จีนมุ่งสานต่อมิตรภาพดั้งเดิม ส่งเสริมความร่วมมือกับไทย
ายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน เปิดเผยว่าจีนพร้อมทำงานร่วมกับไทยเพื่อใช้วาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2025 เป็นโอกาสสานต่อมิตรภาพดั้งเดิม เสริมสร้างการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์
ายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน เปิดเผยว่าจีนพร้อมทำงานร่วมกับไทยเพื่อใช้วาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2025 เป็นโอกาสสานต่อมิตรภาพดั้งเดิม เสริมสร้างการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์
นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน เผยวานนี้ว่า จีนสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียนอย่างแข็งขัน รวมถึงสถานะศูนย์กลางของอาเซียนในความร่วมมือระดับภูมิภาค
เวียงจันทน์ 9 ต.ค.- ผู้นำชาติสมาชิกอาเซียนเริ่มการประชุมสุดยอดที่นครหลวงเวียงจันทน์ของ สปป. ลาวในวันนี้ โดยที่ประเทศไทยเตรียมเสนอหนทางใหม่ในการหาทางออกทางการเมืองเพื่อแก้ไขวิกฤตเมียนมา นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาวในฐานะประเทศที่เป็นประธานสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนวาระปัจจุบันกล่าวเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนว่า อาเซียนเผชิญกับความท้าทายมากมาย และมีหนทางของตนเองในการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ความสำเร็จในอดีตของอาเซียนเกิดจากความเข้าใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกัน และร่วมมือกันตามวิถีและหลักการของอาเซียน ด้านนายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงต่างประเทศไทยเผยกับสื่อว่า ไทยต้องการเห็นทางออกทางการเมือง และพร้อมประสานงานกับสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ เพื่อให้เกิดความพยายามร่วมกันที่จะนำมาซึ่งสันติภาพในเมียนมา ความริเริ่มของไทยจะเสริมความพยายามสันติภาพของอาเซียนที่มีอยู่แล้ว แต่ยังอาจจะไม่รวมถึงประเทศที่อยู่นอกกลุ่ม รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ไทยเคยเสนอแนะเมื่อหลายเดือนก่อนว่า ประเทศที่มีอิทธิพลต่อเมียนมาอย่างจีนและอินเดียอาจมีบทบาทต่อการสร้างสันติภาพในเมียนมา แต่ข้อเสนอล่าสุดของไทยจำกัดเฉพาะอาเซียนเท่านั้น ประเทศไทยได้เสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเมื่อวานนี้เรื่องจะเป็นเจ้าภาพจัดการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่าง 10 ชาติสมาชิกอาเซียนในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อพยายามหาทางออกให้แก่ความขัดแย้งยืดเยื้อในเมียนมาที่ทำให้ประชาชนหลายล้านคนต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่น .-814.-สำนักข่าวไทย
โฆษกรัฐบาล เปิดกำหนดการประชุมอาเซียน วันแรก นายกฯ เตรียมร่วมประชุมสุดยอด และหารือกับผู้นำอาเซียนหลายชาติ
เวียงจันทน์ 8 ต.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศ สปป. ลาวย้ำว่า ความพยายามร่วมกันของอาเซียนเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน นายสะเหลิมไซ กมมะสิด รัฐมนตรีต่างประเทศ สปป. ลาวกล่าวเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนที่นครหลวงเวียงจันทน์ในวันนี้ว่า การประชุมครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ภูมิภาคและโลกยังคงเผชิญกับภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความซับซ้อน ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย ความพยายามร่วมกันของอาเซียนจึงมีความจำเป็นเพื่อให้สามารถตอบสนองเชิงรุกและมีประสิทธิภาพต่อความท้าทายเหล่านี้ โดยมีเจตนาที่จะส่งเสริมและคงไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ ความรุ่งเรืองของภูมิภาคและของโลก รวมทั้งคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์และความเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในฐานะผู้ขับเคลื่อนหลักของพลังในการการขับเคลื่อนสถาปัตยกรรมของภูมิภาคนี้ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันนี้มีขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 44 – 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2567 ด้านเมียนมาได้ส่งนายออง จอ โม ปลัดกระทรวงต่างประเทศเป็นผู้แทนการประชุม เนื่องจากผู้นำเมียนมายังคงถูกห้ามเข้าร่วมการประชุมอาเซียน เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ข้อ ซึ่งเป็นแผนสันติภาพที่เมียนมาตกลงในเดือนเมษายน 2564 หลังจากกองทัพก่อรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกัน.-814.-สำนักข่าวไทย
นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิฃิบะ ของญี่ปุ่น จะเดินทางเยือนลาวในสัปดาห์นี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวเนื่องกับสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน
ทำเนียบ 4 ต.ค.- เวทีอาเซียนที่ สปป ลาว เตรียมต้อนรับ “นายกฯ แพทองธาร” เยือนอย่างเป็นทางการ พร้อมจับมือผู้นำร่วมประชุมอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 ร่วมวงเวทีทวิภาคี 8 – 11 ตุลาคมนี้ มุ่งขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืนระหว่างไทย – ลาว สานต่อความร่วมมือในกรอบอาเซียนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ มีกำหนดเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป ลาว) อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 8 ตุลาคม 2567 รวมทั้งเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 – 45 พร้อมทั้งการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 9 – 11 ตุลาคม 2567 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ตามคำเชิญของนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี […]
ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ จะเดินทางเยือนฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ก่อนจะเดินทางไปลาว ในสัปดาห์หน้า เพื่อเข้าประชุมสุดยอดผู้นำสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน
เวียงจันทน์ 16 ก.ย.- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนประมวลภาพบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ริมแม่น้ำโขงประสบภัยน้ำหลากท่วมในนครหลวงเวียงจันทน์ของ สปป.ลาว โดยเป็นภาพที่บันทึกไว้เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567 ซินหัวรายงานว่า บ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำโขงในเวียงจันทน์เผชิญน้ำท่วม หลังจากระดับน้ำของแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะฝนตกหนักในระยะนี้ ทางการลาวได้เตือนประชาชนในเวียงจันทน์เฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะมีความเสี่ยงน้ำท่วมสูงขึ้น ซินหัวอ้างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของลาวว่า ระดับน้ำของแม่น้ำโขงในเวียงจันทน์อยู่ที่ 12.57 เมตรในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน ซึ่งสูงเกินระดับอันตรายที่กำหนดไว้ 12.50 เมตร.-814.-สำนักข่าวไทย
เวียงจันทน์ 12 ก.ย.- คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงไม่พบสัญญาณเรื่องจีนปล่อยน้ำจากเขื่อน หลังจากมีรายงานว่า ทางการสปป. ลาวได้แจ้งเตือนประชาชนให้ระวังการระบายน้ำจากเขื่อนจีน รายงานของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างรัฐบาลของประเทศในลุ่มน้ำโขง ระบุว่า ระดับน้ำที่หลวงพระบางได้เพิ่มขึ้นจากปกติ 1 เมตร ขณะที่ระดับน้ำที่เขื่อนจิ่งหง (Jinghong Dam) ซึ่งเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนานของจีน มีระดับที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยระหว่าง 535.58 เมตร ถึง 535.65 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลในช่วง 3 วันที่ผ่านมา และไม่มีสัญญาณใด ๆ ว่า จะมีการปล่อยน้ำปริมาณมากจากเขื่อนดังกล่าวในช่วงเวลานี้ ซึ่งตรงกับข้อมูลทางอุทกวิทยาแม่น้ำโขงของกรมทรัพยากรน้ำที่ระบุว่า ปริมาณน้ำที่จิ่งหงมีระดับค่อนข้างคงที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ประมาณ 1300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนจิ่งหงเป็น 1 ในเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้ากั้นแม่น้ำโขง 12 แห่งของจีน อยู่ห่างจากอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายของไทยประมาณ 340 กิโลเมตร.-812(814).-สำนักข่าวไทย
“เศรษฐา” เตรียมเปิดทำเนียบฯ รับการเยือน “นายกฯ สปป ลาว” เผย มีแผนคุยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ยาเสพติด พรุ่งนี้
เวียงจันทน์ 28 ก.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศจีนย้ำต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่ สปป.ลาวเมื่อวันเสาร์ว่า ควรเดินในทิศทางที่ถูกต้อง และปกป้องความเป็นธรรมสากล สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีนรายงานว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งเป็นกรรมการในกรมการเมืองของคณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวปราศรัยต่อการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก หรืออีเอเอส (EAS) ครั้งที่ 14 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ว่า สถานการณ์นานาชาติในขณะนี้เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและความโกลาหล ประเด็นร้อนทวีความร้อนแรงและยากที่จะแก้ไข อีเอเอสจึงควรเดินในทิศทางที่ถูกต้อง ส่งเสริมความเป็นเอกภาพและความร่วมมือ ส่งเสริมสันติภาพและความรุ่งเรืองของภูมิภาคในระยะยาว และปกป้องความเป็นธรรมสากล นายหวังกล่าวว่า จีนขอเสนอ 4 ประเด็น ประเด็นแรก คือ การคงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่นำโดยอาเซียนเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ไม่ปล่อยให้ประเทศนอกกลุ่มสร้างกลุ่มย่อยขึ้นมาสร้างความแตกแยก ประเด็นที่ 2 คือ การปฏิบัติตามระเบียบภูมิภาค ไม่ปล่อยให้มีประเทศใดใช้กฎเพื่อประโยชน์ของตนเองตามอำเภอใจ ประเด็นที่ 3 คือ การร่วมกันผลักดันให้เกิดเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก เพราะการแยกและทำลายห่วงโซ่อุปทานและการตั้งกำแพงการค้ามีแต่จะทำให้เศรษฐกิจภูมิภาคย่ำแย่ ประเด็นสุดท้าย คือ การรักษาสมดุลของความมั่นคงทางการเมืองกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ รัฐมนรีต่างประเทศจีนถือโอกาสนี้ย้ำเรื่องไต้หวันว่า เป็นเรื่องภายในของจีนทั้งสิ้น กลุ่มภายนอกไม่มีสิทธิแทรกแซง ย้ำเรื่องจุดยืนที่จริงจังของจีนในทะเลจีนใต้ และจุดยืนของจีนที่จะส่งเสริมการหยุดยิงและการใช้วิถีทางการเมืองแก้ไขความขัดแย้งในกรณีปาเลสไตน์และวิกฤตยูเครน.-814.-สำนักข่าวไทย