สสน.คาด “โนรู” จะเป็นพายุโซนร้อนตอนเข้าไทย 28-29 ก.ย.นี้

ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ คาดไต้ฝุ่นโนรู เมื่อเคลื่อนเข้าไทยจะยังเป็นพายุโซนร้อนก่อนอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำ จากนั้นจะสลายตัวในประเทศไทย ย้ำต้องเฝ้าระวังทั้งอุทกภัยและวาตภัย

เปอร์โตริโกเสี่ยงเผชิญเฮอริเคน

ซานฮวน 18 ก.ย.- ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐแจ้งเตือนภัยเฮอริเคนกับเปอร์โตริโก ซึ่งเป็นเครือรัฐของสหรัฐในทะเลแคริบเบียน เนื่องจากพายุโซนร้อนฟีโอนา (Fiona) ทวีกำลังแรงขึ้นในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นในขณะมุ่งหน้ามา และเตือนว่าอาจเกิดน้ำท่วมดินถล่มที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐแจ้งว่า พายุเคลื่อนตัวอยู่ห่างจากเปอร์โตริโกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 235 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังขึ้นเป็นเฮอริเคนในวันอาทิตย์ในช่วงที่เคลื่อนตัวมาใกล้ โดยจะถือเป็นเฮอริเคนระดับ 1 หากมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางตั้งแต่ 119 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุลูกนี้อาจทำให้เปอร์โตริโกมีฝนตกสูงสุด 20 นิ้ว และลมแรง เสี่ยงเกิดน้ำท่วม ดินถล่ม และไฟฟ้าดับ อิทธิพลของพายุจะส่งผลต่อเปอร์โตริโกตั้งแต่วันอาทิตย์ไปจนถึงกลางคืน นอกจากนี้ยังอาจทำให้มีฝนตกหนักในสาธารณรัฐโดมินิกันที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของเปอร์โตริโก และหมู่เกาะเติร์กส์และเคคอสที่อยู่ทางเหนือของโดมินิกัน ผู้ว่าการเปอร์โตริโกได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันเสาร์ ขอให้ประชาชนไปหลบภัยตามศูนย์พักพิงที่เปิดไว้ 80 แห่ง สั่งปิดชายหาดและกาสิโน ขณะที่บริษัทดูแลกระแสไฟฟ้าเตือนว่า พายุจะทำให้ไฟฟ้าดับ แต่ได้เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว ขอยืนยันว่าจะไม่เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างเหมือนที่เกิดขึ้นหลังจากเฮอริเคนมาเรียพัดถล่มในเดือนกันยายน 2560 ครั้งนั้นเฮอริเคนซึ่งมีความรุนแรงระดับ 5 ทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้า 1 ล้าน 5 แสนรายไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากไฟฟ้าดับถึงร้อยละ 80 เป็นไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

คาดพายุโซนร้อนแดเนียล จะเป็นเฮอริเคนลูกแรกของปีนี้

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐแจ้งวันนี้ว่า พายุโซนร้อนแดเนียล (Danielle) มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นเฮอริเคนในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ และจะเป็นเฮอริเคนลูกแรกในฤดูเฮอริเคนของมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้

พายุหมาอ๊อนออกจากฟิลิปปินส์ มุ่งหน้าไปทางใต้ของจีน

พายุโซนร้อนหมาอ๊อน (Ma-On) เคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์และอ่อนกำลังลงแล้ว หลังจากพัดผ่านพื้นที่ทางเหนือ ทำให้มีคนบาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน ไร้ที่อยู่อาศัยจำนวนมาก

ฟิลิปปินส์ปิดโรงเรียน-หน่วยงานรัฐ หนีพายุทางเหนือ

มะนิลา 23 ส.ค.- ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์สั่งปิดโรงเรียนและหน่วยงานรัฐบาลในเขตมหานครมะนิลาและจังหวัดรอบนอก หลังจากพายุโซนร้อนกระหน่ำพื้นที่ทางเหนือของประเทศในวันนี้ ทำให้ฝนตกหนักและลมกระโชกแรง มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน พายุโซนร้อนหมาอ๊อน (Ma-on) ขึ้นฝั่งเมืองมาโคนาคอน จังหวัดอีซาเบลาในเช้าวันนี้ มีความเร็วลม 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมกระโชกสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวไปทางเหนือมุ่งหน้าไปยังจังหวัดทางเหนือก่อนออกจากฟิลิปปินส์ในคืนนี้ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ ตอนเหนือสุดของเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักของฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ได้สั่งให้โรงเรียนรัฐบาลทุกแห่งระงับการเรียนการสอน หน่วยงานรัฐบาลในเขตมหานครมะนิลาที่มีประชากรหนาแน่นและ 6 จังหวัดรอบนครหลวงหยุดทำงานเพื่อความปลอดภัย คำสั่งปิดโรงเรียนมีขึ้นหลังจากฟิลิปปินส์เพิ่งเปิดภาคเรียนเมื่อวันจันทร์ นักเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาหลานล้านคนได้กลับเข้าชั้นเรียนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระบาดเมื่อ 2 ปีก่อน เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพราะต้นไม้ล้ม 2 คนในจังหวัดคากายัน และมีประชาชนมากกว่า 500 คนในจังหวัดคากายันและจังหวัดใกล้เคียงต้องอพยพออกจากหมู่บ้านที่เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และคลื่นสูง ฟิลิปปินส์มักเผชิญพายุโซนร้อนและพายุไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละ 20 ลูก นอกจากนี้ยังตั้งอยู่บนแนววงแหวนแห่งไฟของมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้เสี่ยงเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก.-สำนักข่าวไทย

กำชับดูแลประชาชน จากพายุโซนร้อน “มู่หลาน”

นายกฯ กำชับ กรมชลฯ-สทนช.-ฝ่ายปกครอง บูรณาการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบพายุโซนร้อน “มู่หลาน”  พร้อมป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจไม่ให้เกิดน้ำท่วมขัง

พายุโซนร้อนพัดถล่มเบอร์มิวดา

พายุโซนร้อนพัดถล่มเบอร์มิวดา ส่งผลให้ฝนตกหนัก ทะเลมีคลื่นสูงราว 6 เมตร ประชาชนกว่า 800 ครัวเรือน ไม่มีไฟฟ้าใช้ โรงเรียน หน่วยงานราชการ และธุรกิจต่างๆ ต้องปิดทำการ

พายุ “คมปาซุ” ถล่มฟิลิปปินส์ เสียชีวิตเพิ่มเป็น 19 ราย

มะนิลา 14 ต.ค. – ฟิลิปปินส์ระบุวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 19 รายจากเหตุพายุโซนร้อน “คมปาซุ” กำลังแรง ที่พัดผ่านฟิลิปปินส์ในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้เกิดดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลันทั่วประเทศ โดยคาดว่าปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากมีความเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โฆษกสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์เผยว่า พายุคมปาซุทำให้ฟิลิปปินส์มีปริมาณน้ำฝนที่ตกในช่วง 2 วันที่ผ่านสูงกว่าปริมาณมาณน้ำฝนรายเดือนในขณะที่พายุดังกล่าวกำลังเคลื่อนตัวผ่านฟิลิปปินส์ในสัปดาห์นี้ และยังทำให้มีฝนตกหนักกว่าในช่วงที่ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นเกดสะหนา หรือที่ชาวฟิลิปปินส์รู้จักกันในชื่อ พายุโซนร้อนโอนโดย ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปี 2552 และทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย ทั้งนี้ หลายจังหวัดบนเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะที่มีประชากรมากที่สุดของฟิลิปปินส์ เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวมากที่สุด มีพื้นที่เกษตรจำนวนมากและบ้านเรือนหลายร้อยหลังได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านเปโซ (663 ล้านบาท) โฆษกคนนี้ระบุด้วยว่า พายุคมปาซุเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกี่ยวกับอันตรายทางธรรมชาติที่เพิ่มมากขึ้น และทำให้ระบบจัดการภัยพิบัติของฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกครั้ง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเพิ่มความเสี่ยงและความรุนแรงของน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนัก.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ตอ.ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40%

อิทธิพล “ไลออนร็อก” ทำคลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูง

อิทธิพลพายุโซนร้อน “ไลออนร็อก” ส่งผลให้คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมท่าเรือข้ามฟากเกาะคอเขา เรือข้ามฟากต้องหยุดให้บริการชั่วคราว

ภาคเหนือ อีสานตอนบน ตะวันออกและภาคใต้ ฝนหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ อีสานตอนบน ตะวันออกและภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนพายุโซนร้อน “ไลออนร็อก” จ่อขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน วันที่ 10-11 ต.ค.64

1 2 3 4 5 12
...