
“ทรัมป์” ประกาศจะลดภาษีและเตือนอันตรายจากผู้อพยพ
นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ใช้งานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบปีที่ 78 ของเขาเมื่อวานนี้ ให้สัญญาว่า หากเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เขาจะดำเนินการลดภาษี
นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ใช้งานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบปีที่ 78 ของเขาเมื่อวานนี้ ให้สัญญาว่า หากเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เขาจะดำเนินการลดภาษี
ปักกิ่ง 13 มิ.ย.- นักวิเคราะห์ในจีนมองว่า การที่สหภาพยุโรปหรืออียู (EU) จะเก็บภาษียานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี (EV) นำเข้าจากจีนในอัตราสูง อาจทำให้จีนตอบโต้ด้วยการมุ่งไปที่สินค้าเกษตรของอียู โจ มาเซอร์ นักวิเคราะห์ของทริเวียมไชนา (Trivium China) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในจีนให้ความเห็นกับรอยเตอร์ว่า จีนอาจตอบโต้อียูในภาคการบินและภาคการเกษตร โดยมีแนวโน้มว่าจะเป็นภาคการเกษตรมากกว่า เนื่องจากเป็นช่องทางที่จีนจะใช้ลงโทษประเทศที่สมาชิกแกนนำของอียูอย่างฝรั่งเศสและสเปน ขณะนี้จีนกำลังสอบสวนบรั่นดีนำเข้าจากฝรั่งเศส และมีสัญญาณว่าจีนอาจจะเปิดการสอบสวนเนื้อหมูนำเข้าจากอียูที่มีสเปนเป็นผู้ส่งออกหลัก อย่างไรก็ดี จีนเองกำลังหาทางฟื้นฟูเศรษฐกิจ จึงไม่น่าจะต้องการทำสงครามการค้าในวงกว้างกับอียูหรือประเทศใด มาตรการตอบโต้เท่าที่จีนเคยแสดงออกมาจึงมักเปิดทางให้คลี่คลายความตึงเครียด หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ส่วนเรื่องที่คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของอียูจะเพิ่มภาษีสรรพสามิตกับอีวีนำเข้าจากจีนสูงสุดร้อยละ 38.1 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม นักวิเคราะห์รายนี้ไม่คิดว่า จะเป็นการปิดฉากอีวีจีนในยุโรป เพราะหลายปีที่ผ่านมาบริษัทจีนใช้เรื่องราคาจูงใจผู้ซื้อ หลังจากนี้จึงอาจต้องลดกำไรลงหรือผลักภาระไปให้ผู้ซื้อ นอกจากนี้ยังมีบริษัทจีนหลายแห่งสนใจย้ายฐานการผลิตบางอย่างไปยุโรปด้วย.-814.-สำนักข่าวไทย
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า จีนคาดหวังว่า สหภาพยุโรป หรือ อียู จะพิจารณาใหม่อีกครั้งเกี่ยวกับอัตราภาษีที่จะเก็บจากรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน และอยากให้อียูหยุดการเดินหน้าไปยังทิศทางที่ผิดในการปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์จากการแข่งขันกันในเชิงธุรกิจ
สหภาพยุโรปจะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีน จาก 10% เป็น 25% ตามมาตรการของสหภาพยุโรป เพื่อรับมือกับรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่มีราคาต่ำ
วอชิงตัน 14 พ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประกาศขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนที่มีมูลค่ารวมถึง 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 661,000 ล้านบาท) ทำเนียบขาวแถลงวันนี้ว่า มาตรการขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนครอบคลุมตั้งแต่ยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี ชิปคอมพิวเตอร์ เวชภัณฑ์ เหล็กและอะลูมิเนียม แบตเตอรี่ แร่ธาตุสำคัญ เซลล์ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ และเครน ประธานาธิบดีใช้อำนาจตามมาตรา 301 ของกฎหมายการค้าปี 2517 ขึ้นภาษีอีวีจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 100, แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับอีวีและชิ้นส่วนแบตเตอรี่อื่น ๆ จากร้อยละ 7.5 เป็นร้อยละ 25, โซลาร์เซลล์จากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 50, แร่ธาตุสำคัญบางอย่างจากปลอดภาษีเป็นร้อยละ 25, เครนหน้าท่าจากปลอดภาษีเป็นร้อยละ 25, กระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยาจากปลอดภาษีเป็นร้อยละ 50, ชุดป้องกันส่วนบุคคลหรือพีพีอี ทางการแพทย์จากปลอดภาษีเป็นร้อยละ 25 จากนั้นจะขึ้นภาษีอีกในปี 2568 และ 2569 กับเซมิคอนดักเตอร์โดยขึ้น 2 เท่าเป็นร้อยละ 50 […]
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และจิล ไบเดน ภรรยา เปิดเผยรายละเอียดเอกสารการคืนภาษีของปี 2023 เมื่อวานนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เขามีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2022 ร้อยละ 7 เป็น 619,976 ดอลลาร์ และทั้งสองจ่ายภาษีร้อยละ 23.7 ของรายได้สำหรับปีที่แล้ว
คลังขอประเมินรายได้ปี 67 ก่อนหารือ ครม. ใช้ภาษีดูแลราคาน้ำมัน กำชับหน่วยงานจัดเก็บรีดภาษีตามเป้าหมาย
นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว ออกรัฐบัญญัติที่กำหนดการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 เพื่อสนับสนุนงบประมาณรายรับ และเกื้อหนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ฮ่องกง 19 มี.ค.- ชาวจีนแผ่นดินใหญ่กำลังแห่ซื้อบ้านในฮ่องกง โดยครองสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของจำนวนบ้านพักใหม่ที่มีการเปิดจำหน่าย หลังจากฮ่องกงยกเลิกการเก็บอากรแสตมป์การซื้อบ้านใหม่ที่เคยเก็บกับผู้ซื้อชาวต่างชาติ นายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ประเมินว่า ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ซื้อบ้านใหม่ในฮ่องกงราวร้อยละ 20-30 บางรายซื้อห้องชุดมากถึง 8 ห้องในคราวเดียว หลังจากเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ฮ่องกงได้ยกเลิกการเก็บอากรแสตมป์ทั้งหมด รวมถึงอากรสแตมป์การซื้อบ้านพักหลังที่ 2 และอาการแสตมป์การจำหน่ายห้องชุดที่ซื้อมาไม่เกิน 2 ปี และได้ประกาศให้ชาวต่างชาติเสียภาษีในอัตราร้อยละ 4.25 เท่ากับชาวฮ่องกง จากเดิมที่เสียร้อยละ 15 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 และเสียมากถึงร้อยละ 30 ในช่วงก่อนหน้านั้น กระแสชาวจีนแผ่นดินใหญ่แห่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดบ้านที่แพงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เกิดขึ้นในช่วงที่ชาวจีนสูญเสียความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนที่เผชิญวิกฤตหนี้สินและแนวโน้มเศรษฐกิจไม่แน่นอน ขณะที่ราคาบ้านพักในฮ่องกงขณะนี้ร่วงลงมากกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงที่เคยสูงสุดในปี 2664 อันเป็นผลจากดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปรับตัวสูงขึ้น ผู้มีความสามารถหลั่งไหลออกจากฮ่องกง และแนวโน้มตลาดในฮ่องกงซบเซา.-814.-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 19 ก.พ.- ญี่ปุ่นให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรียูเครนที่กรุงโตเกียวในวันนี้เพื่อประชุมหารือเรื่องการบูรณะฟื้นฟูยูเครน นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นกล่าวสุนทรพจน์เปิดการหารือว่า ญี่ปุ่นได้อยู่เคียงข้างยูเครนและจะอยู่เคียงข้างต่อไป พร้อมกับประกาศเรื่องสนธิสัญญาภาษีทวิภาคีฉบับใหม่ และเรื่องเริ่มการเจรจาสนธิสัญญาการลงทุน แต่ไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียด ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดนีส ชมีฮาลของยูเครนกล่าวผ่านล่าม ยกย่องความสัมพันธ์อีกขั้นหนึ่งของทั้ง 2 ประเทศ ยูเครนจะไม่มีวันลืมการสนับสนุนของญี่ปุ่น เขาหวังว่า จะได้เห็นบริษัทผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นสร้างโรงงานการผลิตที่ยูเครน แถลงการณ์ร่วมหลังการหารือระบุว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและยูเครนตอกย้ำความสำคัญของการทำให้นานาชาติสนับสนุนยูเครนอย่างเหนียวแน่น ด้วยการชูเรื่องที่สามารถทำได้ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมบูรณะฟื้นฟูยูเครนที่เยอรมนีในเดือนมิถุนายนนี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะรับปากว่า จะสนับสนุนบริษัทร่วมทุนในยูเครน จะผ่อนคลายเรื่องวีซ่า และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทร (JETRO) จะเปิดสำนักงานในกรุงเคียฟของยูเครน ขณะที่บริษัทญี่ปุ่นประมาณ 50 แห่งได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัทยูเครนในภาคการเกษตร พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐาน แต่ไม่เปิดเผยมูลค่าของข้อตกลง.-814.-สำนักข่าวไทย
สิงคโปร์ 19 ก.พ.- สิงคโปร์จะกำหนดให้ทุกเที่ยวบินที่เดินทางออกจากสิงคโปร์ต้องใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนหรือเอสเอเอฟ (SAF) ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป เพื่อร่วมกับอุตสาหกรรมการบินโลกในการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด นายชี ฮง ทัต รัฐมนตรีคมนาคมสิงคโปร์ประกาศเรื่องนี้ต่อที่ประชุมสุดยอดการบินชางงีในวันนี้ ก่อนที่งานจัดแสดงอากาศยานสิงคโปร์แอร์โชว์จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ เขาเผยว่า สิงคโปร์ตั้งเป้าจะใช้เอสเอเอฟให้ได้ร้อยละ 1 ของเป้าหมายตั้งแต่ปี 2569 จากนั้นจะเพิ่มเป็นร้อยละ 3-5 ของเป้าหมายภายในปี 2573 ขึ้นอยู่กับการพัฒนาของโลก การมีเอสเอเอฟและการนำเอสเอเอฟมาใช้ในวงกว้างมากขึ้น ด้านสำนักงานการบินพลเรือนสิงคโปร์แถลงว่า การใช้เอสเอเอฟคือหนทางสำคัญที่จะลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมการบิน และน่าจะมีส่วนถึงร้อยละ 65 ของการลดการปล่อยคาร์บอนที่จำเป็นต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2593 สำนักงานฯ จะจัดเก็บภาษีเอสเอเอฟที่กำหนดเป็นหน่วยตายตัวเพื่อให้สายการบินและผู้เดินทางทราบราคาที่แน่นอน โดยคำนวณจากเป้าหมายเอสเอเอฟและราคาที่คาดหมายไว้ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ดี ภาษีเอสเอเอฟจะผันแปรไปตามระยะทางในการเดินทางและชั้นที่นั่งของการโดยสารเครื่องบิน เอสเอเอฟสามารถผลิตได้จากกระบวนการสังเคราะห์หรือจากวัสดุชีวภาพ เช่น น้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว ไม้สับหรือไม้ชิพ ปัจจุบันตลาดเชื้อเพลิงเครื่องบินมีการใช้เอสเอเอฟเพียงร้อยละ 0.2 เท่านั้น อุตสาหกรรมการบินตั้งเป้าจะเพิ่มเป็นร้อยละ 65 ภายในปี 2593 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ซึ่งจะต้องมีการลงทุนประมาณ 1.45-3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 52.13-115 […]
ซานฟรานซิสโก 25 มค.- อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของเทสลา บริษัทยานยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐระบุว่า บริษัทยานยนต์จีนจะกำจัดคู่แข่งทั่วโลก หากไม่มีกำแพงทางการค้า มัสก์กล่าวระหว่างประชุมกับนักวิเคราะห์เมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐว่า บริษัทยานยนต์จีนมีความสามารถในการแข่งขันสูงที่สุด และจะประสบความสำเร็จนอกประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ขึ้นอยู่กับประเภทของภาษีหรืออุปสรรคทางการค้าที่เผชิญ แต่หากไม่มีกำแพงทางการค้า บริษัทยานยนต์จีนจะกำจัดบริษัทยานยนต์อื่นทั่วโลก เพราะมีความยอดเยี่ยมมาก ส่วนรถเทสลาที่มีอยู่ในขณะนี้กำลังจะถึงขีดจำกัดในการลดราคา มัสก์ได้ทำสงครามราคาในปี 2566 ลดราคาหวังดึงดูดใจผู้ซื้อที่เผชิญกับภาระดอกเบี้ยสูง เป็นเหตุให้เทสลาได้กำไรลดลงและทำให้นักลงทุนกังวลใจ ซีอีโอของเทสลาเผยว่า ไม่มีโอกาสที่ชัดเจนว่า เทสลาจะเป็นหุ้นส่วนกับคู่แข่งจีน แต่พร้อมจะให้ยานยนต์ของจีนใช้เครือข่ายอัดประจุไฟของเทสลา และให้ใบอนุญาตเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น ยานยนต์ขับเคลื่อนเอง พร้อมกับยืนยันว่า เทสลาจะเริ่มการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี (EV) รุ่นใหม่ที่โรงงานในรัฐเท็กซัสของสหรัฐในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 หลังจากรอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ว่า เทสลาจะเริ่มการผลิตรถยนต์อเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ที่มีราคาถูกลงและจับตลาดมวลชน ใช้ชื่อรหัสว่าเรดวูด (Redwood) ราวกลางปี 2568 เพื่อแข่งกับรถคู่แข่งที่มีราคาไม่แพง.-814.-สำนักข่าวไทย