ยูเครนว่าคำสั่งระดมพลของรัสเซียเป็นเรื่องที่คาดเดาได้

เคียฟ 21 ก.ย. – ยูเครนระบุว่า คำสั่งระดมพลของรัสเซียเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจและคาดเดาได้จากการทำสงครามที่ไม่ได้รับความนิยมและไม่เป็นไปตามแผนการที่รัสเซียวางไว้อย่างมาก นายมิไคโล โปโดเลียก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สหลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียสั่งระดมพลรัสเซียครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันนี้ว่า ผู้นำรัสเซียพยายามที่จะกล่าวโทษชาติตะวันตกว่าเป็นผู้เริ่มทำสงครามที่ไม่มีเหตุจากการยั่วยุและทำให้สภาพเศรษฐกิจรัสเซียย่ำแย่ลง ทั้งยังระบุว่า คำสั่งระดมพลของรัสเซียเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ ซึ่งดูเหมือนกับเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัสเซีย เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าการทำสงครามของรัสเซียไม่เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ จนทำให้ประธานาธิบดีปูตินต้องสั่งระดมพล ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ไม่ได้รับความนิยมอย่างมากและเป็นการจำกัดสิทธิประชาชนอย่างร้ายแรง ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินได้สั่งระดมพลรัสเซียครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันนี้ พร้อมเตือนชาติตะวันตกว่า หากยังคงขู่กรรโชกด้วยนิวเคลียร์ รัสเซียก็จะตอบโต้ด้วยแสนยานุภาพทางอาวุธที่มีอยู่ทั้งหมด ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวถือเป็นการยกระดับสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนอย่างมีนัยสำคัญ และมีขึ้นในขณะที่รัสเซียกำลังเปิดฉากโจมตีปฏิบัติการโต้กลับอย่างรวดเร็วของยูเครนที่ทำให้กองทัพรัสเซียต้องถอนกำลังทหารออกจากดินแดนบางส่วนที่ยึดมาจากยูเครนในที่สุด.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” สั่งระดมพลรัสเซียครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งระดมพลรัสเซียเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเตือนตะวันตกว่าหากยังคงขู่กรรโชกด้วยนิวเคลียร์ รัสเซียจะตอบโต้ด้วยแสนยานุภาพทางอาวุธที่มีอยู่ทั้งหมด

ผู้นำโลกประณามเหตุรัสเซียบุกยูเครนในงานสมัชชายูเอ็น

นิวยอร์ก 21 ก.ย. – ผู้นำจากทั่วโลกที่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ในนครนิวยอร์กของสหรัฐ กล่าวประณามการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย ในขณะที่ผู้นำที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซียในดินแดนที่รัสเซียยึดจากยูเครนประกาศเตรียมทำประชามติเพื่อเข้าร่วมกับรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นายดมิทโตร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่จัดประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในครั้งนี้ที่คาดว่าจะมีวาระสำคัญเกี่ยวกับประเด็นสงครามยูเครน เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า รัสเซียทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ และจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ทั้งยังระบุผ่านทวิตเตอร์ในเวลาต่อมาว่า ยูเครนมีสิทธิในการปลดแอกดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครอง และจะทำเช่นนั้นต่อไปโดยไม่สนใจคำพูดของรัสเซีย นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะล้มเลิกแผนทะเยอทะยานแบบผู้นำจักรวรรดิที่เสี่ยงต่อการทำลายทั้งยูเครนและรัสเซีย ก็ต่อเมื่อเขายอมรับว่าไม่สามารถชนะสงครามครั้งนี้ได้เท่านั้น นี่คือสาเหตุว่าทำไมจึงไม่มีใครยอมรับข้อตกลงสันติภาพของรัสเซีย และเป็นเหตุผลว่าทำไมยูเครนถึงต้องมีสิทธิที่จะป้องกันการโจมตีจากรัสเซีย ส่วนนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น กล่าวในที่ประชุมว่า ความน่าเชื่อถือของยูเอ็นกำลังตกอยู่ในระดับอันตราย เนื่องจากการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี และจำเป็นต้องปฏิรูปหน่วยงานดังกล่าว ในขณะเดียวกัน ผู้นำที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซียในดินแดนที่รัสเซียยึดจากยูเครนได้ประกาศทำประชามติในแคว้นลูฮันสก์ โดเนตสก์ เคอร์ซอน และซาปอริชเชีย ในวันที่ 23-27 กันยายน ซึ่งนับเป็นพื้นที่ร้อยละ 15 จากพื้นที่ทั้งหมดของยูเครน โดยมีขนาดเทียบเท่ากับพื้นที่ของประเทศฮังการี.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ หญิงอังกฤษจะขึ้นเวทีโลกครั้งแรก

นายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ ของอังกฤษ จะเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกด้วยการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติหรือยูเอ็น ที่สหรัฐ และจะรับปากต่อที่ประชุมเรื่องอังกฤษจะเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครนในปีหน้า

ชาวยูเครนค้นหาญาติในหลุมศพเมืองที่รัสเซียถูกขับออกไป

อีซุม 18 ก.ย.- ผู้อาศัยในเมืองอีซุม แคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกของยูเครน ออกค้นหาญาติที่คาดว่าจะเสียชีวิตแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ขุดศพขึ้นมาจากหลุมศพในป่าที่ระบุว่ามีหลายร้อยศพ และคงเดินหน้าขุดอยู่ เป็นพื้นที่ที่กองกำลังรัสเซียถูกขับออกไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ยูเครนพบหลุมศพดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน และยังไม่ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิต ชาวเมืองเผยว่า บางคนเสียชีวิตเพราะรัสเซียใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ขณะที่เจ้าหน้าที่พบศพหนึ่งถูกมัดมือและเห็นรอยเชือกรอบลำคอ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวเมื่อคืนวันเสาร์ว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนพบหลักฐานการทรมานผู้คนที่ถูกฝังในเมืองอีซุม ซึ่งเป็น 1 ใน 20 กว่าเมืองในแคว้นคาร์คิฟที่กองกำลังยูเครนสามารถยึดคืนจากรัสเซียด้วยการใช้ปฏิบัติการโต้กลับสายฟ้าแลบตั้งแต่ต้นเดือน ผู้นำยูเครนอ้างว่า เจ้าหน้าที่พบห้องทรมานมากกว่า 10 ห้องในพื้นที่ที่ได้รับการปลดแอก เป็นวิธีการที่นาซีเคยใช้ และขณะนี้รัสเซียก็นำมาใช้ รัสเซียจะต้องตอบคำถามเรื่องนี้ทั้งในสมรภูมิและศาลยุติธรรม เมืองอีซุมถูกรัสเซียยึดในเดือนเมษายน นายวิตาลี กันเชฟ หัวหน้าหน่วยงานบริหารที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียและหนีไปตั้งแต่ต้นเดือนให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์รอสสิยา-24 ของรัสเซียว่า ชาวยูเครนเป็นฝ่ายจัดฉากความโหดร้ายขึ้นมาเอง เพราะเขาไม่ทราบเรื่องการฝังศพใด ๆ เลย.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียยืนยันไม่แบนนักท่องเที่ยวรัสเซีย

นายริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย ยืนยันว่า ออสเตรเลียจะไม่ห้ามนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้าประเทศ แม้ว่าใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่ทำสงครามกับยูเครนก็ตาม

สหรัฐประกาศให้เงินช่วยยูเครนครั้งใหม่ 600 ล้านดอลลาร์

วอชิงตัน 16 ก.ย. – สหรัฐประกาศมอบเงิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 22,188 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนด้านความมั่นคงให้แก่ยูเครน ซึ่งถือเป็นการมอบเงินช่วยเหลือกองทัพยูเครนครั้งใหม่ในขณะที่ยูเครนกำลังเดินหน้าปฏิบัติการโต้กลับกองทัพรัสเซีย ทำเนียบขาวสหรัฐประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลสหรัฐจะมอบเงิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนด้านความมั่นคงให้แก่ยูเครน ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรจะจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ในคลังสรรพาวุธให้แก่ยูเครนเพิ่มเติมในขณะที่กองทัพยูเครนกำลังประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจากปฏิบัติการโต้กลับกองทัพรัสเซีย โดยที่อาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้เป็นอาวุธที่กองทัพยูเครนสามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เงินช่วยเหลือดังกล่าวจะครอบคลุมไปถึงกระสุนของระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรสูง (HIMARS) ซึ่งยูเครนใช้เป็นอาวุธโจมตีศูนย์กลางโลจิสติกส์หลายแห่งของรัสเซีย การตั้งกองบัญชาการ และการสร้างคลังกระสุน รวมถึงกระสุนปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 105 มม. หลายหมื่นนัด กระสุนปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 155 มม. ราว 1,000 นัด และระบบโดรนต่อต้าน ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐเพิ่งประกาศมอบเงิน 675 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24,961 ล้านบาท) ให้แก่ยูเครนเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งรวมถึงกระสุนของระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรสูงและกระสุนปืนใหญ่อีกหลายหมื่นนัด.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” เผยเข้าใจ “สี จิ้นผิง” มีข้อสงสัยเรื่องยูเครน

ซามาร์กันด์ 15 ก.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุว่า เขาเข้าใจว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มีข้อสงสัยและข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน และกล่าวชื่นชมผู้นำจีนที่วางตัวเป็นกลางในสถานการณ์ขัดแย้งดังกล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประธานาธิบดีสีเผยหลังจากที่ได้พบกับประธานาธิบดีปูตินที่งานประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือเอสซีโอ ในนครซามาร์กันด์ของอุซเบกิสถานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขารู้สึกมีความสุขมากที่ได้พบกับประธานาธิบดีปูตินผู้เป็นเพื่อนเก่าอีกครั้ง ขณะที่ผู้นำรัสเซียบอกกับประธานาธิบดีสีว่า รัสเซียขอชื่นชมผู้นำจีนที่วางตัวเป็นกลางในสถานการณ์วิกฤตยูเครน รัสเซียเข้าใจว่าประธานาธิบดีสีมีข้อสงสัยและข้อกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยรัสเซียจะอธิบายถึงรายละเอียดเกี่ยวกับจุดยืนของรัสเซียให้ผู้นำจีนฟังในระหว่างการประชุมวันนี้ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีสีก็บอกกับประธานาธิบดีปูตินว่า จีนยินดีทำงานร่วมกับรัสเซียเพื่อแสดงบทบาทผู้นำที่มีความรับผิดชอบในฐานะประเทศมหาอำนาจในการปลูกฝังความมั่นคงและพลังบวกให้แก่โลกที่เผชิญกับปัญหาวุ่นวาย ส่วนประธานาธิบดีปูตินระบุว่า รัสเซียยังคงเดินหน้าสนับสนุนนโยบายจีนเดียวอย่างแข็งขัน และขอประณามสหรัฐและชาติพันธมิตรที่กระทำการยุยงปลุกปั่นในช่องแคบไต้หวัน นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย เผยกับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่า การหารือร่วมกันแบบปิดระหว่างประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีสีประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังระบุว่า การประเมินสถานการณ์ระหว่างประเทศของจีนกับรัสเซียให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันโดยสมบูรณ์ชนิดที่ไม่มีความคลาดเคลื่อน และทั้งสองประเทศจะยังคงทำงานร่วมกันต่อไป ซึ่งรวมถึงในงานประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ที่มีกำหนดจัดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า ประธานาธิบดีสีไม่ได้กล่าวถึงยูเครนในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นในที่สาธารณะแต่อย่างใด ขณะที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางของจีน หรือซีซีทีวี รายงานเพียงว่า จีนยินดีสนับสนุนรัสเซียอย่างแข็งขันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักของรัสเซีย.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนพบหลุมศพหมู่กว่า 400 ศพ ในเมืองที่ยึดคืนจากรัสเซีย

เคียฟ 16 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ของยูเครนพบหลุมศพหมู่ที่ฝังร่างผู้เสียชีวิตกว่า 440 ศพ ในเมืองอิซูม ที่ยูเครนเพิ่งยึดคืนมาจากรัสเซียเมื่อไม่กี่วันก่อน คาดว่าเสียชีวิตจากการถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงโจมตีและการโจมตีทางอากาศ นายเซอร์ฮีย์ โบลวินอฟ หัวหน้าตำรวจสืบสวนของแคว้นคาร์คีฟในยูเครน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ของอังกฤษว่า เจ้าหน้าที่ของยูเครนพบหลุมศพหมู่ที่ฝังร่างผู้เสียชีวิตกว่า 440 ศพ ในเมืองอิซูม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลุมศพหมู่ขนาดใหญ่ที่สุดที่พบในหลายพื้นที่ที่ยูเครนยึดคืนมาจากรัสเซีย ทั้งยังระบุว่า ผู้เสียชีวิตบางส่วนตายเพราะถูกกระสุนปืนใหญ่โจมตี และบางส่วนก็ตายจากการถูกโจมตีทางอากาศ ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งเพิ่งลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเมืองอิซูมเมื่อวันพุธ กล่าวผ่านคลิปวิดีโอเมื่อคืนวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียทำให้มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ที่ยึดครอง และต้องได้รับโทษจากการกระทำดังกล่าว อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์สยังไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องในข้อกล่าวหาของยูเครนได้ ส่วนรัสเซียก็ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหานี้ ก่อนหน้านี้ กองทัพรัสเซียหลายพันคนได้ตัดสินใจถอนกำลังทหารออกจากเมืองอิซูมเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังยึดพื้นที่ดังกล่าวมาใช้เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของแคว้นคาร์คีฟ และยังได้ทิ้งอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่น ๆ ไว้ที่เมืองนี้เป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำยูเครนตรวจเยี่ยมเมืองที่ยึดคืนจากรัสเซีย

อีซุม 15 ก.ย.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเผยระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเมืองที่ยูเครนสามารถยึดคืนได้จากรัสเซียว่า เมืองเหล่านี้ถูกรัสเซียทำลายเสียหายย่อยยับ ประธานาธิบดีเซเลนสกีเดินทางไปยังเมืองอีซุมในแคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกของประเทศเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังจากกองกำลังยูเครนสามารถยึดคืนจากรัสเซียได้ 4 วัน เมืองนี้ถูกรัสเซียใช้เป็นที่มั่นหลักและศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาค เขากล่าวในขณะที่เจ้าหน้าที่ยูเครนเชิญธงชาติหน้าอาคารสภาเทศบาลที่เหลือแต่ซากว่า ทางการมีหลักฐานเรื่องชาวเมืองถูกกองกำลังผู้ยึดครองสังหาร ทรมาน และลักพาตัว กองกำลังดังกล่าวมีแต่ทำลาย ยึดครองและเนรเทศผู้คน แล้วปล่อยทิ้งหมู่บ้านที่ถูกทำลายย่อยยับ บางหมู่บ้านไม่เหลือแม้แต่บ้านหลังเดียว ผู้นำยูเครนกล่าวด้วยว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธทำลายอ่างเก็บน้ำคาราชูนอฟ ซึ่งไม่มีมูลค่าทางทหารและเป็นแหล่งน้ำกินน้ำใช้ของของประชาชนจำนวนมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ยูเครนเผยว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธ 8 ลูกถล่มเมืองครีวีรีห์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดทางตอนกลางของยูเครนเมื่อวันพุธ ทำให้สถานีสูบน้ำเสียหายใช้การไม่ได้ เป็นเหตุให้น้ำในแม่น้ำไหลล้นอ่างเก็บน้ำและล้นตลิ่ง และมีบ้านเรือนประชาชนตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำไปไม่กี่เมตรเท่านั้น เมืองนี้มีประชากรก่อนเกิดสงครามมากถึง 650,000 คน ทางการยูเครนเผยแพร่คลิปของประธานาธิบดีเซเลนสกีในเช้าวันนี้ หลังจากทำเนียบประธานาธิบดีแจ้งว่า รถของประธานาธิบดีชนกับรถยนต์ส่วนบุคคลคันหนึ่งในกรุงเคียฟขณะเดินทางกลับจากแคว้นคาร์คิฟ แพทย์ได้ตรวจร่างกายประธานาธิบดีแล้ว ไม่พบการบาดเจ็บร้ายแรงแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนเผยยึดพื้นที่คืนจากรัสเซียเพิ่มเป็น 8,000 ตร.กม.

ยูเครนยังคงใช้ปฏิบัติการโต้กลับรัสเซียอย่างรวดเร็วในวันพุธ จนทำให้ยึดพื้นที่คืนจากรัสเซียได้เพิ่มขึ้นเป็น 8,000 ตารางกิโลเมตร นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวของยูเครนรุดหน้าไปมากอย่างมีนัยสำคัญ แต่คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะได้คืนพื้นที่ทั้งหมดที่ถูกรัสเซียยึดไป

เผย “ปูติน-สี” จะคุยเรื่องยูเครน-ไต้หวันที่อุซเบกิสถาน

มอสโก 14 ก.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะหารือร่วมกันในประเด็นเรื่องยูเครนกับไต้หวันที่งานประชุมในอุซเบกิสถานวันพฤหัสบดี ซึ่งรัฐบาลรัสเซียระบุว่าเป็นวาระพิเศษทางภูมิรัฐศาสตร์การเมืองโลกอย่างมีนัยสำคัญ นายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซียเผยว่า ประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีสีจะหารือร่วมกันเกี่ยวกับประเด็นทวีภาคีและประเด็นสำคัญในระดับภูมิภาคและนานาชาติ ผู้นำรัสเซียกับจีนจะให้การประเมินเชิงบวกต่อระดับความไว้วางใจที่สูงเป็นประวัติการณ์ภายใต้ความสัมพันธ์รูปแบบพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระดับทวิภาคี ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลรัสเซียให้ความสำคัญกับจุดยืนที่เป็นกลางของจีนต่อภาวะวิกฤตในยูเครน เนื่องจากจีนเข้าใจถึงแรงกดดันที่ทำให้รัสเซียต้องใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนเป็นอย่างดี ซึ่งรัสเซียจะหารือในประเด็นนี้กับจีนอย่างละเอียดที่งานประชุมในอุซเบกิสถานวันพฤหัสบดี แต่จะไม่มีการลงนามในข้อตกลงด้านพลังงานครั้งใหม่กับจีนในอุซเบกิสถาน ทั้งนี้ การประชุมระหว่างประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีสีจะจัดขึ้นนอกรอบเวทีประชุมสุดยอดผู้นำองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่นครซามาร์กันต์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอุซเบกิสถาน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การประชุมนี้เริ่มขึ้นในปี 2544 เพื่อรับมือแนวคิดสุดโต่งด้านศาสนาอิสลามและความกังวลด้านความมั่นคงอื่น ๆ ในภูมิภาค ประกอบด้วยจีน รัสเซีย และ 4 สาธารณรัฐในเอเชียกลาง คือ คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน คีร์กิซสถาน และทาจิกิสถาน โดยมีอินเดียและปากีสถานเข้าร่วมในปี 2560 นอกจากนี้ การเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวของประธานาธิบดีสียังถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนเดินทางออกนอกประเทศในรอบกว่า 2 ปีนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

1 63 64 65 66 67 157
...