9 ทันโลก : ญี่ปุ่นปิดดีลภาษีทรัมป์ ต่ออายุ ชิเงรุ อิชิบะ?

ญี่ปุ่น 23 ก.ค. – ญี่ปุ่นเป็นประเทศล่าสุดที่บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐได้ เบื้องต้นชาวญี่ปุ่นขานรับในเชิงบวก และสำหรับญี่ปุ่นดีลนี้ยังมีความสำคัญด้านการเมืองด้วย สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับคู่ค้าและพันธมิตรสำคัญคือ ญี่ปุ่น เศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ในเอเชีย แต่กำลังอยู่ในภาวะลำบาก มีหลายเรื่องที่เป็นข่าวดีสำหรับชาวญี่ปุ่น ส่วนตัวนายกรัฐมนตรีแม้จะปิดดีลได้แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะช่วยให้เขารักษาเก้าอี้ไว้ได้อีกนานขนาดไหน เช้าวันนี้มีข่าวดีมาถึงมือชาวญี่ปุ่น ผลการเจรจาการค้ากับสหรัฐ ทำให้ชาวกรุงโตเกียวยิ้มออก ญี่ปุ่นจะเผชิญภาษีในอัตราต่ำลง นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์คนนี้ดีใจ เพราะดัชนีหุ้นบริษัทยานยนต์พุ่งพรวด ดัชนินิคเคอิเพิ่มขึ้น 2.6 เปอร์เซ็นต์ ไปสู่ระดับสูงสุดของปี จากการเปิดเผยโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ดีลนี้เป็นดีลยักษ์ ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จากการตั้งโต๊ะเจรจาที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มา 8 รอบ ญี่ปุ่นจะต้องเสียภาษีศุลกากร 15 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์ แล้วจะเข้าไปลงทุนในสหรัฐ มูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ด้วย สำหรับคณะผู้เจรจาญี่ปุ่น นี่เป็นภารกิจที่ลุล่วงกับคู่ค้าใหญ่ที่ญี่ปุ่นได้เปรียบดุลการค้าอยู่ราว 7 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะยานยนต์ ซึ่งครองสัดส่วนส่งออกไปสหรัฐ กว่า 1 ใน 4 จะต้องเสียภาษีลดลงเป็น 15 […]

สหรัฐถอนตัวจากยูเนสโกเป็นครั้งที่สอง

วอชิงตัน 23 ก.ค. – ทำเนียบขาวของสหรัฐประกาศวันอังคารว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตัดสินใจที่จะให้สหรัฐถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งเป็นการกระทำที่ซ้ำรอยจากที่เขาเคยทำเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยแรกและถูกยกเลิกโดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน การถอนตัวจากยูเนสโก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงปารีส ของฝรั่งเศสครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในปลายปีหน้า การเคลื่อนไหวนี้สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศแบบ “อเมริกาต้องมาก่อน” ของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการมองกลุ่มพหุภาคีด้วยความเคลือบแคลงสงสัย ไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ องค์การการค้าโลก และพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต แอนนา เคลลี (Anna Kelly) โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ยูเนสโกสนับสนุนประเด็นเรื่องการตื่นรู้เรื่องความไม่เท่าเทียมและสร้างความแตกแยกทางวัฒนธรรมและสังคม ในขณะที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้กล่าวหายูเนสโกว่าสนับสนุนอุดมการณ์ของการพัฒนาระหว่างประเทศแบบโลกาภิวัฒน์ ซึ่งขัดแย้งกับนโยบายต่างประเทศ “อเมริกาต้องมาก่อน” ของสหรัฐ นอกจากนี้ ยังระบุว่าการตัดสินใจของยูเนสโกในการรับปาเลสไตน์เป็นรัฐสมาชิกนั้น มีปัญหาอย่างยิ่ง ขัดต่อนโยบายของสหรัฐ และมีส่วนทำให้คำพูดต่อต้านอิสราเอลแพร่หลาย ออเดรย์ อาซูเลย์ (Audrey Azoulay) ผู้อำนวยการยูเนสโก กล่าวว่าเธอเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการตัดสินใจของนายทรัมป์ แต่ก็เป็นสิ่งที่ยูเนสโกคาดไว้แล้ว ยูเนสโกเป็นหนึ่งในหลายหน่วยงานระหว่างประเทศที่นายทรัมป์ให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกเมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งในสมัยแรก ซึ่งรวมถึงองค์การอนามัยโลก ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ รัฐบาลทรัมป์ในสมัยแรกเคยประกาศถอนตัวในปี 2560 […]

‘ทรัมป์’ ประกาศข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น

วอชิงตัน 23 ก.ค. – สหรัฐและญี่ปุ่นได้บรรลุข้อตกลงเพื่อลดอัตราภาษีที่สูงลิ่ว ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บจากสินค้าจากญี่ปุ่น โดยข้อตกลงนี้รวมถึงแพ็คเกจการลงทุนและเงินกู้จากญี่ปุ่นมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ ข้อตกลงนี้จะทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีความสำคัญของญี่ปุ่นรู้สึกโล่งอกไปได้ โดยภาษีที่มีอยู่จะถูกลดลงจากร้อยละ 25 เหลือร้อยละ 15 และภาษีสำหรับสินค้าญี่ปุ่นอื่น ๆ ที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม ก็จะถูกลดลงเป็นอัตราที่เท่ากัน รถยนต์คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสี่ของการส่งออกทั้งหมดของญี่ปุ่นไปยังสหรัฐ นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทรูธโซเชียล (Truth Social) ของเขาในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐว่า เขาเพิ่งลงนามข้อตกลงการค้าที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กับญี่ปุ่น และว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับสหรัฐและโดยเฉพาะอย่างยิ่งความจริงที่ว่า สหรัฐจะยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับประเทศญี่ปุ่นตลอดไป ทางด้านนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ซึ่งสื่อท้องถิ่นญี่ปุ่นรายงานว่าจะเขาลาออกในเร็ว ๆ นี้ หลังพรรครัฐบาลพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งอย่างยับเยินเมื่อวันอาทิตย์ ได้ชื่นชมข้อตกลงนี้ว่าเป็น ตัวเลขอัตราภาษีที่ต่ำที่สุดในบรรดาประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐ เขากล่าวด้วยว่า แพ็คเกจการลงทุนของญี่ปุ่นในสหรัฐ จะประกอบด้วยเงินกู้และหลักประกันจากสถาบันที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลญี่ปุ่นสูงถึง 550,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้บริษัทญี่ปุ่นสามารถสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นในภาคส่วนสำคัญ เช่น ยารักษาโรคและเซมิคอนดักเตอร์ เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐกล่าวด้วยว่า ญี่ปุ่นจะซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากสหรัฐ เช่น ข้าว ซึ่งนายอิชิบะกล่าวว่าส่วนแบ่งการนำเข้าข้าวจากสหรัฐ อาจเพิ่มขึ้นภายใต้กรอบการทำงานที่มีอยู่ แต่ข้อตกลงนี้จะ ไม่ทำให้เกษตรกรรมญี่ปุ่นต้องได้รับผลกระทบ […]

‘แอสตราเซเนกา’ เตรียมลงทุนครั้งใหญ่ในสหรัฐ

ลอนดอน 22 ก.ค. – แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ สัญชาติอังกฤษ-สวีเดน เปิดเผยแผนการลงทุนมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อขยายขีดความสามารถด้านการผลิตและวิจัยในสหรัฐอเมริกา ภายในปี 2573 โดยแถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม ซึ่งถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ล่าสุดของแอสตราเซเนกา เพื่อรับมือกับนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ การลงทุนครั้งนี้จะครอบคลุมการก่อสร้างโรงงานผลิตยาแห่งใหม่ในรัฐเวอร์จิเนีย รวมถึงการขยายการวิจัยและพัฒนา หรือ อาร์แอนด์ดี (R&D) และการผลิตเซลล์บำบัดในรัฐแมริแลนด์ แมสซาชูเซตส์ แคลิฟอร์เนีย อินดีแอนา และเท็กซัส นอกจากนี้ ยังจะปรับปรุงเครือข่ายการจัดหายาสำหรับการทดลองทางคลินิกในสหรัฐและสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องในยาใหม่ๆ แอสตราเซเนการะบุว่าการขยายธุรกิจในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายในการสร้างรายได้ต่อปีให้ถึง 8 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 โดยมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งมาจากสหรัฐ ในปี 2567 รายได้รวมของแอสตราเซเนกามากกว่าร้อยละ 40 เป็นรายได้ที่มาจากในสหรัฐและทางบริษัทให้ความสำคัญกับตลาดสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าสูงถึง 6.35 แสนล้านดอลลาร์ ก่อนที่นายทรัมป์จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี การเคลื่อนไหวเพื่อขยายธุรกิจในสหรัฐของแอสตราเซเนกา ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามของบริษัทยา เพื่อรับมือกับนโยบายของทรัมป์ที่ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากอุตสาหกรรมยา และต้องการส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ โดยที่ผ่านมา […]

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเห็นชอบตัดงบช่วยเหลือ ตปท.

วอชิงตัน 18 ก.ค. – สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้ผ่านร่างกฎหมายตัดลดงบประมาณ 9 พันล้านดอลลาร์ตามแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจะกระทบต่องบประมาณของสื่อสาธารณะและเงินช่วยเหลือต่างประเทศ โดยขณะนี้ได้ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกส่งไปยังทำเนียบขาวเพื่อให้ประธานาธิบดีลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป สมาชิกรัฐสภาลงมติด้วยคะแนน 216 ต่อ 213 เสียง เห็นชอบการตัดลดงบประมาณนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้วุฒิสภาได้แก้ไขเพิ่มเติม โดยไม่รวมการตัดลดงบประมาณประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันและต่อต้านการระบาดของเอชไอวี/เอดส์ภายใต้่แผนฉุกเฉินของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อการบรรเทาทุกข์โรคเอดส์ หรือ เปปฟา (PEPFAR) พรรครีพับลิกันให้เหตุผลว่า เงินช่วยเหลือต่างประเทศที่ผ่านมาถูกนำไปใช้ในโครงการที่พวกเขาเห็นว่าสิ้นเปลือง และงบประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สำหรับสื่อสาธารณะนั้นสนับสนุนสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์พีบีเอส (PBS) ที่มีอคติต่อมุมมองแบบอนุรักษ์นิยม การลงมติครั้งนี้มีเพียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันสองคนเท่านั้นที่ลงมติไม่เห็นด้วยกับการตัดลดงบประมาณในครั้งนี้ คือ นายไบรอัน ฟิตซ์แพทริก จากเพนซิลเวเนีย และนายไมค์ เทอร์เนอร์ จากโอไฮโอ ซึ่งลงคะแนนเสียงไม่เห็นด้วยร่วมกับพรรคเดโมแครตที่คัดค้านกฎหมายฉบับนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เผยโคคา-โคล่าเปลี่ยนใช้น้ำตาลอ้อยแท้ผลิตโค้ก

วอชิงตัน 18 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐเผยวานนี้ว่า บริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่อย่างโคคา-โคล่า ตกลงจะใช้น้ำตาลอ้อยแท้ สำหรับการผลิตเครื่องดื่มโค้กในสหรัฐแทนน้ำเชื่อมข้าวโพดอย่างที่ปฏิบัติมาช้านาน นายทรัมป์โพสต์ผ่านสื่อออนไลน์ “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ของเขาเองว่า ได้พูดคุยกับโคคา-โคล่า เกี่ยวกับการใช้น้ำตาลอ้อยแท้ในเครื่องดื่มโค้กที่จำหน่ายในสหรัฐและบริษัทก็ตกลงที่จะทำเช่นนั้น เขาขอขอบคุณผู้มีอำนาจทุกคนในโคคา-โคล่า พร้อมย้ำว่านี่จะเป็นการตัดสินใจที่ดีมาก ด้าน โคคา-โคล่า ไม่ได้ยืนยันการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมในทันที ระบุในแถลงการณ์สั้นๆ ว่า ขอขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ที่ให้ความสนใจกับแบรนด์ โคคา-โคลา รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่และนวัตกรรมในกลุ่มโค้ก จะประกาศให้ทราบเร็ว ๆ นี้ ปัจจุบัน โคคา-โคล่า ใช้น้ำเชื่อมข้าวโพดชนิดฟรุกโตสสูง หรือ HFCS ในการผลิตเครื่องดื่มที่จำหน่ายในสหรัฐ สารให้ความหวานชนิดนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์มายาวนาน จาก โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รมว.สาธารณสุขของสหรัฐ เจ้าของแคมเปญ Make America Healthy Again เนื่องจากเชื่อว่ามันส่งผลเสียต่อสุขภาพหากบริโภคในปริมาณมาก รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจ ขณะที่โค้กผลิตในเม็กซิโกเม็กซิโกที่ใช้น้ำตาลอ้อยมาตั้งแต่ต้น […]

‘ทรัมป์’ เตรียมเยือนปากีสถานเดือนกันยายน

อิสลามาบัด 17 ก.ค. – สถานีโทรทัศน์ข่าวท้องถิ่นสองแห่งของปากีสถานรายงานวันพฤหัสบดี อ้างแหล่งข่าววงในคาดหมายว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ว่าจะเดินทางเยือนปากีสถานในเดือนกันยายนนี้ หากว่านายทรัมป์เยือนปากีสถานจริง การเยือนครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดีสหรัฐในรอบเกือบสองทศวรรษ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เคยเดินทางเยือนปากีสถานเมื่อปี 2006 แต่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศปากีสถานกล่าวว่า เขาไม่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเยือนของนายทรัมป์ในครั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ข่าวทั้งสองแห่งระบุว่า หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนกรุงอิสลามาบัดในเดือนกันยายนแล้วนายทรัมป์จะเดินทางเยือนอินเดียต่อ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-ปากีสถานใกล้ชิดมากขึ้นเมื่อนายทรัมป์เป็นเจ้าภาพต้อนรับพลเอกอาซิม มูเนียร์ ผู้บัญชาการทหารบกปากีสถาน ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันเมื่อเดือนที่แล้ว ในการประชุมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ว่าเขาไม่มีแผนปลดประธานเฟดออกจากตำแหน่ง

วอชิงตัน 16 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กล่าวในวันพุธว่า เขาไม่มีแผนจะปลดเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ออกจากตำแหน่ง แต่เขาก็ยังเปิดทางถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ บลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่านายทรัมป์น่าจะปลดนายพาวเวลล์ออกในเร็ว ๆ นี้ แต่นายทรัมป์ ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์นายพาวเวลล์เกือบทุกวันว่า “ช้าเกินไป” ที่จะลดอัตราดอกเบี้ย กล่าวว่ารายงานดังกล่าวของบลูมเบิร์กไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า ได้หยิบยกความคิดนี้ขึ้นมาหารือกับสมาชิกรัฐสภาจากพรรครีพับลิกันเมื่อเย็นวันอังคาร ถือเป็นความเตลื่อนไหวล่าสุดของนายทรัมป์ในการกดดันให้ประธานธนาคารกลางพ้นจากตำแหน่ง ในระหว่างการสัมภาษณ์กับโทรทัศน์ “เรียล อเมริกาส์ วอยซ์” (Real America’s Voice) ในวันพุธ นายทรัมป์ถูกถามอีกครั้งว่าเขากำลังคิดที่จะปลดพาวเวลล์หรือไม่ นายทรัมป์กล่าวว่า เขาจะดีใจมากถ้านายพาวเวลล์อยากลาออก แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายพาวเวลล์ และเสริมว่า มีคนบอกว่า หากเขาปลดนายพาวเวลล์ จะทำให้ตลาดปั่นป่วน นายพาวเวลล์ ได้รับการเสนอชื่อโดยนายทรัมป์ในช่วงวาระแรกในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาเมื่อปลายปี 2017 ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟด และจากนั้นก็ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งวาระที่สองโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตในอีกสี่ปีต่อมา นายพาวเวลล์ กล่าวย้ำหลายครั้งว่าเขามีความตั้งใจที่จะดำรงตำแหน่งให้ครบวาระ ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 15 พฤษภาคม 2026 ความเห็นล่าสุดของศาลฎีกาได้ยืนยันการตีความกฎหมายที่ว่าไม่สามารถปลดประธานเฟดออกจากตำแหน่งเนื่องจากความแตกต่างด้านนโยบายได้ […]

‘ทรัมป์’ เตรียมเก็บภาษีนำเข้ายารักษาโรคสิ้นเดือนนี้

วอชิงตัน 16 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการจัดเก็บภาษีนำเข้ายาโดยประกาศว่าสหรัฐจะเดินหน้าดำเนินการจัดเก็บภาษีภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ นายทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐจะเริ่มเก็บภาษีจากอัตราต่ำก่อนเพื่อให้บริษัทยาต่างๆ มีเวลาย้ายฐานการผลิตมายังสหรัฐ ก่อนที่จะจัดเก็บภาษีในอัตราที่สูงในอีกประมาณ 1 ปีหลังจากนี้ นายทรัมป์บอกว่า มันมีอยู่สองวิธีที่จะทำได้ – คือทำเงินไปเลย หรือไม่ก็ย้ายมายังสหรัฐ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายภาษี นั่นคือสองวิธีที่บริษัทเวชภัณฑ์กำลังย้ายกลับมายังสหรัฐ ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาควรอยู่ นายทรัมป์กำหนดเส้นตายเอาไว้ในวันที่ 1 สิงหาคมที่จะถึงนี้เพื่อให้ประเทศเป้าหมายเจรจาทำข้อตกลงเรื่องภาษีกับสหรัฐ ซึ่งทรัมป์เคยรับปากเอาไว้ว่าในเวลา 90 วันจะต้องทำข้อตกลงได้ถึง 90 ประเทศแต่จนถึงขณะนี้มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐ.-816.-สำนักข่าวไทย

กองทัพสหรัฐเตรียมถอนทหารออกจากแอลเอ

ลอสแอนเจลิส 16 ก.ค. – กระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือ เพนตากอน แถลงในวันอังคารว่า นายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม สั่งถอนกำลังทหารของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ หรือ “เนชันแนลการ์ด” (National Guard) ครึ่งหนึ่ง จากจำนวนทั้งหมด 4,000 นาย ที่ถูกส่งไปยังนครลอสแอนเจลิส เพื่อปกป้องทรัพย์สินและบุคลากรของรัฐบาลกลาง ในช่วงที่มีการประท้วงหลายครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การตัดสินใจถอนกำลังทหารครั้งนี้มีขึ้นเนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าภารกิจประสบความสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย เข้าประจำการในนครลอสแอนเจลิส เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยไม่ฟังการคัดค้านจากนายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย จากพรรคเดโมแครต เป้าหมายของการส่งทหารครั้งนี้เพื่อปราบปรามการประท้วงที่เกิดจากการบุกตรวจค้นสถานประกอบการของเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและบังคับใช้กฎหมายศุลกากร หรือ ไอซ์ (ICE) นอกจากนี้เขายังได้ส่งนาวิกโยธินประมาณ 700 นาย เข้าพื้นที่ด้วย แม้จะมีการฟ้องร้องทางกฎหมาย แต่ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐก็อนุญาตให้นายทรัมป์ยังคงควบคุมกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของแคลิฟอร์เนียได้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของเขาที่จะส่งกำลังทหารเข้าไปในนครลอสแอนเจลิส ได้จุดชนวนให้เกิดประเด็นการถกเถียงระดับชาติเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารในดินแดนของสหรัฐ และเพิ่มความตึงเครียดทางการเมืองในนครลอสแอนเจลิส ที่เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ.-813.-สำนักข่าวไทย

ถ้วยแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลกตั้งในห้องทำงาน ‘ทรัมป์’ ถาวร

วอชิงตัน 16 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า ถ้วยแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก ที่ตั้งไว้ในห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน จะต้องตั้งไว้อย่างถาวร ฟีฟ่าต้องมอบถ้วยแชมป์จำลองให้เชลซีที่เอาชนะปารีส แซงต์ แชร์กแมง คว้าแชมป์ไปได้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ และ จานนี่ อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ได้เข้าชมรอบชิงชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลก เมื่อวันอาทิตย์ ก่อนทั้งคู่จะร่วมมอบถ้วยแชมป์ให้กับ รีซ เจมส์ กัปตันทีมเชลซี ซึ่งเขาและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นมีสีหน้าที่งุนงงตอนที่ทรัมป์เข้ามายืนอยู่หน้าสุดตรงกลางขณะรับถ้วย ไม่ได้หลบลงเวทีไป ถ้วยแชมป์สโมสรโลก เปิดตัวครั้งแรกที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และถ้วยแชมป์ก็ถูกตั้งตกแต่งในห้องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทรัมป์บอกกับนักข่าวไว้ว่าสอบถามทางฟีฟ่าไปว่าจะมารับถ้วยรางวัลกลับไปเมื่อใด ก่อนที่ประธานฟีฟ่าจะแจ้งมาว่าให้เขาเก็บถ้วยรางวัลนี้ไว้ที่ห้องทำงานรูปไข่ได้ตลอดไปเลย เพราะทางฟีฟ่ากำลังทำถ้วยรางวัลจำลองอันใหม่อยู่ ยังไม่ทราบแน่ชัดเรื่องความแตกต่างระหว่างถ้วยรางวัลทั้งสอง ทรัมป์ยังบอกว่า เขาสามารถออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเปลี่ยนคำว่า “ซอคเกอร์” (Soccer) ซึ่งหมายถึงฟุตบอลในแบบอเมริกัน เป็น “ฟุตบอล” (Football) แบบที่ภาษาอังกฤษที่ทั่วโลกรู้จักได้ และกล่าวว่าผู้นำประเทศอื่นๆ ต่างเรียกสหรัฐว่าเป็นประเทศ ‘ที่ร้อนแรงที่สุดในโลก’ โดยอ้างถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและจุดยืนทางการเมือง พร้อมกล่าวถึงการจัดฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกและฟุตบอลโลกในสหรัฐ ว่าเป็นเรื่องของความสามัคคี การที่ทุกคนมารวมตัวกัน […]

สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซีย

วอชิงตัน 16 ก.ค. – สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ โดยจะไม่ต้องจ่ายภาษีส่งออกไปอินโดนีเซียเลย ขณะที่อินโดนีเซียต้องจ่ายภาษีส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ ที่ร้อยละ 19 เพื่อลดยอดขาดดุลการค้ามหาศาลที่สหรัฐมีต่ออินโดนีเซีย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซียในวันอังคาร เป็นข้อตกลงล่าสุดที่มุ่งกระชับความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับประเทศคู่ค้า และลดยอดขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาลของสหรัฐ โดยทรัมป์ระบุว่า สหรัฐจะไม่จ่ายภาษีนำเข้า-ส่งออกไปยังอินโดนีเซีย เราจะเข้าถึงอินโดนีเซียอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าครั้งนี้ ขณะที่อินโดนีเซียจะจ่ายภาษีสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐที่ร้อยละ 19 ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงประสานงานด้านเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย แจ้งกับรอยเตอร์ผ่านข้อความว่า กำลังเตรียมแถลงการณ์ร่วมระหว่างสหรัฐและอินโดนีเซีย ซึ่งจะอธิบายขนาดของภาษีศุลกากรสำหรับอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงข้อตกลงด้านภาษีศุลกากร ข้อตกลงที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร และข้อตกลงทางการค้า โดยจะแจ้งให้สาธารณชนทราบในเร็วๆ นี้ ตัวเลขการค้าทั้งหมดของอินโดนีเซียกับสหรัฐ มีมูลค่าเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2567 แม้จะไม่ติดอยู่ใน 15 อันดับแรก แต่ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การส่งออกของสหรัฐไปยังอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 ในปีที่แล้ว ขณะที่การนำเข้าจากอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้าเกือบ 18,000 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียอันดับต้นๆ ของสหรัฐ ได้แก่ น้ำมันปาล์ม […]

1 3 4 5 6 7 153
...