ครั้งแรก! ‘ลำไย-ทุเรียนไทย’ ร่วมนั่งม้าเหล็กจีน-ลาว ตรงสู่ตลาดจีน
ครั้งแรก! ‘ลำไย-ทุเรียนไทย’ ร่วมนั่งม้าเหล็กจีน-ลาว ตรงสู่ตลาดจีน
ครั้งแรก! ‘ลำไย-ทุเรียนไทย’ ร่วมนั่งม้าเหล็กจีน-ลาว ตรงสู่ตลาดจีน
บันดาร์เสรีเบกาวัน, 1 ธ.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพุธ (30 พ.ย.) สื่อท้องถิ่นบรูไนรายงานว่าบรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยจะร่วมเสนอการขึ้นทะเบียนชุด “เคบายา” (Kebaya) ในบัญชีรายชื่อตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้แห่งมวลมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เคบายาเป็นเครื่องแต่งกายดั้งเดิมของผู้หญิงในภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงคาบเกี่ยวเข้าศตวรรษที่ 20 และยังคงถูกสวมใส่จวบจนปัจจุบัน โดยชุดชนิดนี้ประกอบด้วยเสื้อท่อนบนแบบเปิดหน้าที่มีแขนยาว ซึ่งเดิมทำจากผ้าหลายชนิดและมักประดับด้วยงานเย็บปักถักร้อยที่ประณีต รายงานระบุว่าบรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยตกลงทำงานร่วมกันเพื่อเสนอการขึ้นทะเบียน เนื่องจากชุดเคบายาเป็นตัวแทนและการฉลองประวัติศาสตร์ร่วมกันของภูมิภาค ทั้งยังส่งเสริมความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรม โดยทั้งสี่ประเทศยินดีต้อนรับประเทศอื่นเข้าร่วมการเสนอดังกล่าว ซึ่งจะดำเนินการในเดือนมีนาคม 2023 และคาดว่าจะประกาศผลในช่วงปลายปี 2024-สำนักข่าวซินหัว คลิกเพื่ออ่านข่าวภาษาอังกฤษ https://english.news.cn/asiapacific/20221201/21d2462d111b4ff584cb8355e8720916/c.htmlอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/inter/323810_20221201ขอบคุณภาพจาก Xinhua
“พล.อ.ประวิตร” ส่งทีมงานสร้างเครือข่าย ขยายการค้าปาล์มน้ำมันไทย-อินเดีย ตั้งเป้าสู่ระดับโลก
กรมประมง 23 พ.ย.65 – “พล.อ.ประวิตร” ปลื้ม เจ้าหน้าที่สำนักงานต่อต้านการค้ามนุษย์อเมริกาชื่นชมผลงานปราบค้ามนุษย์ของไทย ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการทําการประมง (FMC) อาคารศูนย์ FMC ชั้น 1 กรมประมง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการร่วมว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ ไทย – สหรัฐอเมริกา (ฝ่ายไทย) เป็นประธานการประชุมในด้านการป้องกัน (Prevention) ร่วมกับ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ กรมประมง และกรมการปกครอง ให้การต้อนรับนางสาว Caitlin Heidenreich เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจสอบและต่อต้านการค้ามนุษย์ (TIP Office) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการจัดทำรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ หารือความคืบหน้าการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ปี 2565 -2566 พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งดำเนินคดีค้ามนุษย์ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนสอบสวนช่องทางออนไลน์ ทำให้ในปี 2565 ดำเนินคดีค้ามนุษย์ได้ถึง 230 คดี รวมทั้งขยายผลดำเนินคดีอาญาและทางวินัยกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ จำนวน […]
หนานหนิง, 22 พ.ย. (ซินหัว) — “คิดมาตลอดว่าอยากขยายร้านอาหารให้ใหญ่ขึ้น บังเอิญมาเจอห้างสรรพสินค้าสร้างเสร็จใหม่แห่งนี้เลยติดต่อเข้าเปิดร้าน ซึ่งตอนนี้ขายดีมาก” เฉินเหม่ยนี หญิงชาวไทยจากลำปางผู้ลงหลักปักฐานในจีนมานานกว่า 10 ปี กล่าวขณะต้อนรับลูกค้าอย่างอบอุ่นที่ร้านอาหารไทยในนครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน เฉินนั้นมาเรียนต่อที่กว่างซีตั้งแต่ปี 2010 จนจบปริญญาโท เคยทำงานล่ามและเลขานุการ ก่อนเบนเข็มมาลุยธุรกิจร้านอาหารจนกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการ และเปิดร้านอาหารไทยหลายสาขาในกว่างซี เช่น เมืองฝางเฉิงกั่งและเมืองผิงเสียง โดยร้านอาหารของเธอเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนท้องถิ่นด้วยรสชาติต้นตำรับและการแสดงองค์ประกอบทางวัฒนธรรมไทย จุดเริ่มต้นการเปิดร้านอาหารไทยของเฉินอยู่ที่ช่วงปลายปี 2019 ยามเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางข้ามพรมแดน โดยกลุ่มเพื่อนของเฉินเสนอแนะการเปิดร้านอาหารไทยในกว่างซี และนั่นกระตุกความคิดของเธอในการเป็นเจ้าของธุรกิจขึ้นมา ร้านอาหารไทยขนาดเล็กแห่งแรกของเฉินตั้งอยู่ที่นครหนานหนิง เมืองเอกของกว่างซี และคว้าคำชมจากลูกค้ามากมายในเวลาไม่กี่เดือน นำไปสู่การโยกย้ายไปยังย่านธุรกิจการค้าที่มีคนพลุกพล่าน โดยเฉินเสริมว่าโรคระบาดใหญ่ทำให้ผู้คนไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศ ร้านอาหารไทยรสชาติต้นตำรับจึงกลายเป็นดาวจรัสแสง ครั้นร้านอาหารไทยขนาดกว่าร้อยตารางเมตร ไม่เพียงพอรองรับลูกค้ารายวันที่แห่แหนมา “เช็กอิน” กันเป็นจำนวนมาก เฉินและเพื่อนร่วมหุ้นจึงวางแผนย้ายร้านอีกครั้งเมื่อต้นเดือนตุลาคม โดยร้านแห่งใหม่มีชื่อว่า “ไท่เสินจิง” ซึ่งมีพื้นที่มากกว่าเดิมเกือบสามเท่าจนพร้อมต้อนรับกองทัพลูกค้าผู้อยากลิ้มรสอาหารและสัมผัสวัฒนธรรมไทย “ไท่เสินจิง” มีบรรยากาศราวกับอยู่ “พิพิธภัณฑ์” ที่นำเสนออาหารไทยสารพัดเมนูและบริการชุดไทยโบราณให้เช่าสวมใส่ พร้อมประดับตกแต่งร้านด้วยภาพวาดฝาผนังและหน้ากากโขนอันมีเอกลักษณ์ไทย โดยมีการจัดแบ่งพื้นที่เป็นโซนรับประทานอาหาร ร้านสะดวกซื้อ จำหน่ายเครื่องดื่ม และเช่าชุดไทยถ่ายภาพ “ร้านอาหารของเราเน้นขายอาหารไทย แต่บริการเช่าชุดไทยถ่ายภาพสร้างรายได้เกือบ […]
ราชอาณาจักรไทย และราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย แลกเปลี่ยนข้อตกลงและบันทึกความเข้าใจร่วมกันหลายด้าน โดยมีเป้าหมายฟื้นฟูความสัมพันธ์ในรอบ 30 กว่าปี
กรุงเทพฯ, 19 พ.ย. (ซินหัว) — สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย เห็นพ้องกับการสร้างประชาคมจีน-ไทย ที่มีอนาคตร่วมกันอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น ขณะประชุมร่วมกันในวันเสาร์ (19 พ.ย.) สีจิ้นผิงแสดงความยินดีกับไทยที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 พร้อมเน้นย้ำถึงมิตรภาพอันยืนยาวนับพันปีระหว่างจีนและไทย และสายสัมพันธ์ฉันพี่น้องระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ห้วงยามสิบปีที่ผ่านมานับตั้งแต่สถาปนาการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านจีน-ไทย มิตรไมตรีดั้งเดิมระหว่างสองประเทศงอกงามต่อเนื่อง ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และสายสัมพันธ์ทวิภาคีเข้าสู่ขั้นใหม่ของการพัฒนา สีจิ้นผิงกล่าวว่า ณ จุดเริ่มต้นแห่งประวัติศาสตร์ใหม่ จีนยินดีผลักดันมิตรภาพแสนพิเศษระหว่างจีนและไทย ซึ่งมีความใกล้ชิดสนิทสนมดังครอบครัวเดียวกันให้ก้าวหน้าต่อไป เพิ่มพูนนัยยะใหม่ของมิตรภาพ เปิดกว้างยุคใหม่ของสายสัมพันธ์ทวิภาคี และนำพาประโยชน์สู่ประชาชนยิ่งขึ้น จีนพร้อมเสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความร่วมมือกับไทยและประเทศอื่นๆ ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน มุ่งสร้างบ้านที่สงบสุข ปลอดภัยและมั่นคง มั่งคั่ง สวยงามและรักใคร่ปรองดองร่วมกัน เพื่อปลดปล่อยตัวขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ของการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านจีน-อาเซียนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นจีนยินดีทำงานร่วมกับกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระดับอนุภูมิภาคที่มีคุณภาพสูง ขณะไทยจะเป็นประธานร่วมของกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (LMC) ในอนาคตอันใกล้ ด้านพลเอกประยุทธ์กล่าวว่าการเยือนไทยและเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคของสีจิ้นผิง ถือเป็นการเยือนไทยครั้งแรกของสีจิ้นผิงนับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีน ซึ่งมีนัยสำคัญยิ่งใหญ่ ไทยสนับสนุนแผนริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (GDI) และแผนริเริ่มความมั่นคงระดับโลก […]
รัฐมนตรีพาณิชย์แจงคนยะลา ไทยมีโอกาสขยายช่องทางการค้าหลังไทยและจีนมีความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกันมากขึ้น คาดความร่วมมือครั้งนี้ เพิ่มยอดการค้าออนไลน์ ด้านอี-คอมเมิร์ซไทย-จีนในอนาคตหลายเท่าตัวแถมซาอุฯ เปิดโอกาสให้สินค้าไทยไปตลาดซาอุฯ เพิ่มอีกด้วย แนะคนทำการค้าออนไลน์ต้องค้าขายตรงไปตรงมาอย่าเอาเปรียบ
นายกฯ หารือทวิภาคีกับรองประธานาธิบดีสหรัฐ ย้ำความเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดและความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน พร้อมเพิ่มพูนความร่วมมือแบบใจถึงใจ เดินหน้าสู่ 2 ศตวรรษแห่งความสัมพันธ์
ปิดฉากลงแล้วสำหรับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และมีพิธีส่งมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปค ครั้งที่ 30 ให้แก่สหรัฐอเมริกา นายกฯ มอบชะลอม 3 สี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การประชุมเอเปค 2565 ให้กับรองประธานาธิบดีสหรัฐ
ไทย-ออสเตรีย ลงนาม MOU จัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกัน ซึ่งปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศ รวม 736 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 23,500 ล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ระบุถือเป็นโอกาสที่ดีที่ไทยจะได้เสนอความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมสู่สายตาชาวโลก