บรัสเซลส์ 13 ธ.ค. – สหภาพยุโรป หรืออียู (EU) บรรลุข้อตกลงหลังจากเจรจากันตลอดทั้งคืน เรื่องเก็บภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) กับสินค้านำเข้าที่ก่อมลพิษ นับเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการเก็บภาษีลักษณะนี้
ผู้เจรจาของสมาชิกอียูและรัฐสภายุโรปบรรลุข้อตกลงเมื่อเวลา 05:00 น.วันนี้ตามเวลากรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ตรงกับเวลา 10:00 น.วันนี้ตามเวลาไทย เรื่องกฎหมายเก็บค่าปล่อย CO2 กับการนำเข้าเหล็ก ซีเมนต์ ปุ๋ย อะลูมิเนียม ไฟฟ้า และไฮโดรเจน บริษัทที่นำเข้าสินค้าเหล่านี้เข้ามาในอียูจะต้องซื้อใบรับรองการปล่อย CO2 มีผลบังคับใช้ทั้งบริษัทนอกอียูและบริษัทในอียู ส่วนรายละเอียดของกฎหมาย เช่น กำหนดวันเริ่มบังคับใช้ จะมีการสรุปอีกครั้งในการเจรจาเรื่องการปฏิรูปตลาดคาร์บอนของอียู
แกนนำการเจรจาเผยว่า ภาษีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความพยายามต่อสู้โลกร้อนของอียู เพราะเป็นหนึ่งในกลไกที่อียูจะใช้จูงใจคู่ค้าให้ลดการปล่อย CO2 ในอุตสาหกรรมการผลิตของตนเอง และช่วยปกป้องอุตสาหกรรมของยุโรปที่ถูกตัดราคาจากสินค้าราคาถูกที่ผลิตโดยประเทศที่มีระเบียบสิ่งแวดล้อมไม่เข้มงวด ภาษีนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของชุดนโยบายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอียูภายในปี 2573 ลงร้อยละ 55 จากระดับการปล่อยในปี 2533
ปัจจุบันบริษัทในอียูต้องซื้อใบอนุญาตปล่อย CO2 จากตลาดซื้อขายคาร์บอนของอียู แต่หลายอุตสาหกรรมไม่เสียค่าใบอนุญาต เนื่องจากอียูต้องการปกป้องไม่ให้ถูกกระทบจากการแข่งขันจากต่างประเทศ อย่างไรก็ดี อียูมีแผนจะทยอยยกเลิกการไม่เก็บค่าใบอนุญาตเมื่อทยอยนำการเก็บภาษีปล่อย CO2 มาใช้ เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบขององค์การการค้าโลกหรือดับเบิลยูทีโอ (WTO) อียูเคยเผยว่า จะยกเว้นการเก็บภาษีปล่อย CO2 ให้แก่ประเทศที่มีนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเทียบเท่ากับอียู.-สำนักข่าวไทย