ทะเลฝั่งตะวันออกได้รับผลกระทบจากพายุปาบึกแล้ว
ฝั่งทะเลตะวันออก ที่จังหวัดระยอง คลื่นทะเลสูงเกือบ 3 เมตร โหมพัดกระหน่ำซัดเข้าใส่ตลอดแนวชายฝั่ง ตลอดระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร ระดับน้ำทะเลสูงกว่าปกติ
ฝั่งทะเลตะวันออก ที่จังหวัดระยอง คลื่นทะเลสูงเกือบ 3 เมตร โหมพัดกระหน่ำซัดเข้าใส่ตลอดแนวชายฝั่ง ตลอดระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร ระดับน้ำทะเลสูงกว่าปกติ
อิทธิพลพายุ “ปาบึก” ส่งผลกระทบมาถึงหาดปึกเตียน อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรีแล้ว โดยความแรงของคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร พัดกระหน่ำรูปปั้นนางพันธุรัต สัญลักษณ์ของหาดปึกเตียน
เขตเทศบาลเมืองปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราช น้ำทะเลยังคงหนุนสูงส่งผลให้การระบายน้ำในพื้นที่เขตเทศบาลขณะนี้ยังเป็นไปด้วยความล่าช้า
ผลพวงจากพายุ “ปาบึก” ในพื้นที่จังหวัดชุมพร ยังคงมีคลื่นลมแรง และพัดบ้านพักตากอากาศหลายหลังที่ตั้งอยู่ริมทะเล ในพื้นที่บ้านจมูกโพรง หมู่ที่ 8 ตำบางมะพร้าว อำเภอหลังสวนพังเสียหาย
หลังจังหวัดสุราษฎร์ธานีประกาศให้เรือโดยสาร เรือเฟอร์รี่ เริ่มเปิดเดินเรืออีกครั้ง เรือเที่ยวแรกที่ออกจากเกาะสมุย เมื่อ 12.00 น. ที่ผ่านมา ถึงฝั่งท่าเรือ อ.สุราษฎร์ธานีแล้ว
ผลกระทบจากพายุปาบึก ที่พัดถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ มีฝนตกหนักในพื้นที่นครศรีธรรมราชเมื่อวาน และทำให้ในขณะนี้มีน้ำป่าไหลเข้าท่วมในย่านเศรษฐกิจของนครศรีธรรมราชแล้ว
4 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานสถานการณ์จากศูนย์บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย มาอย่างต่อเนื่อง ทราบว่า พายุโซนร้อน “ปาบึก” ที่มีความเร็วลมรอบศูนย์กลาง 65 กิโลเมตร/ชั่วโมง เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 13 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้เข้าสู่ฝั่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช คาดว่า จะเคลื่อนที่เข้าปกคลุมจังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อไปทำให้ให้ภาคใต้มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มได้ #พายุปาบึก #ปาบึก #PABUK นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร และจิตอาสา เป็นอย่างยิ่ง โดยขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ขอให้มั่นใจและร่วมมือกันปฏิบัติงานตามแผนที่ได้วางเอาไว้ แต่ต้องสามารถปรับเปลี่ยน หรือประยุกต์ใช้ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุดและทั่วถึง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะติดตามสถานการณ์และกำกับดูแล การปฏิบัติงานของศูนย์บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้ทุกจังหวัด และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ตามที่ได้มอบอำนาจให้ดำเนินการไปแล้ว เพื่อให้เกิดเอกภาพ ความประสานสอดคล้อง และมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด เพื่อนำพาพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยทุกครัวเรือนให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก กลับสู่สภาวะปกติให้ได้โดยเร็วที่สุด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รายงานสถานการณ์และการช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่พายุโซนร้อน ปาบึก ให้องคมนตรี รับฟัง พร้อมเรียกประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ กำชับทุกหน่วยช่วยเต็มที่ คาดหลังวันที่ 6 ม.ค.สถานการณ์คลี่คลายทั้งหมด แต่เนื่องจากปริมาณน้ำฝนมาก ยังคงต้องเฝ้าระวังต่อไปอีก 2 วัน คือวันที่ 6 – 7 ม.ค.จึงยังไม่ให้ประชาชนกลับเข้าพื้นที่
กรุงเทพฯ 4 ม.ค.- พล.ร.9 ส่งกำลังพล 5 กองร้อย พร้อมยุทโธกรณ์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย “พายุโซนร้อนปาบึก” พ.อ.กานต์นาท นิกรยานนท์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ในฐานะรองผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) เป็นประธานตรวจความพร้อมกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย ที่จะเดินทางไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาปึก จำนวน 5 กองร้อย ประกอบด้วย กำลังพล 5 กองร้อย รถยนต์บรรทุก FTS จำนวน 10 คัน รถครัวสนาม สำหรับประกอบอาหารสดใหม่บริการประชาชน จำนวน 9 คัน เรือยาง จำนวน 6 ลำ และ เรือท้องแบน จำนวน 23 ลำ พ.อ.กานต์นาท ได้เน้นย้ำกำลังพลให้ปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย ต้องมีเครื่องชูชีพอยู่ประจำกายระหว่างการปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ รวมถึง ให้มีการตรวจเช็คอุปกรณ์การเข้าช่วยเหลือประชาชนให้มีความพร้อมมากที่สุด “พล.ร.9 ได้รับมอบภารกิจจากผู้บัญชาการทหารบก และ แม่ทัพภาคที่ […]
อสมท ส่งทีมข่าวเกาะติดสถานการณ์พายุโซนร้อน “ปาบึก” พร้อมเป็นกระบอกเสียงเกาะติดรายงานสถานการณ์ทุกชั่วโมงผ่านสื่อภูมิภาคและส่วนกลาง ให้ประชาชนรับมือภัยพิบัติอย่างทันท่วงที
นายอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมซักซ้อมแผนการอพยพและให้การช่วยเหลือชาวบ้านทุ่งประดู่
อิทธิพลของพายุโซนร้อนปาบึก ยังส่งผลให้อ่าวไทยคลื่นสูง 2-3 เมตร และฝนตกต่อเนื่อง จังหวัดสงขลาเตรียมพร้อมอพยพประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งทั้ง 6 อำเภอตลอด 24 ชั่วโมง