กลุ่มสิทธิอ้างศรีลังกาข่มขู่ผู้ประท้วง

โคลัมโบ 4 ส.ค.- กลุ่มสิทธิมนุษยชนอ้างว่า รัฐบาลศรีลังกากำลังใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินคุกคามและจับกุมผู้ประท้วงตามอำเภอใจ กลุ่มฮิวแมนไรท์วอชท์ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐออกแถลงการณ์ว่า กองทัพศรีลังกาหาทางควบคุมการประท้วงด้วยการข่มขู่ สอดแนม และจับกุมตามอำเภอใจกับผู้ประท้วง นักเคลื่อนไหว ทนายความ และผู้สื่อข่าวตั้งแต่นายรานิล วิกรมสิงเห ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม และรัฐสภาศรีลังกาผ่านความเห็นชอบการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ให้อำนาจประธานาธิบดีออกระเบียบเพื่อความมั่นคงและความเป็นระเบียบของประชาชน กลุ่มนี้ระบุว่า ดูเหมือนรัฐบาลศรีลังกาปราบปรามผู้เห็นต่าง หวังเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นขอให้หุ้นส่วนสากลของศรีลังกาแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า ต้องทำงานกับรัฐบาลที่เคารพสิทธิมนุษยชน ประธานาธิบดีวิกรมสิงเหสั่งจับกุมผู้ประท้วงโดยให้เหตุผลว่า แม้การประท้วงเริ่มต้นอย่างสันติ แต่กลุ่มที่มีผลประโยชน์ทางการเมืองได้เข้ามามีบทบาทและใช้ความรุนแรง พร้อมกับอ้างเรื่องที่มีการเผาบ้านพักนักการเมืองพรรครัฐบาลหลายสิบหลังในการประท้วงเมื่อเดือนพฤษภาคม เขาแถลงต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ว่า จะผ่อนผันโทษให้แก่ผู้ใช้ความรุนแรงโดยไม่รู้ หรือถูกผู้อื่นยุยง และจะลงโทษผู้เจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

“วิกรมสิงเห” ชี้ยังไม่ถึงเวลาที่อดีตผู้นำศรีลังกากลับประเทศ

โคลัมโบ 1 ส.ค. – ประธานาธิบดีรานิล วิกรมสิงเห ของศรีลังกา ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่อดีตประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา จะเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากอาจทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองปะทุขึ้นอีกครั้ง ประธานาธิบดีวิกรมสิงเหเผยกับหนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ของสหรัฐ ว่า เขาไม่คิดว่าตอนนี้เป็นเวลาเหมาะสมที่อดีตประธานาธิบดีราชปักษาจะเดินทางกลับศรีลังกา และยังไม่ได้รับรายงานว่าอดีตผู้นำศรีลังกาจะเดินทางกลับประเทศในเร็ว ๆ นี้ สื่อดังกล่าวรายงานว่า ประธานาธิบดีวิกรมสิงเหยังคงติดต่อกับอดีตประธานาธิบดีราชปักษาเพื่อจัดการปัญหาด้านการส่งมอบอำนาจบริหารของรัฐบาล ทั้งยังระบุว่า ผู้นำศรีลังกาคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงระดับเจ้าหน้าที่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ภายในสิ้นเดือนนี้ โดยศรีลังกาจำเป็นต้องหาเงินให้ได้ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(108,870 ล้านบาท) จากแหล่งเงินทุนอื่น ๆ ในปีหน้าเพื่อนำมาใช้นำเข้าสินค้าจำเป็น เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง อาหาร และปุ๋ย นอกจากนี้ ประธานาธิบดีวิกรมสิงเห ยังกล่าวว่า ต้องใช้เวลานานอีกหลายเดือนจึงจะเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของศรีลังกา ก่อนหน้านี้ อดีตประธานาธิบดีราชปักษาถูกกลุ่มผู้ชุมนุมบุกยึดทำเนียบประธานาธิบดีเพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง จนทำให้เขาต้องหลบหนีออกจากศรีลังกาไปยังมัลดีฟส์ในวันที่ 13 กรกฎาคม ก่อนออกเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ และยื่นจดหมายลาออกต่อรัฐสภาศรีลังกา หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน นายวิกรมสิงเห ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีศรีลังกา ก็ได้รับเลือกจากรัฐสภาศรีลังกาให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ. -สำนักข่าวไทย

ธนาคารโลกยังไม่มีแผนเสนอความช่วยเหลือใหม่ให้ศรีลังกา

วอชิงตัน 29 ก.ค.- ธนาคารโลกยังไม่มีแผนการเสนอความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่ให้แก่ศรีลังกาที่กำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อ 74 ปีก่อน ธนาคารโลกแถลงว่า ศรีลังกาจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างที่เน้นเรื่องการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และแก้ไขที่รากเหง้าของวิกฤตที่ทำให้ประเทศขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ อาหาร เชื้อเพลิง และยา ธนาคารโลกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์เศรษฐกิจเลวร้ายและผลกระทบต่อประชาชนของศรีลังกา จึงได้กำลังปรับเปลี่ยนความช่วยเหลือภายใต้สินเชื่อปัจจุบันไปช่วยบรรเทาการขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น ยา ก๊าซหุงต้ม และอาหารสำหรับเด็ก ๆ และเงินสดสำหรับครัวเรือนเปราะบาง และได้กำหนดวิธีการกำกับดูแลเพื่อให้มีการแจกจ่ายทรัพยากรเหล่านี้อย่างเป็นธรรม อดีตประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษาของศรีลังกาเผยขณะยังอยู่ในตำแหน่งเมื่อเดือนมิถุนายนว่า ธนาคารโลกจะปรับปรุงโครงสร้างของโครงการปัจจุบัน 17 โครงการ และจะจัดสรรความช่วยเหลือเพิ่มเติม หลังจากสามารถสรุปการเจรจาเรื่องสินเชื่อกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) อย่างไรก็ดี นายราชปักษาได้หนีออกนอกประเทศและลาออกที่สิงคโปร์ หลังจากประชาชนบุกบ้านพักและทำเนียบประธานาธิบดี ปัจจุบันศรีลังกายังอยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ใช้มาตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม.-สำนักข่าวไทย

เผยอดีต ปธน. ศรีลังกาได้ต่อวีซ่าอยู่สิงคโปร์อีก 14 วัน

สิงคโปร์ 27 ก.ค. – สื่อของสิงคโปร์รายงานวันนี้ว่า อดีตประธานาธิบดีโกเตบายา ราชปักษา ของศรีลังกา จะได้รับการต่อวีซ่าให้พำนักอาศัยในสิงคโปร์ได้อีก 14 วัน หนังสือพิมพ์เดอะสเตรทไทมส์ของสิงคโปร์ ระบุว่า อดีตประธานาธิบดีราชปักษา วัย 73 ปี ได้รับวีซ่าให้พำนักอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ 14 วัน นับตั้งแต่ที่เขาเดินทางถึงสิงคโปร์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมโดยเที่ยวบินของสายการบินซาอุเดียของซาอุดีอาระเบียจากมัลดีฟส์ และเขาจะได้รับการต่อวีซ่าให้พำนักในสิงคโปร์ได้อีก 14 วัน จนถึงวันที่ 11 สิงหาคม สื่อดังกล่าวยังรายงานว่า อดีตผู้นำศรีลังกาได้เดินทางเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองก่อนที่ย้ายไปอยู่ในที่พักส่วนตัวในสิงคโปร์ ทั้งนี้ อดีตประธานาธิบดีราชปักษาได้เก็บตัวเงียบและไม่ได้ปรากฏตัวในที่สาธารณะนับตั้งแต่เดินทางถึงสิงคโปร์ รายงานข่าวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่โฆษกรัฐบาลศรีลังกาเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคารว่า อดีตประธานาธิบดีราชปักษาเตรียมเดินทางกลับบ้านเกิด แต่เขาไม่รู้ว่าอดีตผู้นำศรีลังกาจะเดินทางกลับประเทศเมื่อใด พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า อดีตประธานาธิบดีราชปักษาไม่ได้หลบซ่อนตัวและไม่ได้ถูกสั่งเนรเทศออกนอกประเทศแต่อย่างใด ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐ รายงานอ้างคำพูดเจ้าหน้าที่รัฐบาลศรีลังที่ไม่เผยนามว่า อดีตประธานาธิบดีราชปักษาต้องการเดินทางกลับประเทศโดยเร็วที่สุด และอยากกลับไปใช้ชีวิตในบ้านพักส่วนตัวที่ย่านชานเมืองกรุงโคลัมโบของศรีลังกา ก่อนหน้านี้ อดีตประธานาธิบดีราชปักษาได้หลบหนีออกนอกศรีลังกาไปมัลดีฟส์ก่อนออกเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ หลังถูกกลุ่มผู้ประท้วงบุกยึดทำเนียบประธานาธิบดีเพื่อกดดันให้เขาลาออกจากตำแหน่งท่ามกลางปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่ทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อจนส่งผลให้ราคาสินค้าจำเป็นพุ่งสูงขึ้น เช่น อาหารและน้ำมันเชื้อเพลิง.-สำนักข่าวไทย

ร้องสิงคโปร์จับอดีต ปธน.ศรีลังกา ก่ออาชญากรรมสงคราม

กลุ่มสิทธิมนุษยชนยื่นคำร้องอาญาต่ออัยการใหญ่สิงคโปร์ให้จับกุมนายโกตาบายา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดีศรีลังกาข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามในช่วงที่ศรีลังกาเกิดสงครามกลางเมือง

กองกำลังความมั่นคงศรีลังกาเข้ากวาดล้างผู้ประท้วง

กองกำลังความมั่นคงของศรีลังกาบุกจู่โจมค่ายที่พักของกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่เข้ายึดครองพื้นที่ของรัฐบาลในกรุงโคลัมโบเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ พร้อมกับกวาดล้างให้ผู้ประท้วงออกไปจากพื้นที่

“รานิล วิกรมสิงเห” เข้าพิธีสาบานรับตำแหน่ง ปธน. ศรีลังกา

โคลัมโบ 21 ก.ค. – นายรานิล วิกรมสิงเห อดีตนายกรัฐมนตรีศรีลังกา 6 สมัย ได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของศรีลังกาในวันนี้ โดยคาดว่าเขาจะตั้งคณะรัฐบาลสมานฉันท์จากทุกฝ่ายเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ นายวิกรมสิงเห วัย 73 ปี ได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของศรีลังกาในวันนี้ หลังจากที่เขาได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของศรีลังกาทิ้งห่างผู้สมัครรายอื่นขาดลอยเมื่อวันพุธ เนื่องจากอดีตประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ถูกประชาชนรวมตัวขับไล่จนต้องหนีออกนอกประเทศไปมัลดีฟส์และต่อไปยังสิงคโปร์พร้อมกับยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่แหล่งข่าวไม่เผยนามในแวดวงการเมืองของศรีลังกาเผยว่า นายวิกรมสิงเหจะเชิญพรรคการเมืองทุกฝ่ายเข้าร่วมคณะรัฐบาล ซึ่งมีตำแหน่งรัฐมนตรี 30 คน เพื่อนำพาศรีลังกาให้หลุดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ และคาดว่าเขาจะแต่งตั้งให้นายดิเนช กุนาวาร์เดนา อดีตรัฐมนตรีกระทรวงบริหารรัฐกิจศรีลังกาและเพื่อนเก่าแก่ของนายวิกรมสิงเห รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีศรีลังกาคนใหม่ ก่อนหน้านี้ นายวิกรมสิงเหเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงค่ำวันพุธหลังรัฐสภาศรีลังกาเลือกเขาเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ว่า ผู้ที่พยายามโค่นล้มรัฐบาลด้วยการบุกยึดทำเนียบประธานาธิบดีและทำเนียบนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ทำตามวิถีของระบอบประชาธิปไตยและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย รัฐบาลศรีลังกาจะใช้กฎหมายจัดการกับผู้ที่กระทำการเช่นนั้น ทั้งยังระบุว่า เขาไม่ใช่มิตรของตระกูลราชปักษา แต่เป็นมิตรของประชาชน.-สำนักข่าวไทย

สภาศรีลังกาเลือกนายกฯ เป็น ปธน.

โคลัมโบ 20 ก.ค.- สมาชิกรัฐสภาศรีลังกาลงคะแนนเลือกนายรานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรี 6 สมัยให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันนี้ เป็นการลงคะแนนที่เสี่ยงจุดชนวนความโกลาหลทางการเมืองขึ้นอีกครั้ง นายวิกรมสิงเห วัย 73 ปี ทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีแทนนายโกตาบายา ราชปักษาที่ลาออกจากตำแหน่งทางอีเมล หลังจากหนีออกนอกประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน เขามีประสบการณ์ทางการทูตและเวทีระหว่างประเทศอย่างกว้างขวาง ขณะนี้กำลังเจรจาขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) เขาได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลผสมที่เสียงแตก แต่ไม่เป็นที่ต้องการของผู้ประท้วงที่มองว่าเขาคือมรดกตกทอดของรัฐบาลราชปักษา สมาชิกสภา 225 คนลงคะแนนลับเลือกประธานาธิบดีในวันนี้ นายวิกรมสิงเหได้ 134 เสียง ทิ้งขาดนายดัลลัส อาลาฮัปเปรูมา วัย 63 ปี อดีตรัฐมนตรีสื่อมวลชนที่ได้ 82 เสียง เขาจะดำรงตำแหน่งไปจนกว่าจะครบวาระของนายราชปักษาในสิ้นปี 2567 ก่อนหน้านี้กลุ่มนักศึกษาและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองได้จัดการชุมนุมประท้วงเมื่อวันอังคารเรียกร้องให้นายวิกรมสิงเหลาออกก่อนถูกบังคับ และมีบางคนโพสต์ขู่สมาชิกสภาว่าจะไม่ได้รับเลือกตั้งอีกสมัยหากลงคะแนนเลือกนายวิกรมสิงเหเป็นประธานาธิบดี.-สำนักข่าวไทย

ชาวศรีลังกาจะประท้วงค้านนายกฯ ชิง ปธน.

โคลัมโบ 19 ก.ค.- นักศึกษาและชาวศรีลังกาอีกหลายกลุ่มเตรียมชุมนุมในวันนี้เพื่อประท้วงการที่นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห มีแนวโน้มจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี นายวิกรมสิงเห วัย 73 ปี ทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีศรีลังกา แทนประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษาที่ลาออกหลังจากหนีไปสิงคโปร์ ผู้ประท้วงต้องการให้นายวิกรมสิงเหลาออกเช่นเดียวกัน พรรคการเมืองในศรีลังกาจะเสนอชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันนี้ เพื่อให้สมาชิกสภาลงมติเลือกในวันพุธ ผู้ได้รับเลือกจะดำรงตำแหน่งจนกว่าจะครบวาระของนายราชปักษาสิ้นปี 2567 ด้านนายซาจิธ พรีมาดาซา วัย 55 ปี หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้านและบุตรชายของอดีตประธานาธิบดีรานาสิงเห พรีมาดาซา ทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า กำลังจะไปสภา อยากให้ชาวศรีลังการู้ว่า เขาจะตัดสินใจอย่างถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของมาตุภูมิและสิทธิของชาวศรีลังกาทุกคน อัตราเงินเฟ้อของศรีลังกาที่พุ่งสูงกว่าร้อยละ 50 ประกอบกับภาวะขาดแคลนอาหาร เชื้อเพลิง ยา และสิ่งของจำเป็นทำให้ชาวศรีลังกาจำนวนมากออกมาชุมนุมตามท้องถนนเป็นเวลาหลายเดือน นำมาซึ่งการบุกทำเนียบประธานาธิบดี ที่พักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม.-สำนักข่าวไทย

หลายประเทศอาจเผชิญชะตากรรมเดียวกับศรีลังกา

วอชิงตัน 18 ก.ค.- กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) เตือนว่า หลายประเทศอาจเผชิญชะตากรรมเดียวกับศรีลังกาที่ตกอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจร้ายแรงที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งจุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ และผู้นำต้องหนีออกนอกประเทศ เว็บไซต์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงแห่งอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) อ้างคำกล่าวของนางคริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟเมื่อวันเสาร์ว่า ประเทศที่มีหนี้สินสูงและมีความจำกัดในการดำเนินนโยบายจะเผชิญกับความตึงตัวเพิ่มเติม เธอยกศรีลังกาขึ้นเป็นตัวอย่างว่า มีปัญหาในการชำระค่าสินค้านำเข้าจำเป็น เพราะเผชิญวิกฤติอัตราแลกเปลี่ยน เงินเฟ้อสูงถึงร้อยละ 50 ราคาอาหารแพงขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 80 เงินรูปีศรีลังกาอ่อนค่าอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินหลักอื่น ๆ ศรีลังกามีหนี้พอกพูนจนกลายเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศในรอบ 20 ปีเมื่อเดือนมิถุนายน บีบีซีวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจของ สปป.ลาว ปากีสถาน มัลดีฟส์ และบังกลาเทศว่ามีแนวโน้มจะเดินตามรอยศรีลังกา สปป.ลาวมีประชากรมากกว่า 7 ล้าน 5 แสนคน เป็นคนยากจนถึง 1 ใน 3 สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ทำให้น้ำมันแพงทำให้ค่าครองชีพสูงยิ่งขึ้นไปอีก เงินกีบลาวเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงกว่า 1 ใน 3 แล้วในปีนี้ การที่สหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ายิ่งขึ้น เป็นเหตุให้เงินกีบอ่อนค่าลงอีก และสินค้านำเข้ามีราคาสูงขึ้น ธนาคารโลกระบุว่า สปป.ลาวมีทุนสำรอง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว […]

รักษาการ ปธน. ศรีลังกาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

โคลัมโบ 18 ก.ค. – นายรานิล วิกรมสิงเห รักษาการประธานาธิบดีของศรีลังกา ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศเมื่อคืนวันอาทิตย์ ในขณะที่ศรีลังกากำลังควบคุมเหตุไม่สงบและรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ รัฐบาลศรีลังกาได้ประกาศในแถลงการณ์เมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า นายรานิล วิกรมสิงเห รักษาการประธานาธิบดีของศรีลังกา ได้ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม ปกป้องความสงบเรียบร้อยของประชาชน และการดูแลสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อผู้คนในสังคม ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่การชุมนุมประท้วงในศรีลังกาครบ 100 วันเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนหน้านี้ อดีตประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ของศรีลังกา ซึ่งขณะนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปยังสิงคโปร์ หลังถูกประชาชนจำนวนมากขับไล่โดยบุกยึดทำเนียบและที่พักส่วนตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่า เขาได้พยายามทำทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้แล้ว ด้านรัฐสภาศรีลังกาที่ได้รับจดหมายลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการของอดีตประธานาธิบดีราชปักษาเมื่อวันศุกร์ได้เปิดประชุมเมื่อวันเสาร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่และแนวทางการจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงล็อตล่าสุดที่เพิ่งได้รับเพื่อนำมาใช้บรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำมันในประเทศ อย่างไรก็ดี นายวิกรมสิงเห อดีตนายกรัฐมนตรีศรีลังกาซึ่งเป็นพันธมิตรกับอดีตประธานาธิบดีราชปักษา มีชื่อเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ด้วย จุดกระแสวิตกว่า อาจเกิดเหตุไม่สงบอีกหากเขาได้รับเลือกเลือก เนื่องจากผู้ชุมนุมต้องการให้เขาลาออกเช่นเดียวกับอดีตประธานาธิบดีราชปักษา. -สำนักข่าวไทย

อดีต ปธน.ศรีลังกาว่าทำทุกอย่างแล้วเพื่อป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจ

นายโกตาบายา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา ซึ่งหนีออกนอกประเทศเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหลีกเลี่ยงการลุกฮือของประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลของเขา กล่าวว่า เขาดำเนินการตามขั้นตอนที่เป็นไปได้ทุกอย่างแล้วในการป้องกันมิให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจที่กำลังรุมเร้าศรีลังกาอยู่ในขณะนี้

1 4 5 6 7 8 29
...