทอาหารร้อยละ 5 จากเดิมที่ปลอดภาษี และขึ้นภาษีสินค้าในครัวเรือนอื่น ๆ เป็นการเพิ่มภาระให้แก่ประชาชนและพ่อค้า ดังนั้นสมาชิกสมาพันธ์จะจัดการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศในวันที่ 26 กรกฎาคม เริ่มจากเมืองโภปาล เมืองเอกของรัฐมัธยประเทศที่เป็นฐานเสียงของพรรคภารติยะชนตะของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีโมดีนำระบบภาษีสินค้าและบริการหรือจีเอสที (GST) มาใช้เป็นอัตราภาษีทั่วประเทศในปี 2560 แทนการใช้อัตราภาษีที่แตกต่างกันระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น กระทรวงคลังแถลงวันนี้ว่า จะขยายการเก็บภาษีร้อยละ 5 ที่ปัจจุบันใช้อยู่แล้วกับอาหารมีตราสินค้า ให้ครอบคลุมถึงอาหารไม่มีตราสินค้าซึ่งจำหน่ายในบรรจุภัณฑ์สูงสุด 25 กิโลกรัมหรือ 25 ลิตร ส่วนเมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลอนุมัติให้ขึ้นภาษีสินค้าและบริการบางประเภท เช่น เครื่องครัว จากร้อยละ 12 เป็นร้อยละ 18 นักวิเคราะห์มองว่า การขึ้นภาษีจะเพิ่มภาระให้แก่ครัวเรือนที่เดือดร้อนอยู่แล้วจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงถึงร้อยละ 7.79 ในเดือนเมษายน และสูงกว่าร้อยละ 7 ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน.-สำนักข่าวไทย