ก.คลัง 1 เม.ย.-คลังขอประเมินรายได้ปี 67 ก่อนหารือ ครม. ใช้ภาษีดูแลราคาน้ำมัน กำชับหน่วยงานจัดเก็บรีดภาษีตามเป้าหมาย
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลัง สักการะสิ่งศักดิ์ประจำกระทรวงการคลัง ระหว่างร่วมงาน คล้ายวันสถาปณากระทรวงการคลัง ครอบรอบ 149 ปี ว่า กรณี กบน. กระทรวงพลังงาน เห็นชอบปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯกลุ่มดีเซล เดือน เม.ย.67 ปล่อยให้ราคาดีเซลเคลื่อนตามตลาดโลก ไม่ยึดกรอบดูแลราคาขายปลีก 30 บาท/ลิตร เรื่องนี้ต้องหารือในที่ประชุม ครม. ในการลดภาษีน้ำมันเพื่อตรึงราคาต่อได้หรือไม่ เพราะต้องประเมินรายได้ในงบปี 67 รวมถึงการปรับขึ้นราคาแบบขั้นบันได 1-2 บาท/ลิตร ของกระทรวงพลังงาน
“การช่วยเหลือลดภาระต้นทุนน้ำมัน กระทรวงการคลังต้องขอประเมินรายได้ 2.787 ล้านล้านบาท จากกรอบรายจ่าย 3.48 ล้านล้านบาท ของงบประมาณปี 67 ต้องดูว่ายังมีช่องว่างให้ใช้นโยบายภาษีเข้ามาช่วยเหลือได้หรือไม่ เพราะคลังจำเป็นต้องจัดเก็บรายได้ ให้ได้ตามเป้าหมายงบประมาณ จะได้ไม่กระทบต่อเงินคงคลัง ยอมรับว่าในช่วงประมาณการณ์รายได้ ในช่วงจัดทำงบประมาณกับสถานการณ์เศรษฐกิจจริงขณะนี้ มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก จึงกำชับให้กรมจัดเก็บรายได้ เก็บภาษีให้ได้ตามเป้าหมาย รองรับการใช้งบในปี 67”
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงรอแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม. พิจารณาออกแพ็กเกจ ลดภาระให้กับหลายส่วน ผ่านการลดดอกเบี้ยเงินกู้ของแบงก์รัฐ สำหรับเงินกู้ใหม่ เตรียมให้ บสย. ค้ำประกันลูกหนี้ผ่าน PGS 11 ทั้งการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ประชาชน รายย่อย ผ่านบัตรสินเชื่อ เงินกู้ฉุกเฉินผ่าน ธ.ออมสิน ช่วยลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย หลังจากลดค่าธรรมเนียมการโอน จดจำนอง เนื่องจากภาคอสังหาฯ มีสัดส่วนร้อยละ 10 ของจีดีพี นับว่ามีผลต่อเศรษฐกิจเยอะมาก โดยเฉพาะการนำค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษีมากว่า 1 แสนบาทต่อปี มาตรการเหล่านี้ สศค. กำลังศึกษาเพื่อเสนอ ครม.พิจารณา.-515.-สำนักข่าวไทย