มะนิลา 11 ต.ค.- โฆษกประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ระบุว่า การที่นักข่าวหญิงผู้มักวิจารณ์รัฐบาลได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เสรีภาพสื่อมวลชนมีอยู่จริงในฟิลิปปินส์ โฆษกประธานาธิบดีดูเตอร์เตกล่าวในการแถลงข่าวตามปกติวันนี้ว่า ถือเป็นชัยชนะของสตรีฟิลิปปินส์ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เสรีภาพสื่อมวลชนในฟิลิปปินส์มีอยู่จริง ยืนยันได้จากการที่นางมาเรีย เรสซา ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ข่าวแร็ปเปลอร์ (Rappler) ได้รับการประกาศชื่อเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมให้คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2564 ร่วมกับนายดมิทรี มูราตอฟ นักข่าวรัสเซียผู้ร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์อิสระชื่อ โนวายา กาเซตา (Novaya Gazeta) เพราะทั้งคู่พยายามปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ยังได้ปฏิเสธเสียงครหาเรื่องรัฐบาลสร้างบรรยากาศความไม่แน่ใจและหวาดกลัวให้แก่องค์กรสื่อว่า ผู้ที่อ้างเช่นนั้นไม่ควรเป็นผู้สื่อข่าว และการที่นางเรสซาได้รับรางวัลโนเบลก็ไม่ใช่การตบหน้ารัฐบาล เพราะไม่เคยมีใครในฟิลิปปินส์ถูกเซ็นเซอร์ นางเรสซาเองต้องพิสูจน์ตัวเองในศาล รัฐบาลจะให้ศาลเป็นผู้ตัดสินชะตาของเธอ นางเรสซาวัย 58 ปี ซึ่งมีสัญชาติอเมริกันด้วย ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีเมื่อวันเสาร์ว่า ยังต้องสู้คดีในศาลอีก 7 คดี หลังจากศาลยกฟ้องไปแล้ว 2 คดีเมื่อต้นปี เธอหวังว่า รางวัลโนเบลสันติภาพจะช่วยปกป้องเธอและผู้สื่อข่าวคนอื่น ๆ ในฟิลิปปินส์ไม่ให้ถูกทำร้ายร่างกายและข่มขู่ทางออนไลน์ นางเรสซาและเว็บไซต์แรปเปลอร์ถูกตั้งข้อหาอาญาและสอบสวนอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ประธานาธิบดีดูเตอร์เตรับตำแหน่งในปี 2559 เพราะมักวิจารณ์เรื่องการทำสงครามปราบปรามยาเสพติด ผู้นำฟิลิปปินส์ตราหน้าแรปเปลอร์ว่า เป็นองค์กรข่าวเท็จ.-สำนักข่าวไทย