อนามัยโลกเผยวัคซีนโควิดกันติดเชื้อได้แค่ 40%

เจนีวา 25 พ.ย. – องค์การอนามัยโลกระบุเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ราวร้อยละ 40 พร้อมทั้งเตือนให้ผู้คนทั่วโลกเลิกเข้าใจผิดว่าการฉีดวัคซีนโควิดทำให้ใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องระมัดระวังตัว ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดครบโดสล้วนเข้าใจผิดว่าการฉีดวัคซีนทำให้ใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องระมัดระวังตัว แต่ที่จริงแล้วผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิดและแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ยิ่งเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดได้มากขึ้น ก็หมายความว่าวัคซีนโควิดมีประสิทธิภาพป้องกันลดลง ดร.ทีโดรส ยังระบุว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลกกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับความเชื่อผิด ๆ ที่ว่าวัคซีนจะทำให้การระบาดของโรคโควิด-19 สิ้นสุดลง และผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค แม้วัคซีนจะช่วยป้องกันการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยป้องกันการติดเชื้อ 100% ทั้งยังอ้างข้อมูลที่ระบุว่า ก่อนหน้านี้ วัคซีนโควิดมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อได้ราวร้อยละ 60 แต่หลังเกิดการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาก็มีประสิทธิภาพลดเหลือเพียงร้อยละ 40 เท่านั้น ดร.ทีโดรส ยังเน้นย้ำว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดครบโดสหมายถึงผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำต่ออาการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แต่ยังคงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดและแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ดังนั้น ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสจึงต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันการติดเชื้อและแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และไม่ควรออกไปพบผู้อื่นนอกบ้านโดยไม่จำเป็น.-สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกวอนประเทศร่ำรวยหยุดฉีดวัคซีนเข็มสาม

เจนีวา 9 ก.ย. – องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงสิ้นปีนี้เป็นอย่างน้อย เพื่อให้ประเทศกำลังพัฒนามีโอกาสได้รับวัคซีนมากขึ้น ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า องค์การอนามัยโลกตั้งเป้าให้ทุกประเทศมีอัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สูงกว่าร้อยละ 10 จากประชากรทั้งหมดของแต่ละประเทศภายในสิ้นเดือนกันยายน ประเทศที่มีรายได้สูงเกือบร้อยละ 90 ต่างบรรลุเป้าหมายดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่มีประเทศรายได้ต่ำแม้แต่เพียงประเทศเดียวที่มีอัตราฉีดวัคซีนถึงร้อยละ 10 นอกจากนี้ ประเทศที่มีรายได้สูงยังบริจาควัคซีนไม่ถึงร้อยละ 15 จากปริมาณวัคซีนที่พวกเขาสัญญาว่าจะบริจาคให้โครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก ดร. ทีโดรส ยังระบุว่า องค์การอนามัยโลกไม่อยากได้คำสัญญาอีกต่อไป แต่ต้องการเพียงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เท่านั้น และเรียกร้องให้ประเทศที่มีรายได้สูงระงับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันไปจนถึงสิ้นปีนี้เป็นอย่างน้อย เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกประเทศมีอัตราฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนร้อยละ 40 จากประชากรทั้งหมดของแต่ละประเทศ ขณะนี้ ประเทศพัฒนาแล้วและประเทศอื่น ๆ เริ่มเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชนท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกได้เรียกร้องเมื่อเดือนก่อนให้ทั่วโลกระงับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 […]

สหรัฐหนุนอนามัยโลกเดินหน้าแผนสืบที่มาโควิดระยะสอง

คูเวต ซิตี 29 ก.ค. – สหรัฐกล่าวสนับสนุนแผนการสืบสวนที่มาของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระยะที่สองในจีนขององค์การอนามัยโลก (WHO) กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐระบุว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ยืนยันว่า สหรัฐสนับสนุนแผนการสืบสวนที่มาของโรคโควิด-19 เพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงในจีน เพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ระบาดในปัจจุบันและป้องกันการระบาดในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เขายังได้เน้นย้ำว่า การสืบสวนที่มาของโรคโควิด-19 ระยะที่สองจะต้องเป็นไปอย่างเหมาะสมกับเวลา อ้างอิงหลักฐาน โปร่งใส นำทีมโดยผู้เชี่ยวชาญ และปราศจากการแทรกแซง ทั้งนี้ นายบลิงเคนได้พบกับ ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกในกรุงคูเวต ซิตีของคูเวตเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนหน้านี้ คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกได้เผยแพร่รายงานการสืบสวนที่มาของโรคโควิด-19 ในจีนเมื่อเดือนมีนาคมที่ระบุว่า เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่เชื้อไวรัสโคโรนาจะหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการทดลองในเมืองอู่ฮั่นของจีนตามคำกล่าวอ้างของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกได้ประกาศแผนสืบสวนที่มาของโรคโควิด-19 ระยะที่สองในจีนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่รัฐบาลจีนกลับปฏิเสธเข้าร่วมแผนงานดังกล่าว ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้สั่งให้เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐสืบสวนที่มาของโรคโควิด-19 อีกครั้ง พร้อมทั้งเรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ประชุมสมัชชาอนามัยโลก ครั้งที่ 74 เปิดฉากวันนี้วันแรก

การประชุมประจำปีขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดฉากขึ้นในวันนี้เป็นวันแรก วาระสำคัญของการประชุมคือ การเรียกร้องให้ปฏิรูปองค์กรแห่งนี้ และดำเนินมาตรการป้องกันโรคระบาดในอนาคต

องค์การอนามัยโลกชี้ประเทศยากจนยังเข้าไม่ถึงวัคซีนโควิด

เจนีวา 23 เม.ย. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า ประเทศยากจนยังคงเข้าไม่ถึงวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในขณะที่องค์การอนามัยโลกก่อตั้งโครงการโคแวกซ์ครบรอบ 1 ปี ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกกล่าวถึงโครงการส่งเสริมการเข้าถึงเครื่องมือในการรับมือกับโรคโควิด-19 (ACT) ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีก่อนว่า ขณะนี้ทั่วโลกฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไปเกือบ 900 ล้านโดส แต่วัคซีนกว่าร้อยละ 81 ได้รับการจัดส่งไปยังประเทศที่มีรายได้สูงหรือสูงกว่าระดับปานกลาง ขณะที่ประเทศที่มีรายได้ต่ำได้รับวัคซีนเพียงร้อยละ 0.3 ก่อนหน้านี้ ดร. ทีโดรสได้ตำหนิความไม่เท่าเทียมในการจัดส่งวัคซีนมาแล้วหลายครั้ง และเรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยแบ่งปันวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประเทศยากจน เพื่อนำไปฉีดเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในขณะเดียวกัน โครงการโคแวกซ์ได้จัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 40.5 ล้านโดสให้แก่ 118 ประเทศทั่วโลก และตั้งเป้าจัดหาวัคซีนให้ได้ราว 2,000 ล้านโดสภายในสิ้นปีหน้า นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวกำลังหาแหล่งผลิตวัคซีนรายใหม่เพื่อเพิ่มการจัดส่งวัคซีนให้แก่ประเทศยากจน และบรรเทาปัญหาขาดแคลนวัคซีนของแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของโครงการและได้รับการผลิตในอินเดีย ขณะนี้ ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 กว่า 3 ล้านคนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

1 2
...