สกัดน้องชาย ปธน.ศรีลังกาหนีออกนอกประเทศ

โคลัมโบ 12 ก.ค.- เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของศรีลังกาสกัดนายบาซิล ราชปักษา น้องชายของประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ไม่ให้ขึ้นเครื่องบินเดินทางออกนอกประเทศ ขณะที่ประชาชนกำลังทวีความโกรธแค้นต่อตระกูลราชปักษาที่ทำให้ประเทศเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงที่สุด รายงานระบุว่า ยังไม่ชัดเจนว่านายราชปักษา วัย 71 ปี ซึ่งถือสัญชาติอเมริกันด้วยจะเดินทางไปที่ใด เขาลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีคลังช่วงต้นเดือนเมษายน เมื่อคนออกมาประท้วงข้าวของแพง จากนั้นลาออกจากการเป็นสมาชิกรัฐสภาช่วงต้นเดือนมิถุนายน สมาคมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเผยว่า สถานการณ์ขณะนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ถูกกดดันอย่างหนักว่า จะต้องไม่ปล่อยให้บุคคลระดับสูงเดินทางออกนอกประเทศ และไม่ให้บริการนายราชปักษาที่ห้องรับรองแขกคนพิเศษเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เอง สื่อสังคมออนไลน์ในศรีลังกาพากันส่งต่อภาพถ่ายของสื่อท้องถิ่นที่เห็นนายราชปักษาที่ห้องรับรอง บางคนแสดงความเห็นเชิงโกรธแค้นที่เขาพยายามหนีออกนอกประเทศ ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพรรครัฐบาลยืนยันว่า เขายังอยู่ในประเทศ ตระกูลราชปักษาทรงอิทธิพลทางการเมืองในศรีลังกามาตั้งแต่สมัยนายดี.เอ.ราชปักษา รัฐมนตรีเกษตรและที่ดินปี 2502-2503 และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรปี 2507 บุตรชาย 3 คนจากลูกทั้งหมด 9 คนของเขาก็มีตำแหน่งสำคัญทางการเมือง ประกอบด้วยนายชามาล ราชปักษา ประธานสภาผู้แทนราษฎรปี 2553-2558 นายมหินดา ราชปักษา นายกรัฐมนตรีปี 2547-2548, 2561, 2562-2565 และประธานาธิบดีปี 2548-2558 นายโกตาบายา ราชปักษา ประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2562 และรัฐมนตรีกลาโหมตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

ผู้ประท้วงประกาศยึดทำเนียบจนกว่า ปธน.ศรีลังกา จะลาออก

วิกฤติการเมืองของศรีลังการอบนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน จากปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้ารอบด้าน แต่เชื่อกันว่าวิกฤติส่อเค้ามานานแล้วเนื่องจากการบริหารงานล้มเหลว ตั้งแต่วันเสาร์ชาวศรีลังกาจึงบุกไปที่ศูนย์กลางการปกครอง ยึดทำเนียบประธานาธิบดีเพื่อทวงคืนอำนาจ

ผู้ประท้วงศรีลังกาพบเงินสดในบ้านพัก ปธน.เกือบ 2 ล้านบาท

โคลัมโบ 11 ก.ค.- ตำรวจศรีลังกาแจ้งว่า ผู้ประท้วงพบเงินสดที่เป็นธนบัตรใหม่เอี่ยมมูลค่า 17.85 ล้านรูปีศรีลังกา (ราว 1.77 ล้านบาท) ในบ้านพักของประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ช่วงที่บุกเข้าไปเมื่อวันเสาร์ และได้ส่งมอบให้แก่ตำรวจ ซึ่งจะมอบต่อให้ศาลในวันนี้ แหล่งข่าวเผยว่า นอกจากเงินสดแล้ว ยังมีกระเป๋าเดินทางที่ภายในเต็มไปด้วยเอกสารถูกทิ้งไว้ในคฤหาสน์ที่เป็นบ้านพักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีด้วย ประธานาธิบดีราชปักษาวัย 73 ปี ย้ายมาพำนักในบ้านพักอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่อายุ 200 ปี หลังจากผู้ประท้วงพยายามบุกบ้านพักส่วนตัวของเขาเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ใด แหล่งข่าวเผยว่า เขาหนีออกทางประตูหลังของคฤหาสน์ก่อนที่ผู้ประท้วงจะบุกเข้ามา โดยมีบุคลากรของกองทัพเรืออารักขาไปลงเรือ มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเหยืนยันวันนี้ว่า ประธานาธิบดีได้แจ้งเขาอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะลาออก หลังจากแจ้งกับประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่กี่ชั่วโมงหลังหนีออกจากบ้านพักอย่างเป็นทางการว่า จะลาออกในวันพุธที่ 13 กรกฎาคม ชาวศรีลังกาปักหลักประท้วงหน้าทำเนียบประธานาธิบดีมานานกว่า 3 เดือน เรียกร้องให้นายราชปักษาลาออกเพราะประเทศเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ เขาถูกกล่าวหาว่า บริหารเศรษฐกิจผิดพลาดจนมาถึงจุดที่ประเทศไม่มีเงินตราต่างประเทศสำหรับชำระค่าสินค้านำเข้าจำเป็น ทำให้ประชากร 22 ล้านคนมีความเป็นอยู่ยากลำบาก.-สำนักข่าวไทย

สำนักนายกฯ ศรีลังกา ยืนยัน ปธน.แจ้งแล้วว่าจะลาออก

โคลัมโบ 11 ก.ค.- สำนักนายกรัฐมนตรีศรีลังกาแถลงวันนี้ว่า ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ได้แจ้งต่อนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห แล้วว่าจะลาออกจากตำแหน่ง หลังจากผู้ประท้วงพากันบุกบ้านพักของบุคคลทั้งสองเมื่อวันเสาร์ สำนักนายกรัฐมนตรีศรีลังกายืนยันเรื่องนี้ หลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรเผยว่า ประธานาธิบดีจะลาออกในวันพุธ แต่ยังไม่มีการยืนยันใด ๆ จากประธานาธิบดีโดยตรง ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ประกาศลาออกเช่นกัน เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งรัฐบาลชั่วคราวที่ประกอบด้วยตัวแทนจากทุกพรรคการเมือง อย่างไรก็ดี แกนนำการประท้วงประกาศว่า ฝูงชนจะยึดครองที่พักของประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรี จนกว่าทั้งคู่จะลาออกจากตำแหน่ง ชายวัย 31 ปี ที่ปักหลักประท้วงหน้าบ้านพักประธานาธิบดีมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน กล่าวว่า จะไม่ไปไหนจนกว่าประธานาธิบดีราชปักษาลาออก และศรีลังกามีรัฐบาลที่ประชาชนยอมรับ ประชาชนต่อสู้เพื่อให้มีการปฏิรูปการเมืองในวงกว้าง การที่ประธานาธิบดีลาออกเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ส่วนชายวัย 28 ปี เผยว่า เพิ่งมาถึงกรุงโคลัมโบในเช้าวันนี้ หลังเดินทางออกจากเมืองที่อยู่ไกลออกไปถึง 130 กิโลเมตร และบางครั้งต้องเดินเท้า เพราะน้ำมันขาดแคลน ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญระบุว่า ทันทีที่ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีลาออกอย่างเป็นทางการ ขั้นตอนต่อไปคือการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี และให้สภาลงมติเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ภายใน 30 วัน เพื่อทำหน้าที่จนกว่าจะครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายราชปักษาไปจนถึงสิ้นปี 2567.-สำนักข่าวไทย

ศรีลังกากลับเข้าสู่ความสงบในวันนี้

โคลัมโบ 10 ก.ค.- ศรีลังกากลับเข้าสู่ความสงบแล้วในวันนี้ หลังจากประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีประกาศลาออก ชาวศรีลังกาบางส่วนถือโอกาสเข้าไปเดินดูในทำเนียบประธานาธิบดีที่ถูกผู้ประท้วงเข้าบุกไปเมื่อวานนี้ ชาวศรีลังกาจำนวนหนึ่งเดินเข้าไปสำรวจในตัวอาคารทำเนียบประธานาธิบดีที่ก่อสร้างสมัยที่อังกฤษยังเป็นเจ้าอาณานิคม โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงยืนถือปืนยาวรักษาความเรียบร้อยอยู่ ด้านข้างบันไดหลักซึ่งเสียหายบางส่วนมีป้ายเขียนด้วยลายมือติดไว้ว่า ดูได้เต็มที่ แต่อย่าขโมย แม่ขายขายผ้าเช็ดหน้าวัย 61 ปีกล่าวขณะพาบุตรสาวและหลาน ๆ เดินดูห้องนอนชั้นล่างของอาคารว่า ในชีวิตไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้มาก่อน ผู้บริหารประเทศใช้ชีวิตสุดหรูหราในขณะที่ชาวบ้านเดือดร้อน ชาวบ้านถูกหลอกลวง เธออยากให้ลูกหลานได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ชายศรีลังกาที่นอนเหยียดยาวบนโซฟาไม้ที่แกะสลักอย่างหรูหราเผยว่า นอนค้างในทำเนียบประธานาธิบดีตั้งแต่บุกเข้ามาพร้อมกับผู้ประท้วงเมื่อวันเสาร์ ส่วนสระว่ายน้ำที่ผู้ประท้วงพากันกระโดดลงไปเล่น วันนี้ไม่มีใครเล่นแล้ว เหลือแต่น้ำขุ่นสกปรก ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ที่กำลังเจรจากับรัฐบาลศรีลังกาเรื่องความช่วยเหลือมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 107,556 ล้านบาท) แถลงวันนี้ว่า กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หวังว่าศรีลังกาจะมีหนทางแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันที่เอื้อให้สามารถฟื้นการเจรจาได้อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ปธน.-นายกฯ ศรีลังกายอมลาออกแล้ว

โคลัมโบ 10 ก.ค.- ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา และนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเหของศรีลังกาตัดสินใจลาออกแล้ว หลังจากประเทศเกิดความวุ่นวายมากที่สุดนับตั้งแต่มีการประท้วงรัฐบาลมาหลายเดือน เมื่อผู้ประท้วงพากันบุกบ้านพักของผู้นำทั้งสองคน นายกรัฐมนตรีวิกรมสิงเห วัย 73 ปี ประกาศว่าจะลาออกทันทีที่มีรัฐบาลชุดใหม่แม้ว่าผู้ประท้วงต้องการให้ลาออกทันทีก็ตาม ขณะที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรประกาศทางโทรทัศน์ในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมาว่า ได้แจ้งต่อประธานาธิบดีราชปักษา วัย 73 ปีว่า แกนนำในสภาได้ประชุมและมีมติขอให้ลาออก ประธานาธิบดีตกลงจะลาออกในวันพุธที่ 13 กรกฎาคมเพราะต้องการส่งมอบอำนาจอย่างราบรื่น ดังนั้นขอให้ประชาชนเห็นแก่ประเทศชาติด้วยการอยู่ในความสงบ ด้านสมาชิกสภาพรรคฝ่ายค้านเผยว่า สมาชิกสภามีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีและดำเนินการเรื่องตั้งรัฐบาลชั่วคราว ศรีลังกาเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2491 ประชาชนขาดแคลนสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน และมีการประท้วงมาหลายเดือน จนกระทั่งผู้ประท้วงจำนวนมากมุ่งหน้าเข้ากรุงโคลัมโบเมื่อวันเสาร์ เกิดการปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่พยายามสกัดขบวน มีคนบาดเจ็บมากกว่า 30 คน จากนั้นผู้ประท้วงได้บุกเข้าไปในบ้านพักประธานาธิบดี ตามด้วยการบุกบ้านพักนายกรัฐมนตรีและจุดไฟเผา สถานีโทรทัศน์เอกชนแห่งหนึ่งเผยว่า ทีมข่าว 6 คนถูกตำรวจทุบตีบาดเจ็บระหว่างรายงานเหตุการณ์ที่บ้านพักนายกรัฐมนตรี ขณะที่สภาการแพทย์ศรีลังกาแจ้งว่า โรงพยาบาลต่าง ๆ กำลังขาดแคลนเวชภัณฑ์และไม่สามารถดูแลผู้บาดเจ็บจำนวนมากจากการประท้วงได้.-สำนักข่าวไทย

บุกเผาบ้านนายกรัฐมนตรีศรีลังกา!

ศรีลังกา วิกฤติหนัก หลังจากเมื่อช่วงกลางวันของวันเสาร์ (9 ก.ค.) ผู้ชุมนุมประท้วงได้บุกเข้าไปยังบ้านพักประจำตำแหน่งประธานาธิบดีเพื่อขับไล่ให้ลาออกจากตำแหน่ง โดยนายโกตาบายา ราชปักษา ประธานาธิบดี ได้หลบออกจากบ้านพักก่อนหน้านั้น

ผู้ประท้วงศรีลังกาบุกบ้านประธานาธิบดีหลังปะทะกับตำรวจ

ผู้ประท้วงหลายพันคนในกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา ฝ่าสิ่งกีดขวางของตำรวจและบุกเข้าไปในบ้านพักประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีในวันนี้ ซึ่งถือเป็นเหตุชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในปีนี้

ปธน.ศรีลังกา ขอ “ปูติน” ช่วยนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง

โคลัมโบ 7 ก.ค.-ประธานาธิบดีโกเตบายา ราชปักษา ของศรีลังกา ระบุว่า เขาได้ขอให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ช่วยศรีลังกา เรื่องนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำมัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ประธานาธิบดีราชปักษาเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาได้หารือกับประธานาธิบดีปูตินและมีความคืบหน้าอย่างมากจากการหารือครั้งนี้ เขาได้ขอให้ผู้นำรัสเซียสนับสนุนด้านสินเชื่อให้แก่ศรีลังกาในการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง และยังขอให้รัสเซียกลับมาเปิดเที่ยวบินเชื่อมต่อกรุงมอสโกกับกรุงโคลัมโบอีกครั้ง หลังจากที่สายการบินแอโรฟลอต ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของรัสเซีย ได้ประกาศระงับเที่ยวบินในเส้นทางดังกล่าวเมื่อเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ ศรีลังกากับรัสเซียยังเห็นพ้องต้องกันว่า การกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยว การค้า และวัฒนธรรม มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างมิตรภาพของทั้งสองประเทศ คำกล่าวของประธานาธิบดีราชปักษามีขึ้นหลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของศรีลังกาได้ออกมาเตือนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ศรีลังกาอาจไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงใช้ในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่เมื่อวันพุธมีประชาชนหลายร้อยคนออกมาชุมนุมบนท้องถนนในกรุงโคลัมโบเพื่อประท้วงรัฐบาลศรีลังกา ทั้งนี้ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี ระบุว่า ศรีลังกาได้ซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากรัสเซียอยู่ก่อนแล้วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำมันในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และส่งสัญญาณว่าต้องการที่จะซื้อน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มขึ้นอีก.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ศรีลังการับประเทศตกอยู่ในสถานะล้มละลาย

โคลัมโบ 5 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรามาสิงหะ ของศรีลังกา ยอมรับว่า ศรีลังกาตกอยู่ในสถานะล้มละลายและจะต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อต่อไปจนถึงสิ้นปีหน้าเป็นอย่างน้อย นายกรัฐมนตรีวิกรามาสิงหะกล่าวในที่ประชุมรัฐสภาศรีลังกาวันนี้ว่า ศรีลังกาจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักในปีนี้ รวมถึงปัญหาขาดแคลนอาหาร น้ำมันเชื้อเพลิง และยารักษาโรค เขายอมรับว่าปัญหาเหล่านี้จะยืดเยื้อต่อไปจนถึงปีหน้า ส่วนแผนเจรจาเรื่องกู้ยืมเงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ขึ้นอยู่กับการสรุปแผนปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ในเดือนสิงหาคม โดยที่ศรีลังกาจะทำเรื่องกู้ยืมเงินในฐานะประเทศที่มีสถานะล้มละลาย นายกรัฐมนตรีวิกรามาสิงหะเผยว่า ศรีลังกายังคงตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ เนื่องจากธนาคารกลางของศรีลังกาคาดการณ์ว่า ศรีลังกาอาจเผชิญกับภาวะหดตัวด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึงร้อยละ 4-5 ในปีนี้ รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อที่สูงถึงร้อยละ 60 ในช่วงสิ้นปีนี้ ผู้นำศรีลังกายังระบุเพิ่มเติมว่า หลังจากที่บรรลุข้อตกลงระดับเจ้าหน้าที่กับไอเอ็มเอฟ ศรีลังกาได้ตั้งเป้าเปิดประชุมเพื่อรับเงินบริจาคจากประเทศที่เป็นมิตร เช่น จีน อินเดีย และญี่ปุ่น เพื่อใช้ค้ำประกันเงินกู้ผ่านข้อตกลงร่วม. -สำนักข่าวไทย

ศรีลังกาเตือนเหลือน้ำมันใช้ไม่ถึงวัน

โคลัมโบ 4 ก.ค.- ศรีลังกาเตือนว่า ประเทศจะมีน้ำมันใช้ไม่ถึงหนึ่งวัน หากปริมาณการใช้ยังคงเป็นไปตามปกติ ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อ 74 ปีก่อน นายกันชนะ วิเจเสเขระ รัฐมนตรีพลังงานของศรีลังกาเผยกับสื่อเมื่อวันอาทิตย์ว่า ศรีลังกาเหลือน้ำมันดีเซลในคลังเพียง 12,774 ตัน และน้ำมันเบนซินเพียง 4,061 ตัน ส่วนน้ำมันลอตใหม่คาดจะมาถึงราววันที่ 22-23 กรกฎาคม หรือไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ แต่ธนาคารกลางสามารถชำระค่าน้ำมันนำเข้าได้เพียง 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,456 ล้านบาท) จากที่ต้องจ่ายทั้งหมด 587 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20,926 ล้านบาท) หากนำเข้าตามที่กำหนด นอกจากนี้ศรีลังกายังค้างชำระค่าน้ำมัน 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 28,520 ล้านบาท) ที่ซื้อจากผู้จัดส่ง 7 รายตั้งแต่ต้นปีด้วย สัปดาห์ที่แล้ว ศรีลังกาได้สั่งระงับการจำหน่ายน้ำมันเดีเซลและเบนซินสำหรับยวดยานที่ไม่มีความจำเป็นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ไปจนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ศรีลังกาเป็นประเทศแรกของโลกที่ทำเช่นนี้ หลังจากสหรัฐและยุโรปใช้มาตรการปันส่วนน้ำมันในช่วงที่เกิดวิกฤตน้ำมันคริสต์ทศวรรษหลังปี […]

ศรีลังกาห้ามเติมน้ำมันรถที่ไม่จำเป็น 2 สัปดาห์

โคลัมโบ 28 มิ.ย.- ศรีลังกาสั่งห้ามการเติมน้ำมันให้แก่ยวดยานที่ไม่จำเป็นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากประเทศเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ รัฐบาลศรีลังกาแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า จะห้ามยวดยานส่วนตัวเติมน้ำมันเบนซินและดีเซลไปจนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม และจะอนุญาตให้เติมได้เฉพาะรถโดยสาร รถไฟ ยวดยานที่ใช้ทางการแพทย์และการขนส่งอาหาร นอกจากนี้ยังให้ปิดโรงเรียนในเขตเมือง และให้ประชากร 22 ล้านคนทำงานจากบ้าน โฆษกรัฐบาลเผยว่า ศรีลังกาไม่เคยเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรงเช่นนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์ประเทศ รัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจาขอซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียและกาตาร์ ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่แล้ว ทางการเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เหลือน้ำมันดีเซลเพียง 9,000 ตัน และน้ำมันเบนซิน 6,000 ตัน สำหรับใช้ในบริการจำเป็นเพียงไม่กี่วันเท่านั้น และคาดว่าจะหมดภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ หากยังมีการใช้เท่าในปริมาณปัจจุบัน เศรษฐกิจศรีลังกาได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ราคาน้ำมันแพง และการลดภาษี ทำให้ไม่มีสกุลเงินต่างประเทศมากพอที่จะชำระค่าสินค้านำเข้า และต้องผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม คณะตัวแทนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) เดินทางมาศรีลังกาเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อหารือเรื่องข้อตกลงความช่วยเหลือมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 106,059 ล้านบาท) นอกจากนี้รัฐบาลยังหาทางขอความช่วยเหลือจากจีนและอินเดียด้วย นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรามาสิงหะกล่าวเมื่อต้นเดือนว่า ศรีลังกาต้องการเงินอย่างน้อย 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 176,765 ล้านบาท) […]

1 6 7 8 9 10 29
...