ชี้ “การเรียนรู้” จะช่วยลดมายาคติสัมพันธ์ไทย-จีนภาคประชาชน

Professor Bai Chun, Beijing Foreign Studies University (BFSU)

ปักกิ่ง 2 พ.ค.- ในวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน นักวิชาการจีนผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียศึกษาระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยลดความบาดหมางในระดับประชาชนไทย-จีน คือ การเรียนรู้ ลดความเป็นปฏิปักษ์ และคนจีนที่อาศัยในไทยควรเข้าใจบริบทของสังคมไทย 


ศาสตราจารย์ไป๋ ชุน อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของประเทศจีน แห่งคณะเอเชียตะวันออก มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศ ปักกิ่ง หรือ Beijing Foreign Studies University (BFSU) เผยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ในยุคปัจจุบันมีมิติเพิ่มขึ้น จากในยุคก่อนเน้นที่มิตรภาพ และความเป็นมิตรระหว่างกัน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม มีความโดดเด่นมากขึ้น ซึ่งถือเป็นมิติใหม่แห่งความสัมพันธ์ และ​สะท้อนให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่มีมิติหลากหลายมากขึ้น จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ 2 ประเทศมีความเหนียวแน่นมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ในอนาคตนับจากกึ่งศตวรรษความสัมพันธ์ทางการทูตไปแล้ว ก็มีความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า โดยเฉพาะความรู้สึกนึกคิดและความสัมพันธ์ในภาคประชาชนของทั้งสองประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ทั้งปัญหาที่เกิดจากมายาคติ ภูมิรัฐศาสตร์โลก ตลอดจนปัญหากดทับทางสังคมอันมีสาเหตุจากกลุ่มทุนจีนไม่ถูกต้องตามกฎหมายเข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศไทย รวมทั้งปัญหาความไม่โปร่งใส


ศาสตราจารย์ไป๋ ชุน ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะแก้ไข และคลี่คลายทัศนคติในทางลบระหว่างกันได้ คือ การพูดคุยทำความเข้าใจกันและกัน ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ต้องไม่สร้างความรู้สึกเป็นปรปักษ์ต่อกัน เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ความรู้สึกเป็นอคติต่อกันไม่เคยนำไปสู่สิ่งที่เรียกว่าเป็นความสร้างสรรค์ แต่กลับจะยิ่งสร้างความเสียหาย และอาจเลวร้ายถึงขั้นเกิดหายนะ

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ไป๋ ได้ยกกรณีตัวอย่างที่เห็นชัดเจน เช่น ปัญหาจีนเทา และปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งเป็นเหตุให้ทั้งคนจีนและคนไทยต่างไม่พอใจซึ่งกันและกัน ทั้งที่ต้นเหตุของปัญหาไม่ได้เกิดจากระดับประชาชนของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นเพราะอารมณ์และความรู้สึกถูกปลุกเร้าขึ้น จนเกิดความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ซึ่งจะยิ่งนำไปสู่ความเสียหาย ดังนั้น แก่นสำคัญอย่างในหนึ่งในภาคประชาชนคือ ควรยึดหลักที่จะไม่ผูกอาฆาตกัน แต่ควรสร้างความเข้าใจ เพื่อนำไปสู่การหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน ในฐานะที่ศาสตราจารย์ทำงานล่ามแปลด้วย มีความเห็นว่า ล่ามและนักแปล ก็เป็นผู้ที่มีส่วนช่วยสร้างความเข้าใจและแก้ปัญหาความไม่เข้าใจกันได้ผ่านการแปล

พร้อมกันนี้ ศาสตราจารย์ไป๋ ชุน ยังกล่าวว่า “การเรียนรู้” จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการลดมายาคติระหว่างกัน การเรียนรู้บริบทของสังคม รวมทั้งหล่อหลอมตัวเองให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม จะช่วยให้ความบาดหมางระหว่างกันอันตรธานหายไป ทั้งยังกล่าวถึงคนจีนที่ใช้ชีวิตและทำงานในประเทศไทยว่า หากคิดแต่จะอยู่ในสังคมของตนเอง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นชุมชนปิด ไม่มีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ และไม่ผูกพันกับชุมชนและสังคมไทย ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะจะไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ งอกงาม เรียกได้ว่า “มาไม่ถึงเมืองไทย” แต่หากหันมาสนใจชุมชน สังคม ภาษาและวัฒนธรรมของไทยในถิ่นที่อยู่ ก็จะทำให้คนจีนได้เข้าใจสังคมไทยอย่างแท้จริง.-810.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]