ผู้นำยูเครนพร้อมเจรจาสถานะเป็นกลางกับรัสเซีย
เคียฟ 28 มี.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า ยูเครนเตรียมหารือเกี่ยวกับการนำประเด็นเรื่องการยอมรับสถานะเป็นกลางมาไว้ในการเจรจาข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย โดยที่ข้อตกลงดังกล่าวจะต้องได้รับการรับประกันโดยประเทศฝ่ายที่สามและผ่านการลงประชามติ ประธานาธิบดีเซเลนสกีเผยกับผู้สื่อข่าวชาวรัสเซียผ่านระบบวิดีโอคอลเป็นเวลา 90 นาที ซึ่งทางการรัสเซียได้เตือนสื่อรัสเซียล่วงหน้าไม่ให้เผยแพร่การรายงานดังกล่าว โดยที่ผู้นำยูเครนได้กล่าวคำปราศรัยภาษารัสเซียตลอดการสัมภาษณ์ว่า การบุกโจมตียูเครนของรัสเซียในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายอันใหญ่หลวงให้แก่หลายเมืองในยูเครนที่มีพลเรือนพูดภาษารัสเซียอาศัยอยู่ ซึ่งนับว่ารุนแรงยิ่งกว่าสงครามเชชเนีย พร้อมทั้งระบุว่า ยูเครนพร้อมยอมรับสถานะเป็นกลาง การรับประกันความปลอดภัย รวมถึงสถานะปลอดนิวเคลียร์แล้ว แต่ขอปฏิเสธการหารือเกี่ยวกับข้อเรียกร้องอื่น ๆ ของรัสเซีย เช่น การทำให้ยูเครนปลอดทหาร ประธานาธิบดีเซเลนสกียังกล่าวว่า เขาไม่ต้องการที่จะส่งกำลังทหารไปยึดดินแดนที่รัสเซียถือครองทั้งหมดกลับคืนมา เพราะการทำเช่นนั้นจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 แต่ต้องการที่จะบรรลุข้อตกลงโดยประนีประนอมต่อแคว้นดอนบาสที่รัสเซียหนุนหลังมาตั้งแต่ปี 2557 ประธานาธิบดีเซเลนสกียังเน้นย้ำถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกรัสเซียปิดล้อมและยิงถล่มมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ปิดทางเข้าออกของเมืองไว้หมดแล้ว จนทำให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรม เนื่องจากประชาชนไม่สามารถเข้าถึงอาหาร ยารักษาโรค และน้ำดื่ม นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของทางการรัสเซียที่อ้างว่า ยูเครนจำกัดสิทธิของประชาชนยูเครนที่พูดภาษารัสเซีย และยูเครนก็ไม่ได้มีอาวุธนิวเคลียร์หรืออาวุธชีวภาพตามที่รัสเซียกล่าวอ้าง ในขณะเดียวกัน นายเดวิด อาราคาเมีย ผู้แทนเจรจราของยูเครนเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครนแบบพบกันตัวต่อตัวครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ตุรกีในวันที่ 28-30 มีนาคม ด้านนายวลาดิเมียร์ มีดินสกี ผู้นำคณะผู้แทนเจรจาของรัสเซียยืนยันว่าการเจรจาของทั้งสองประเทศจะจัดขึ้นในวันอังคารและวันพุธนี้ที่ตุรกี ซึ่งแตกต่างจากกำหนดเวลาที่นายอาราคาเมียระบุไว้ก่อนหน้านี้เพียงเล็กน้อย.-สำนักข่าวไทย