ไฟไหม้โฮสเทลในคาซัคสถาน ตาย 13 คน
สำนักงานสถานการณ์เหตุฉุกเฉินของคาซัคสถานแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 คน จากเหตุเพลิงไหม้โฮสเทลแห่งหนึ่งในเมืองอัลมาตี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ
สำนักงานสถานการณ์เหตุฉุกเฉินของคาซัคสถานแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 คน จากเหตุเพลิงไหม้โฮสเทลแห่งหนึ่งในเมืองอัลมาตี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ
อัลมาตี 19 ม.ค.- กองกำลังรักษาความมั่นคงคาซัคสถานปิดถนนใจกลางเมืองหลายสาย และจัตุรัสแห่งหนึ่งในเมืองอัลมาตี เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศในวันนี้ เนื่องจากกลุ่มฝ่ายค้านเตรียมจัดการประท้วงครั้งใหม่ กลุ่มที่นำโดยนายมุคตาร์ อาเบลียซอฟ นายธนาคารชาวคาซัคสถานวัย 58 ปีที่ผันตัวมาเป็นนักวิจารณ์รัฐบาลและลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในฝรั่งเศส ประกาศชุมนุมประท้วงหน้าที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศในวันนี้ พรรคทางเลือกประชาธิปไตยแห่งคาซัคสถานที่เขาตั้งขึ้นในปี 2544 ถูกศาลคาซัคสถานประกาศให้เป็นกลุ่มสุดโต่ง คาซัคสถานซึ่งเป็นประเทศในเอเชียกลางที่อุดมไปด้วยน้ำมัน เกิดเหตุรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ประกาศเอกราชจากอดีตสหภาพโซเวียตใน 2534 มีผู้เสียชีวิตจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเดือนนี้อย่างน้อย 225 คน ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองอัลมาตี ขณะที่ตำรวจระบุว่า ทำหน้าที่ตามปฏิบัติการปราบปรามการก่อการร้าย.-สำนักข่าวไทย
อัลมาตี 12 ม.ค.- ทางการเมืองอัลมาตี เมืองใหญ่ที่สุดของคาซัคสถานควบคุมตัวประชาชนอีก 1,678 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าเข้าร่วมเหตุไม่สงบที่สั่นคลอนประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน และเป็นเหตุรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ประกาศตัวเป็นเอกราชเมื่อ 30 ปีก่อน ยอดผู้ถูกควบคุมตัวรายใหม่ทำให้คาซัคสถานควบคุมตัวประชาชนรวมแล้วประมาณ 12,000 คน และเปิดการสอบสวนคดีอาญามากกว่า 300 คดีต่อการก่อเหตุไม่สงบครั้งใหญ่และการทำร้ายเจ้าหน้าที่ การชุมนุมประท้วงไม่พอใจราคาเชื้อเพลิงแพงเมื่อวันที่ 2 มกราคมได้ลุกลามไปทั่วประเทศ สะท้อนถึงความไม่พอใจรัฐบาลที่ปกครองประชาชน 19 ล้านคนด้วยระบอบเบ็ดเสร็จ ทางการหาทางคลายความไม่พอใจด้วยการจำกัดเพดานราคาเชื้อเพลิงเป็นเวลา 180 วัน คณะรัฐมนตรีลาออกทั้งชุด และปลดอดีตประธานาธิบดีนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ วัย 81 ปี ที่ปกครองประเทศตั้งแต่ปี 2533-2562 พ้นจากตำแหน่งประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ แต่การประท้วงยังคงดำเนินต่อไปและกลายเป็นความรุนแรง ผู้ประท้วงเผาที่ทำการรัฐบาลในเมืองอัลมาตีที่เป็นเมืองหลวงเก่า ประธานาธิบดีคาซีม-โยมาร์ต โตคาเยฟของคาซัคสถานโทษว่า เหตุไม่สงบเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายที่มีต่างชาติสนับสนุน และได้ขอให้องค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมหรือซีเอสทีโอ (CSTO) ประกอบด้วย 6 ประเทศที่เป็นอดีตรัฐในสหภาพโซเวียตนำโดยรัสเซียส่งกำลังพล 2,500 นาย มาช่วยรักษาความสงบ ผู้นำคาซัคสถานเผยเมื่อวานนี้ว่า ซีเอสทีโอจะเริ่มถอนกำลังพลในสัปดาห์นี้ เนื่องจากปฏิบัติภารกิจสำเร็จแล้ว และสถานการณ์ในคาซัคสถานกลับมามีเสถียรภาพแล้ว.-สำนักข่าวไทย