แนะช่องทางปลอดภัยโอนช่วยผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา

27 ก.ค. – รัฐบาลอำนวยความสะดวก แนะนำช่องทางปลอดภัยไม่โดนมิจฉาชีพหลอก ให้โอนช่วยเหลือผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี วันนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่ารัฐบาล ประสานเปิดช่องทางในการรับบริจาคทางการ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่าน “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ประสงค์ร่วมช่วยเหลือ   •   ชื่อบัญชี: กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี   •   ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล   •   เลขที่บัญชี: 067-0-06895-0(ยอดเงินบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้) ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-283-4319, 0-283-4324, 06-3081-4921 หรือเว็บไซต์ www.opm.go.th อนึ่ง กรุงเทพมหานคร ยังได้จัดตั้ง “ศูนย์ส่งต่อกำลังใจจาก กทม. สู่ผู้ประสบภัยชายแดน” เปิดรับบริจาคสิ่งของจำเป็นตลอด 24 ชั่วโมง ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ห้องรัตนโกสินทร์ และที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต (เวลา 08.30 – […]

คนไทย 99.5% เชื่อมั่นกองทัพ ป้องผืนแผ่นดินไทยได้

กทม. 27 ก.ค. – ซูเปอร์โพล เผยคนไทย 99.5% เชื่อมั่นกองทัพ ป้องผืนแผ่นดินไทยได้ ห่วงใยผู้อพยพ เรียกร้องมาตรการรัฐบาลแก้ให้ตรงจุด ติงฟังเสียง ปชช.ให้มากกว่าสร้างคะแนนนิยม นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา” ที่จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 26 ก.ค.2568 โดยใช้ทั้งวิธีวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,054 ตัวอย่าง เมื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการสู้รบไทย-กัมพูชา พบว่า ร้อยละ 99.5 เชื่อมั่นต่อกองทัพไทยจะปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยได้ รองลงมาคือ ร้อยละ 94.3 ต้องการให้ฝ่ายการเมืองดูแลเยียวยาประชาชนผู้อพยพให้ดีกว่านี้ เช่น ค่าครองชีพ ภาระค่าใช้จ่าย หนี้สิน สวัสดิการ อาชีพการงาน สุขอนามัย เป็นต้น ร้อยละ 91.8 ต้องการเห็นคนไทยสามัคคี ไม่ทะเลาะกันเอง ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือกัน ร้อยละ 91.5 ต้องการให้รัฐบาลเร่งเจรจาสันติภาพแต่ต้องไม่ยอมอ่อนข้อต่อผู้รุกราน ร้อยละ 88.9 ต้องการให้รัฐบาลเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและอาชีพรายได้ของประชาชนหลังสงคราม ผอ.ซูเปอร์โพล […]

รมว.คลัง เรียกร้องกัมพูชายุติการใช้ความรุนแรง

27 ก.ค. – รมว.คลัง เรียกร้องกัมพูชายุติการใช้ความรุนแรงทันที เพื่อเปิดทางการเจรจาทางการทูต นำไปสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างยั่งยืน นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ประเทศกัมพูชาควรยุติการใช้ความรุนแรง และเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศร่วมกัน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย ผมขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชา ยุติการใช้ความรุนแรงโดยทันที เพื่อเปิดทางให้กับการเจรจาทางการทูต ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างยั่งยืน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพื้นที่ที่ถูกโจมตี รวมถึงโรงพยาบาล โรงเรียน ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเขตพลเรือนที่ไม่ควรถูกแตะต้องในทุกกรณี ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ (UN Charter) และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ผมขอเน้นว่า พฤติกรรมเช่นนี้กำลังกลายเป็นหนึ่งในเหตุสำคัญ ที่จะทำให้ประเทศกัมพูชาเป็นต้นเหตุของการทำลายประเทศของตัวเอง ทั้งในแง่ของความเชื่อมั่นจากนานาประเทศ และโอกาสทางเศรษฐกิจในเวทีโลก และที่น่ากังวลยิ่งคือ ความน่าเชื่อถือของผู้นำกัมพูชา ที่ไม่มีสัจจะ และยังคงโจมตีไทยอย่างต่อเนื่องจนถึงเช้าวันนี้ ความสงบคือเงื่อนไขแรกของการเติบโต และความเคารพต่อชีวิตมนุษย์ คือรากฐานของสันติภาพระยะยาว .-312-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. ลั่น “กัมพูชา”ต้องจริงใจ-หยุดยิงเป็นที่ประจักษ์

27 ก.ค. – ศบ.ทก. ยันไทยจะหยุดยิงต่อเมื่อกัมพูชาแสดงความจริงใจและหยุดยิงเป็นที่ประจักษ์ ชี้เลี่ยงเจรจาหลายครั้ง และยังเสริมกำลังและอาวุธหนักต่อเนื่อง ซัดใช้กระแสรักชาติปลุกระดม ขณะ กต.ไทยย้ำจุดยืนในวง UNSC กัมพูชา ใช้ประชาชนเป็นโล่กำบัง โจมตีพลเรือนต่อเนื่องไร้มนุษยธรรม จ่อยื่น ICRC หลังยิงอาวุธหนัก เข้า รพ. และ รพ.สต.-บ้านเรือนประชาชน จ.สุรินทร์ พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงข่าวประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แถลงว่าจากประเด็นที่ปรากฏเป็นข่าวในเรื่องของการเรียกร้องของบางประเทศให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง ฝ่ายไทยขอชี้แจงว่าด้วยในหลักการดังกล่าว แต่จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและเข้าร่วมหารือในขั้นตอนในรายละเอียดต่างๆ ด้วย รวมทั้งหยุดยิงเป็นที่ประจักษ์ อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ที่ผ่านมาก็เห็นได้ว่าฝ่ายกัมพูชาก็ยังคงมีการส่งกำลังทหารเข้าปะทะบริเวณใกล้เคียงพื้นที่เขาพระวิหารในเวลา 02.10 น. ประกอบด้วยการยิงจรวดบีเอ็มสองหนึ่ง เข้ามายังฝ่ายไทยและตกบริเวณบ้านตาโส หมู่10 ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 06.10 น. ซึ่งเป็นเป้าหมายของพลเรือน ทำให้บ้านของพลเรือนเสียหายและนอกจากนี้ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ในเวลา 15.30 น. กระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาก็พุ่งเป้าใส่โรงพยาบาลในพื้นที่ ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศรีสะเกษ และโรงพยาบาลบ้านกรวดจังหวัดบุรีรัมย์ […]

กรมน้ำบาดาลเร่งผลิตน้ำดื่ม 50,000 ขวด ช่วยชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 ก.ค. – รมว.ทส. สั่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลระดมเจ้าหน้าที่เร่งผลิตน้ำดื่มสะอาดจากน้ำบาดาลกว่า 50,000 ขวด เพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบและเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ระดมเจ้าหน้าที่เร่งผลิตน้ำดื่มสะอาดจากน้ำบาดาลกว่า 50,000 ขวด เพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบและเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เหตุปะทะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ ได้รับผลกระทบและต้องอพยพไปอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จึงมอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเร่งดำเนินการผลิตน้ำดื่มสะอาดและจัดส่งไปยังพื้นที่โดยด่วน นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลกล่าวว่า สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 11 (อุบลราชธานี) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และร้อยเอ็ด ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการผลิตน้ำดื่มสะอาดบรรจุขวด รวมแล้วกว่า 50,000 ขวด พร้อมส่งมอบให้ประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราวในจังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเร่งช่วยเหลือประชาชนในทุกด้านจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ.-512-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร. ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับตำรวจดูแลทรัพย์สินประชาชน

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ผบ.ตร. เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจบาดเจ็บจากเหตุกัมพูชาโจมตีร้านสะดวกซื้อ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลทรัพย์สินประชาชนและเฝ้าระวังบุคคลแปลกหน้าตามแนวชายแดนที่อาจเป็นสายให้ฝ่ายตรงข้าม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยังโรงบาลศรีสะเกษเพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ ส.ต.อ.วชิระ กุศลพันธ์ อายุ 32 ปี ถูกสะเก็ดระเบิด จากเหตุการณ์กัมพูชาโจมตีเป้าหมายพลเรือน ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือส่วนตัว จากนั้นได้เดินทางไปให้กำลังใจประชาชนที่ศูนย์อพยพในวัดแห่งหนึ่งใน อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีประชาชนจากอำเภอกันทรลัอพยพหนีภัยการสู้รบมาอยู่ที่นี่ ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับทีมข่าว สำนักข่าวไทยว่าในวันนี้ตั้งใจเดินทางมาจังหวัดแนวชายแดนโดยก่อนหน้านี้ได้ไปที่อุบลราชธานีก่อนที่จะมาศรีสะเกษซึ่งขณะนี้ภารกิจในส่วนของตำรวจมีด้วยกันสองส่วน คือส่วนแนวหน้าได้แก่ตำรวจตระเวนชายแดนที่มีการสนับสนุนอยู่ในแนวการสู้รบกับทหารและที่อยู่ในแนวส่วนหลังคือการดูแลทรัพย์สินของประชาชนที่ต้องละทิ้งบ้านเรือนและอพยพออกมาอยู่ตามศูนย์อพยพต่างๆ ขณะเดียวกันก็ได้สั่งให้เฝ้าระวังกรณีคนแปลกหน้าซึ่งอาจจะเป็นสายของฝ่ายตรงข้ามและการชี้เป้าหมายหรือยุทธศาสตร์ต่างๆ ในเขตประเทศไทยด้วย .-313-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่งสุรินทร์

27 ก.ค. – กองทัพไทย ไล่ไทม์ไลน์สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่ง จ.สุรินทร์ วันที่ 27 ก.ค.68 พลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยไทม์ไลน์สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่ง จ.สุรินทร์ วันที่ 27 ก.ค. 68 04.30–04.40 น. – เสียงปืนดังจากฝั่งกัมพูชา ยิงเข้ามายังพื้นที่ “ปราสาทตาควาย” ฝั่งไทย ยิงตอบโต้เป็นระยะจากทั้งสองฝ่าย และสถานการณ์ขยายไปถึงบริเวณ “ช่องจอม”05.30 น. – BM-21 ยิงใส่ฝั่งไทย / ฝ่ายไทยใช้อาวุธตอบโต้06.40 น. – กระสุนปืนใหญ่ตกใส่บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ จ.สุรินทร์ เกิดเพลิงไหม้07.50 น. – ทางทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ลงมาในพื้นที่ อ.ช่องจอม จ.สุรินทร์ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย .-313-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ตราด เตรียมตรวจเยี่ยมประชาชน

ตราด 27 ก.ค. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.ตราด รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา เตรียมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ศูนย์อพยพ หลังเหตุเกิดปะทะกัน วานนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดตราด เพื่อเข้าร่วมประชุมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยประชุมร่วมกันกับ นายณัฐพงษ์ สงวน ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พลตำรวจโทยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคสอง โดยทางฝั่งของทหารมี นาวาเอกภริศวร์ วงษ์เพ็ญศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาริกโยธินตราด หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นนายภูมิธรรม เวชยชัย จะเดินทางไปยังศูนย์อพยพ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ มอบสิ่งของอุปโภคบริโภค และร่วมรับประทานอาหารกับประชาชนต่อไป และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางประชาสัมพันธ์อำเภอบ่อไร่ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า “สถานการณ์ยังมีความเสี่ยง งดการเคลื่อนย้ายกลับเข้าพื้นที่ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง มีกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่คอยดูแล ความปลอดภัยในทรัพย์สินของท่าน พร้อมกำชับให้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำสั่งของทางราชการ หากมีการประกาศเตือน พร้อมส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกนายที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงอย่างเต็มที่.-420-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลไทยยืนยันนโยบาย ปฏิบัติการสุภาพบุรุษทางการทหาร

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค – รัฐบาลไทย ยืนยันนโยบาย “ ปฏิบัติการสุภาพบุรุษทางการทหาร ไม่มีนิสัยเกเรแบบกัมพูชา” ย้ำขณะนี้ยังไม่พร้อมยุติการปฏิบัติการรักษาอธิปไตยของประเทศ หลังพบ “ฮุน มาเนต” โพสต์แขวะไทยอีกรอบบอกตนเองพร้อมหยุดแต่กลัวไทยกลับลำ ขณะที่เช้านี้ ยังเปิดฉากถล่มเป้าหมายพลเรือนของไทย ที่สุรินทร์และหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่าในกรณีที่ นายฮุน มาเนต โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียโดยมีข้อความว่า “กัมพูชา ประกาศตอบรับการหยุด ยินดีไทยเห็นด้วย หวังว่าไทยจะไม่กลับลำจุดยืน มอบ รมว.ตปท.เจรจา” นั้น ขอเรียนให้ทราบว่าคำกล่าวของ นายฮุน มาเนต ในทุกข้อความยังไม่มีความจริงใจยังคงไว้ซึ่งเจตนาพิเศษ แอบแฝงและยังเหน็บแนม ค่อนแคะประเทศไทยต่างๆ นานา ทั้งที่รัฐบาลไทยยืนยันหลายครั้งว่า การเจรจาหยุดยิงกัมพูชาต้องหยุดการโจมตีพื้นที่พลเรือนของไทยทันที ซึ่งเห็นได้ว่ารัฐบาลกัมพูชาใช้เวลาโกหกไปวันๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจในเวทีโลกแต่ในการปฏิบัติทหาร กลับตรงกันข้ามอย่างเห็นได้ชัด โดยเมื่อเวลา 06.01 น. เช้าวันนี้ (27 กรกฎาคม 2568) กองทัพกัมพูชายังมีพฤติกรรมเป็นอาชญากรรมสงคราม ไร้มนุษยธรรม ยิงปืนใหญ่ข้ามฝั่งเข้ามาในพื้นที่พลเรือนของไทยอย่างต่อเนื่อง […]

เพื่อไทยย้ำปัญหาชายแดนไม่เกี่ยว 2 ตระกูล

พรรคเพื่อไทย 27 ก.ค. – เพื่อไทย ย้ำปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นผลพวงจากปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่ปัญหาสองตระกูล ชี้ที่ยิงกันปี 54 ผู้นำรัฐบาลก็ไม่ใช่ตระกูล “ชิน” วอนแกนนำม็อบพักชุมนุม เอางบซื้อข้าว-น้ำไปช่วย ประชาชนชายแดนก่อน นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าพรรคเพื่อไทยขอเคียงข้างประชาชน และขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของสองตระกูล แต่เป็นเพราะรัฐบาลพยายามจัดการกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านเสียผลประโยชน์ เพราะรัฐบาลตั้งใจที่จะปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป ที่จะมารบกวนสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งตนได้ติดตามสถานการณ์จากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาด บางจุดเริ่มคลี่คลายแต่บางจุดก็สุ่มเสี่ยงต่อการปะทะ ซึ่งกองทัพไทยพร้อมที่จะเผชิญเหตุต่างต่าง และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และขอย้ำว่าความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ นายดนุพร เชื่อว่าเรื่องการปราบปราม อาชญากรรมข้ามชาติ สร้างความไม่พอใจให้กับประเทศกัมพูชา เพราะหากย้อนกลับไปไม่นาน ประเทศไทยได้ขอความร่วมมือ เตรียมการจัดตั้งกลไกไตรภาคี ร่วมกับเมียนมาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อจัดการปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และเราได้เชิญ กัมพูชาเข้าร่วมด้วย ก็ปรากฏว่า กัมพูชาปฏิเสธโดยบอกว่าจะดำเนินการด้วยตนเอง ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าไม่ปกติ เพราะเป็นเรื่องที่ภูมิภาคนี้ควรจะร่วมกันแก้ไข ทั้งนี้ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่เป็นความขัดแย้ง ของสองตระกูลดามที่ถูกกล่าวหา ดังนั้นขอวิงวอนไปยังสื่อมวลชน อินฟลูเอ็นเซอร์ เสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์และไม่อยากให้นำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นความขัดแย้ง ปลุกปั่นยุยงให้เกิดความแตกแยก แตกสามัคคี ขณะเดียวกันนอกจากพรรคเพื่อไทยประสานไปยังกองทัพ กระทรวงมหาดไทยแล้วยังประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานในระดับทวิภาคี […]

รมว.ท่องเที่ยวฯ เล็งถกบอยคอต ห้ามกัมพูชาลุยซีเกมส์

25 ก.ค. – รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมหารือร่วมกับมนตรีซีเกมส์ ถึงการ “บอยคอต” ห้ามนักกีฬาจากกัมพูชามาแข่งขันซีเกมส์ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ หลังเกิดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงสถานการณ์การปะทะกันบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้มีปัญหาต่อเนื่องมาถึงช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม นายสรวงศ์ กล่าวว่า ถือเป็นข้อห่วงใย ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรี ต้องดูแล และได้ประสานไปยังประธานมนตรีซีเกมส์แล้ว เรื่องนี้ต้องมีการหารือกันแน่นอน โดยต้องดูว่า จะเข้าไปแทรกแซงได้อย่างไร หรือจะบอยคอตอย่างไร เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากมีความสูญเสียของพี่น้องประชาชนเกิดขึ้น แม้แต่การจะเดินทางมาแข่งขันของนักกีฬากัมพูชาเอง บางทีอาจจะไม่ปลอดภัยด้วยซ้ำ ดังนั้น มองว่า ต้องให้เวลาเยียวยา ขณะนี้เหลืออีก 5 เดือนจะถึงซีเกมส์ ถ้าสถานการณ์ไม่บานปลาย ตนในฐานะรัฐมนตรี ไม่มีอำนาจอะไรไปห้ามเขามาแข่ง แต่เป็นเรื่องของคณะมนตรีซีเกมส์ นายสรวงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุขึ้น โอลิมปิกกัมพูชายังไม่ได้ติดต่อมาคุยเรื่องนี้ ล่าสุดที่มีการติดต่อกันคือ รัฐมนตรีกีฬากัมพูชา ได้ทำหนังสือขอโทษมายังมนตรีซีเกมส์แล้วเรื่องใช้โลโก้ซีเกมส์ผิด.-สำนักข่าวไทย

กกท. เตรียมพื้นที่รองรับเหตุปะทะ 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 25 ก.ค. – ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย มอบนโยบาย กกท. สุรินทร์ อุบลฯ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ เตรียมพื้นที่รองรับให้การสนับสนุนกรณีเหตุปะทะพื้นที่จังหวัดชายแดน ตามที่กองทัพบก ได้รายงานสถานการณ์เกิดการปะทะในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา, ปราสาทตาเมือนทม จ.สุรินทร์, ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์, ด่านสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์, เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ มีการยิงอาวุธใส่พื้นที่ชุมชน บริเวณศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า กกท. ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องทหาร ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังอยู่ในขณะนี้ทุกนาย สำหรับ กกท. พร้อมให้การสนับสนุนในเรื่องสถานที่ ได้แก่ อาคารโรงยิมส์อเนกประสงค์ และสนามกีฬาจังหวัดที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ กกท. ทั้ง 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ ทั้งจังหวัดสุรินทร์, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ และ อุบลราชธานี หากทางจังหวัดมีความประสงค์จะใช้สถานที่ภายในสนามกีฬากลางจังหวัด […]

1 3 4 5 6 7 10
...