วัคซีนโควิด

มะนิลา 11 ก.พ. – ฟิลิปปินส์คาดว่าจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวน 600,000 โดสของซิโนแวกที่จีนบริจาคให้ในเดือนนี้ โดยจะนำไปฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล นายแฮร์รี่ โร้ก โฆษกของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า ฟิลิปปินส์จะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวกที่จีนบริจาคให้ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้อย่างแน่นอน แต่จะยังไม่นำมาใช้จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาหรือเอฟดีเอของฟิลิปปินส์ ขณะนี้ เอฟดีเอได้อนุมัติใช้วัคซีน 2 ขนานเป็นกรณีฉุกเฉิน ได้แก่ วัคซีนของแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์/ไบออนเทค เขายังระบุเพิ่มเติมว่า ทางการจะนำวัคซีนของซิโนแวก 100,000 โดสไปฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ทหาร และอีก 500,000 โดสไปฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ฟิลิปปินส์ตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้างโดยใช้วัคซีนของไฟเซอร์จำนวน 117,000 โดสที่ได้รับบริจาคผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก และคาดว่าจะได้รับวัคซีนดังกล่าวในเดือนนี้ ฟิลิปปินส์ยังได้เจรจาในข้อตกลงซื้อวัคซีนจากผู้ผลิตวัคซีนอีกหลายแห่ง เช่น โมเดอร์นา สถาบันกามาเลยา แจสเซน ไฟเซอร์ แอสตราเซเนกา ซิโนแวก และโนวาแวกซ์ เพื่อให้ได้วัคซีนราว 148 ล้านโดส โดยคาดว่าจะได้รับวัคซีนทั้งหมดในช่วงไตรมาสที่ 2 และ […]

นิวเดลี 5 ก.พ. – ไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐประกาศถอนการยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินในอินเดีย หลังไม่ผ่านเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลยาอินเดียในด้านการศึกษาความปลอดภัยและภูมิคุ้มกันระดับท้องถิ่น ไฟเซอร์ระบุในแถลงการณ์ว่า จากการพิจารณาในที่ประชุมและความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลเพิ่มเติมที่องค์การกลางควบคุมมาตรฐานยาของอินเดียอาจต้องการ บริษัทได้ตัดสินใจถอนเอกสารการขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ ไฟเซอร์จะยังคงประสานงานกับหน่วยงานดังกล่าว และจะยื่นขออนุมัติวัคซีนพร้อมข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้งเมื่อถึงเวลาอันสมควรในอนาคต ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของอินเดียเผยว่า พวกเขาได้ขอผลการทดลองที่เชื่อมต่อข้อมูลจากไฟเซอร์ เพื่อนำมาพิจารณาว่าวัคซีนมีความปลอดภัยและสร้างภูมิคุ้มกันในชาวอินเดียได้หรือไม่ นอกจากนี้ หน่วยงานกำกับดูแลยาของอินเดียยังระบุในเว็บไซต์ว่า ผู้เชี่ยวชาญของอินเดียไม่แนะนำให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์เนื่องจากได้รับรายงานผลข้างเคียงในต่างประเทศที่มีการสืบสวนอยู่ และไฟเซอร์ไม่ได้เสนอแผนการสนับสนุนข้อมูลด้านความปลอดภัยและภูมิคุ้มกันในอินเดียแต่อย่างใด การตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้วัคซีนของไฟเซอร์ไม่ได้รับการจำหน่ายในจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรสูงเป็นอันดับที่ 1 และ 2 ของโลกในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่ทั้งสองประเทศได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนโดยใช้วัคซีนของบริษัทอื่นไปแล้ว ทั้งนี้ บริษัทผู้ผลิตวัคซีนต่างชาติได้ทำการทดลองทางคลินิกเป็นกลุ่มเล็กในอินเดียก่อนยื่นขออนุมัติใช้วัคซีน แต่ไฟเซอร์ได้ขอยกเว้นการทดลองดังกล่าวโดยอ้างผลอนุมัติใช้วัคซีนที่มาจากการทดลองทางคลินิกในประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐและเยอรมนี.-สำนักข่าวไทย

จอห์นสันแอนด์จอหน์สัน บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินต่อหน่วยงานกำกับดูแลยาของสหรัฐแล้ว

สิงคโปร์ 3 ก.พ. – สิงคโปร์เป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่ประกาศอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของโมเดอร์นา บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ และคาดว่าจะได้รับวัคซีนดังกล่าวล็อตแรกในเดือนหน้า องค์การวิทยาศาสตร์สุขภาพ หรือ เอชเอสเอ (HSA) ของสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์ว่า จากการพิจารณาข้อมูลการทดลองทางคลินิกพบว่า วัคซีนของโมเดอร์นามีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 ได้สูงถึงร้อยละ 94 และมีประโยชน์ด้านการรักษามากกว่าความเสี่ยงต่อสุขภาพ วัคซีนของโมเดอร์นาถือเป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขนานที่สองที่ผ่านการอนุมัติใช้ในสิงคโปร์ต่อจากวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์เผยว่า ทางการจะเร่งฉีดวัคซีนของโมเดอร์นาให้แก่ชาวสิงคโปร์ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และเมื่อวานนี้มีชาวสิงคโปร์ที่ได้รับวัคซีนโดสแรกของไฟเซอร์กว่า 175,000 คนแล้ว ในจำนวนนี้ มีชาวสิงคโปร์ราว 6,000 คนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโดสสองเป็นที่เรียบร้อย และพวกเขาก็จะมีภูมิคุ้มกันป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเพียงพอในอีก 2 สัปดาห์หน้า ขณะนี้สิงคโปร์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 59,600 คน และผู้เสียชีวิตเพียง 29 คน.-สำนักข่าวไทย

ลอนดอน 3 ก.พ. – แกล็กโซสมิทไคลน์ บริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษ และเคียวแวก บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของเยอรมนีประกาศแผนความร่วมมือในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดที่กลายพันธุ์ แถลงการณ์ร่วมของแกล็กโซสมิทไคลน์และเคียวแวกระบุว่า โครงการพัฒนาวัคซีนดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้นในทันที โดยตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในปีหน้า โดยที่แกล็กโซสมิทไคลน์จะสนับสนุนการผลิตวัคซีนรุ่นแรกของเคียวแวกสูงสุดถึง 100 ล้านโดสภายในปีนี้ เชื้อไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รุ่นแรกมีประสิทธิภาพลดลง จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อโควิดกลายพันธุ์และก้าวนำการระบาดอยู่เสมอ ผู้บริหารระดับสูงของแกล็กโซสมิทไคลน์กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิดรุ่นต่อไปจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับมือกับการระบาด ขณะที่ผู้บริหารของเคียวแวกระบุว่า บริษัทรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่บรรลุข้อตกลงใหม่ร่วมกับแกล็กโซสมิทไคลน์ และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพในอนาคตด้วยการพัฒนาวัคซีนขนานใหม่ที่ได้รับการช่วยเหลือจากแกล็กโซสมิทไคลน์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัคซีน ทั้งนี้ ข้อตกลงร่วมกันของทั้งสองบริษัทมีมูลค่าสูงถึง 150 ล้านยูโร (5,420 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย