รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉิน

ลอสแอนเจลิส 2 ส.ค. – ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรับมือการระบาดของโรคฝีดาษลิง และเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงให้แก่ประชาชน เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคดังกล่าวที่ทำให้มีชาวอเมริกันติดเชื้อกว่า 5,800 คน นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรับมือการระบาดของโรคฝีดาษลิงเมื่อวันจันทรฺ์ตามเวลาท้องถิ่น และเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงให้แก่ประชาชน ประกาศดังกล่าวจะทำให้เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินทางการแพทย์สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลกลางให้แก่ประชาชนเพื่อเร่งการฉีดวัคซีนให้ได้มากขึ้น ซึ่งคล้ายกับการอนุญาตให้เภสัชกรสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เมื่อไม่นานมานี้ ประกาศดังกล่าวของผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียมีขึ้น 9 วันหลังจากที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้การระบาดของโรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นระดับเตือนภัยสูงสุด สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัฐแคลิฟอร์เนียพบผู้ป่วยฝีดาษลิง 827 คนนับถึงวันจันทร์ สูงเป็นอันดับสองรองจากรัฐนิวยอร์กที่มี 1,390 คน โดยนางแคธี โฮเคิล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรับมือโรคฝีดาษลิงเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะนี้ทั่วโลกพบการระบาดของโรคฝีดาษลิงใน 70 ประเทศนอกทวีปแอฟริกา และมียอดผู้ป่วยฝีดาษลิงกว่า 22,100 คน.-สำนักข่าวไทย

รัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐเริ่มคุมไฟป่าครั้งใหญ่ของปีได้แล้ว

แคลิฟอร์เนีย 26 ก.ค. – สำนักงานป่าไม้และป้องกันอัคคีภัยของรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐ เผยว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเริ่มควบคุมไฟป่า ‘โอ๊ก ไฟร์’ (Oak Fire) ได้มากขึ้นแล้ว หลังไฟป่าดังกล่าวลุกลามไปยังพื้นที่ทางตะวันออกที่ตั้งอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี และทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากพื้นที่ สำนักงานป่าไม้และป้องกันอัคคีภัยของรัฐแคลิฟอร์เนีย (Cal Fire) ระบุในแถลงการณ์อัปเดตสถานการณ์ไฟป่าเมื่อคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ทางการท้องถิ่นประสบความสำเร็จมากขึ้นในการควบคุมไฟป่า ‘โอ๊ก ไฟร์’ ในวันนี้จากการทำงานอย่างหนักของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและการส่งเฮลิคอปเตอร์หลายลำบินโปรยน้ำราว 1.4 ล้านลิตรเหนือพื้นที่ไฟป่าขณะนี้ ไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ราว 43,600 ไร่นับถึงคืนวันจันทร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากช่วงเช้าวันจันทร์และคิดเป็นพื้นที่ครึ่งหนึ่งของนครซานฟรานซิสโกในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทั้งยังระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟป่าได้ร้อยละ 16 ของพื้นที่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากช่วงเช้าวันจันทร์ และได้อพยพประชาชน 3,700 คนออกจากพื้นที่ไฟป่าแล้ว ก่อนหน้านี้ ไฟป่า ‘โอ๊ก ไฟร์’ ซึ่งเป็นไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในปีนี้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ลุกลามกินพื้นที่เป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่วันศุกร์ จนทำให้ทางการท้องถิ่นต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจำนวนมากลงพื้นที่ควบคุมไฟป่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัฐแคลิฟอร์เนียกำลังเผชิญกับสภาพอากาศแห้งแล้งและร้อนจัด ซึ่งเอื้อต่อการเกิดไฟป่าได้ง่าย.-สำนักข่าวไทย

ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐยังลุกลามต่อเนื่อง

แคลิฟอร์เนีย 25 ก.ค. – สำนักงานดับเพลิงของรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐ เผยว่า สถานการณ์ไฟป่า ‘โอ๊ก ไฟร์’  (Oak Fire) ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ เนื่องจากรัฐแคลิฟอร์เนียกำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดที่มีอุณหภูมิสูงถึง 38 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่ของสำนักงานดับเพลิงรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไฟป่า ‘โอ๊ก ไฟร์’ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ได้เผาไหม้พื้นที่ราว 39,400 ไร่ และยังคงไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ขณะนี้ ไฟป่าดังกล่าวยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้รุนแรงเท่าหลายวันก่อน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งควบคุมไฟป่าให้ได้โดยเร็ว ขณะนี้ ทางการท้องถิ่นได้สั่งอพยพประชาชนกว่า 6,000 คนออกจากพื้นที่ และมีสิ่งปลูกสร้างกว่า 10 หลังถูกไฟป่าเผาไหม้ ขณะที่สำนักงานป่าไม้และควบคุมอัคคีภัยของรัฐแคลิฟอร์เนีย (Cal Fire) รายงานว่า มีสิ่งปลูกสร้างอีกราว 3,271 หลัง ซึ่งรวมถึงบ้านเรือนและสถานประกอบกิจการ ที่เสี่ยงต่อการถูกเผาไหม้จากไฟป่าในครั้งนี้ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า หลายสิบรัฐของสหรัฐกำลังเผชิญกับอุณหภูมิร้อนจัดที่เกิดขึ้นจากคลื่นความร้อน เช่น เขตมาริโปซา เคาน์ตี ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 38 […]

คลื่นความร้อนเข้าปกคลุมรัฐแคลิฟอร์เนีย

ประชาชน แห่หลบคลายร้อนที่ชายหาดทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังอุณหภูมิพุ่งสูง 33-35 องศาฯ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ เตือนบางพื้นที่อุณหภูมิอาจสูงถึง 49 องศาฯ

ตำรวจสหรัฐตามจับหมีดำตัวใหญ่พังบ้านเรือน 40 หลัง

แคลิฟอร์เนีย 23 ก.พ. – ตำรวจรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐประกาศตามจับหมีดำตัวขนาดใหญ่มากมีน้ำหนักถึง 227 กิโลกรัม ซึ่งได้รับการตั้งชื่อว่า ‘แฮงก์ เดอะ แทงก์’ (Hank the Tank) หลังจากที่หมีตัวนี้ได้บุกเข้าไปทำลายบ้านเรือนเกือบ 40 หลังในเมืองเซาท์เลคทาโฮในรัฐแคลิฟอร์เนียตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปีก่อน ตำรวจรัฐแคลิฟอร์เนียเผยว่า หมีดำตัวดังกล่าวมีน้ำหนักถึง 227 กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์น้ำหนักมาตรฐานของหมีทั่วไป และมีพฤติกรรมไม่ยอมจำศีลในฤดูหนาวอย่างที่ควรเป็น เนื่องจากมันกำลังต้องการกินอาหารให้มากที่สุดเพื่อสะสมไขมันให้เพียงพอก่อนเข้าสู่ช่วงจำศีล เจ้าหน้าที่ระบุว่า หากเกิดเหตุจำเป็นก็อาจจะต้องฆ่าหมีตัวนี้ เพราะมันโตขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ใกล้ชิดกับมนุษย์จนทำให้ไม่หวาดกลัวคน ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าเรียกร้องให้ตำรวจจับหมีดำตัวดังกล่าวไปปล่อยในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โฆษกของสำนักงานประมงและสัตว์ป่าแห่งแคลิฟอร์เนีย เผยว่า หมีดำตัวนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า ‘แฮงก์ เดอะ แทงก์’ เพราะมันมักบุกพังบ้านเรือนของชาวบ้านเพื่อค้นหาอาหารอย่างหิวโหยอยู่บ่อยครั้งด้วยการใช้พละกำลังจากลำตัวขนาดใหญ่ของมันพังประตูโรงเก็บรถยนต์ ประตูบ้าน หรือบานหน้าต่างเหมือนเอารถถังเข้าชนตามฉายา “เดอะแทงก์”  ขณะที่สำนักงานตำรวจเมืองเซาต์เลกทาโฮระบุว่า เครื่องไล่สัตว์ต่าง ๆ ที่มักทำให้หมีหวาดกลัวไม่ประสบผลสำเร็จในการไล่หมีดำตัวนี้ให้ออกไปจากชุมชน ทั้งยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุเกี่ยวกับหมีตัวดังกล่าวรวมกว่า 150 ครั้ง และมันได้บุกพังบ้านเรือนเกือบ 40 หลังในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ส่งสุนัขกลับสู่อ้อมกอดเจ้าของหลังหายไป 12 ปี

แคลิฟอร์เนีย 21 ก.พ. – เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ของสหรัฐ พบตัว ‘โซอี้’ สุนัขเพศเมียที่หายไป 12 ปีในย่านชนบทในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ และนำตัวส่งคืนอ้อมกอดของเจ้าของอีกครั้ง หลังบริษัทไมโครชิปที่เป็นเจ้าของชิปติดตามที่ฝังอยู่ในตัวโซอี้ระบุว่า สุนัขตัวดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 7 ปีก่อน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า โซอี้ถูกทิ้งจากรถยนต์คันหนึ่งในย่านชนบทใกล้เมืองสต็อกตันในรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีพลเมืองดีแจ้งตำรวจว่าพบเห็นสุนัขอายุมากที่ดูเหมือนป่วย จากนั้น เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ได้สแกนไมโครชิปที่ฝังอยู่ในตัวโซอี้และพบว่ามันหายไปตั้งแต่ 12 ปีก่อน เขาได้ข้อมูลติดต่อเจ้าของสุนัขจากบริษัทที่เป็นเจ้าของไมโครชิปและโชคดีที่เจ้าของยังคงใช้หมายเลขโทรศัพท์เดิม เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังระบุว่า พบตัวโซอี้ในพื้นที่ห่างจากจุดที่มันหายไปเมื่อ 12 ปีก่อนราว 100 กิโลเมตร โดยที่เจ้าของสุนัขอาศัยอยู่ในเมืองลาฟาแยตต์ในรัฐแคลิฟอร์เนียเช่นกัน ในขณะเดียวกัน มิเชลล์ ซึ่งเป็นเจ้าของโซอี้ เผยว่า เธอรู้สึกตกใจมากหลังทราบข่าวและไม่คาดคิดว่าสุนัขของเธอจะยังคงมีชีวิต  เธอเลี้ยงโซอี้ตั้งแต่มันยังมีอายุเพียง 6 เดือน โดยเลี้ยงได้ราวครึ่งปีก่อนที่มันจะหายตัวไปในขณะที่เธอและครอบครัวเข้าไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตประมาณ 20 นาที เธอดีใจมากที่โซอี้ยังไม่ตายและจะเลี้ยงดูมันอย่างดีที่สุดต่อไป. -สำนักข่าวไทย

สหรัฐพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดโอไมครอนรายแรกแล้ว

วอชิงตัน 2 ธ.ค. – สหรัฐพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน และมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกในวันที่ 29 พฤศจิกายน นพ. แอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ แถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐยังไม่ได้ประกาศใช้คำสั่งระงับการเดินทาง และมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกในวันที่ 29 พฤศจิกายน ขณะนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อคนดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการกักตัวเอง ส่วนผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ ทั้งยังระบุว่า ผู้ป่วยคนนี้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดส มีอาการป่วยเล็กน้อย และกำลังมีอาการดีขึ้น ขณะที่ นพ. แกรนท์ โคลแฟกซ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขของเมืองซานฟรานซิสโกกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ในขณะเดียวกัน หน่วยงานสาธารณสุขเมืองซานฟรานซิสโกและรัฐแคลิฟอร์เนียยืนยันว่า ผู้ป่วยคนดังกล่าวติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนหลังได้รับผลการจัดลำดับพันธุกรรมจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่าผู้ป่วยคนนี้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน.-สำนักข่าวไทย

“สุนิสา ลี” นักกีฬาเชื้อสายม้งถูกทำร้ายจากปัญหาเหยียดเอเชีย

ลอสแอนเจลีส 13 พ.ย. – สุนิสา ลี นักยิมนาสติกหญิงทีมชาติสหรัฐ ที่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายม้ง วัย 18 ปี และเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 เผยว่า เธอเพิ่งโดนฉีดพ่นสเปรย์พริกไทยใส่เนื่องจากปัญหาต่อต้านชาวเอเชียในสหรัฐ ในขณะที่ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ในนครลอสแอนเจลีสของรัฐแคลิฟอร์เนีย สุนิสา ลี ให้สัมภาษณ์กับป๊อปชูการ์ สื่อของสหรัฐเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ในขณะที่เธอและเพื่อน ๆ กำลังยืนรอรถโดยสารของอูเบอร์อยู่ มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นผ่านและคนในรถก็ฉีดพ่นสเปรย์พริกไทยใส่แขนเธอแล้วขับรถจากไป เธอรู้สึกโมโหมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาขับรถหนีไปแล้ว ทั้งนี้ สุนิสา ลี มีชื่อเสียงโด่งดังหลังสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 จากกีฬายิมนาสติกในประเภทอุปกรณ์รวมมาครองในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการป้องกันแชมป์ของสหรัฐต่ออีกสมัยหลังจากที่ซิโมน ไบลส์ นักยิมนาสติกชาวอเมริกัน วัย 24 ปี และเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2016 ประเภทอุปกรณ์รวม ประกาศถอนตัวจากการแข่งขันกะทันหันในปีนี้เนื่องจากปัญหาสภาพจิตใจ ข้อมูลของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือเอฟบีไอ ระบุว่า สหรัฐเผชิญกับปัญหาต่อต้านชาวเอเชียพุ่งสูงขึ้นในปี 2563 โดยที่นักเคลื่อนไหวหลายรายให้ความเห็นว่าเป็นผลมาจากวาทกรรมของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่มักเรียกเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 […]

VOA ส่งตรงจากสหรัฐฯ : คนไทยในสหรัฐฯ ขานรับไทยเปิดประเทศ

คนไทยในสหรัฐขานรับนโยบายการเปิดประเทศของไทย โดยเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขที่ทุกคนต้องดำรงชีวิตประจำวันอย่างมีวินัยเพื่อความปลอดภัยจากโควิด-19 

หุบเขามรณะในสหรัฐอุณหภูมิพุ่ง 54 องศาเซลเซียส

แคลิฟอร์เนีย 12 ก.ค. – คลื่นความร้อนรุนแรงที่ปกคลุมฝั่งตะวันตกของสหรัฐทำให้อุณหภูมิที่หุบเขามรณะ หรือเดธวัลเลย์ ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 54 องศาเซลเซียส และกลายเป็นสถานที่ที่ร้อนระอุที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก สำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ (NWS) เผยว่า บันทึกอุณหภูมิที่หุบเขามรณะได้สูงถึง 54 องศาเซลเซียสเมื่อวันเสาร์ ซึ่งหากได้รับตรวจสอบก็จะกลายเป็นสถานที่ที่ร้อนระอุที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับคลื่นความร้อนสูงที่ปกคลุมหลายพื้นที่ของภูมิภาค และเตือนประชาชนว่าอุณหภูมิสูงอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงวัย ในขณะเดียวกัน เครื่องวัดอุณหภูมิที่ตั้งอยู่ด้านนอกศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวดังกล่าวบันทึกอุณหภูมิก่อนถึงเวลา 16.00 น. ในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นได้สูงถึง 56.6 องศาเซลเซียส แม้เจ้าหน้าที่หน่วยงานอุทยานแห่งชาติระบุว่า เครื่องวัดอุณหภูมิมักวัดอุณหภูมิได้สูงกว่าที่ทางการรายงานก็ตาม คลื่นความร้อนรุนแรงที่ปกคลุมในหลายพื้นที่ของภูมิภาคแปซิฟิกนอร์ทเวสต์หรือตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ ยังส่งผลกระทบต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าและทำให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่หลายแห่ง ไฟป่าบูตเลก (Bootleg Fire) ในพื้นที่ทางใต้ของรัฐออริกอนที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา เผาไหม้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฟรีมองต์-วิเนมาแล้วราว 364,000 ไร่จนถึงช่วงบ่ายวันอาทิตย์ และเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ ขณะนี้ไฟป่ายังคงลุกลามไปตามเครือข่ายสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่เชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าระหว่างรัฐออริกอนกับรัฐแคลิฟอร์เนีย จนทำให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองรัฐวิตกกังวลว่าอาจเกิดไฟดับที่ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนและภาคธุรกิจจำนวนมาก. -สำนักข่าวไทย

กราดยิงพนักงานการรถไฟในแคลิฟอร์เนีย ตาย 8

เกิดเหตุกราดยิงที่ลานทางรถไฟในเมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 9 ราย รวมมือปืน โดยผู้เสียชีวิต 8 ราย เป็นพนักงานการรถไฟเขตซานตา คลารา วัลเลย์

1 2 3 4 12
...