สธ. ประชุมประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ศรีสะเกษ 28 ก.ค. – สธ. ประชุมประเมินสถานการณ์ชายแดน ว่าจะต้องปิดโรงพยาบาลใดเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ศรีสะเกษปิดไปแล้ว 2 โรงพยาบาล และมีแนวโน้มอาจต้องปิดเพิ่มอีก 2 แห่งหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น นายแพทย์ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษประชุม Conference ร่วมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมสาธารณสุขจังหวัดอื่นๆ ทั้งอุบลราชธานี บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ซึ่งวันนี้มีการประเมินสถานการณ์รุนแรงตามจังหวัดชายแดน ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปิดสถานพยาบาล การเตรียมแผนฉุกเฉินรวมถึงคลังยาและคลังโลหิตสำรองในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น ในส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ขณะนี้มีโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงต้องปิดให้บริการแล้ว 2 แห่ง ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายบุคลากรและผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง นอกจากนี้กำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์ว่าอาจต้องมีการปิดเพิ่มอีกสองแห่งหรือไม่ ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือรพ.สต. ตามแนวชายแดน ขณะนี้แม้หลายแห่งปิดให้บริการแต่ก็ไม่กระทบกับประชาชน เพราะมีการปรับรูปแบบการให้บริการ .-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]

ชาวกัมพูชายังแห่กลับประเทศ รอข้ามแดนนับพันคน

จันทบุรี 28 ก.ค. – สถานการณ์อพยพชาวกัมพูชา เข้าสู่วันที่ 4 ยังมีแรงงานราว 1,000 คน รอข้ามพรมแดนแน่นเต็มหน้าด่านบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวร ตลาดบ้านแหลม ต.เทพนินิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ชาวกัมพูชายังคงทยอยกลับประเทศเป็นวันที่ 4 หลังเกิดยิงปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ 3 จังหวัดแนวชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือ โดยชาวกัมพูชาราว 1,000 คน พร้อมสัมภาระ กระจายอยู่บริเวณโดยรอบตลาดบ้านแหลม ทะลักไปจนถึงบริเวณหน้าด่าน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ที่ตกค้างหลังฝั่งไทยปิดด่านเวลา 15.00 น. วานนี้ (27 ก.ค.) อีกส่วนเป็นผู้ที่ทยอยเดินทางมารอกลับประเทศกันตลอดคืน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ตลอดจนการระเบียบการระบายชาวกัมพูชาให้เดินทางกลับประเทศด้วยความรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย

นายทุนบ่อนจับมือรัฐบาลเขมรสั่งคอลเซ็นเตอร์ ทำสงคราม IO

ทำเนียบรัฐบาล 28 ก.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยความมั่นคงรายงาน นายทุนบ่อนจับมือรัฐบาลเขมร สั่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับการหลอกลวงคนไทย มาทำสงคราม IO โจมตีไทยในโซเชียลมีเดีย กว่า 500 ล้านครั้งต่อวัน วอนคนไทยเป็นนักรบไซเบอร์สวนกลับได้ อย่าเคลิ้มตาม IO เขมร มาด่าไทยกันเอง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างไทย-กัมพูชา ฝ่ายความมั่นคงรายงานว่า พบการโจมตีทางไซเบอร์จากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจากประเทศกัมพูชามายังสื่อต่างๆ ในประเทศไทย เช่น เปิดเป็นบัญชีผู้ใช้งานปลอมเป็นคนไทยนับล้านบัญชี ทั้งในเฟซบุ๊ก IG และ x และเข้าไป กดรีพอร์ตเฟซบุ๊ก ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลไทย ด่าทอ กองทัพไทย และรัฐบาลเป็นจำนวนมาก และโจมตีด้วย DDos Attack ถึงกว่า 500 ล้านครั้ง ภายในเวลา 24 ชั่วโมง  ทั้งนี้พบว่า […]

“ผบช.ก.” สั่งเข้มใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังอพยพประชาชน

28 ก.ค. – “ผบช.ก.” สั่งเข้มรับมือวิกฤติชายแดนไทย-กัมพูชา ใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังอพยพประชาชน ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เสริมแนวหน้า เตือนอินฟลูเอ็นเซอร์ไลฟ์สด อย่ากระทบสิทธิมนุษยชน ชี้ทั่วโลกจับตาภาพลักษณ์ไทย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดวิกฤติความตึงเครียด ว่า ได้กำชับกำลังตำรวจในสังกัดให้ปฏิบัติตาม “แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” โดยเน้นการสนับสนุนด้านมนุษยธรรม ทั้งในด้านการอพยพประชาชน การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ และการดูแลความปลอดภัยร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ผบช.ก. ระบุว่า ได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงเป็นกำลังหลักในการเข้าดูแล เนื่องจากมีหน่วยตั้งอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ขณะเดียวกันได้ประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อรับทราบความต้องการช่วยเหลือเพิ่มเติมในพื้นที่ โดยในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.) จะมีการส่งขบวนรถบรรทุกสิ่งของจำเป็น อาทิ น้ำดื่ม อาหาร และเครื่องใช้อุปโภคบริโภค เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านมนุษยธรรมตามคำร้องขอของ พม. นอกจากนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางร่วมบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย เพื่อเสริมกำลังด้านการแพทย์แก่ผู้ปฏิบัติงานในแนวหน้า ส่วนภัยพิบัติจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ผบช.ก. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ตำรวจน้ำลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกในการสัญจร และดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างใกล้ชิด สำหรับกรณีที่มีอินฟลูเอ็นเซอร์จำนวนหนึ่งเดินทางไปยังพื้นที่ชายแดน และมีการถ่ายทอดสด (ไลฟ์สด) ขณะเกิดการปะทะนั้น […]

ไทยยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี

กระทรวงการต่างประเทศ 28 ก.ค.- กต. ยืนยัน ไทยยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี ชี้ข่าวกองกำลังไทยใช้อาวุธเคมีเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และหวังทำลายสถานะไทย ต่อประชาคมโลก นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีที่มีรายงานข่าวกล่าวหาว่ากองกำลังของไทยใช้อาวุธเคมี ว่า ไทยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ และยืนยันการยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) และยืนหยัดในท่าทีในการประณามการใช้อาวุธเคมีไม่ว่าจะเป็นที่ใด โดยผู้ใด หรือภายใต้สถานการณ์ใดก็ตาม นอกจากนี้ ประเทศไทยยังยึดมั่นต่อตราสารระหว่างประเทศด้านการลดอาวุธและการไม่แพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงทั้งปวง โดยนับตั้งแต่ไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมีเมื่อปี 2546 ไทยได้แสดงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อการเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ด้วยการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons: OPCW) รวมทั้งกับรัฐภาคีอนุสัญญาอื่น ๆ ดังนั้นข้อกล่าวหาดังกล่าวขาดมูลความจริง และสะท้อนการบิดเบือนข้อมูลอย่างเป็นระบบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในพื้นที่ และมีเจตนาที่จะบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือและสถานะของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ.-312-สำนักข่าวไทย

“ธนกร” ฝากความหวังรัฐบาลบินมาเลย์ ถกกัมพูชา

พรรครวมไทยสร้างชาติ 28 ก.ค.- “ธนกร” ฝากความหวังรัฐบาลบินมาเลเซีย ถกกัมพูชา ลั่นเขมรต้องหยุดยิงก่อนไม่มีข้อแม้ ยันยึดแผนที่ 1 : 50,000 ติง “ฮุน มาเนต” ปากบอกหยุดยิงแต่สั่งโจมตีพลเรือนไทยไม่ยั้ง หนุนกองทัพไทยตอบโต้ตามยุทธศาสตร์เต็มที่ปกป้องอธิปไตย นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรค และ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ในวันนี้ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีจะนำคณะผู้แทนรัฐบาลไทย บินไปเจรจากับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มาเลเซียตามคำเชิญของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน เพื่อร่วมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชานั้น ตนและคนไทยทั้งประเทศฝากความหวัง ไว้กับคณะรัฐบาล ที่จะไปหารือเจรจาโดยขอให้รัฐบาลไทย ย้ำจุดยืนให้ชัด ว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายก่อเหตุรุนแรง ทำผิดข้อตกลงในสัญญาหลายฉบับทั้งเรื่องการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการโจมตีเป้าหมายพลเรือนจนทำให้ผู้บริสุทธิ์เด็ก คนชรา และเจ้าหน้าที่เสียชีวิตหลายราย การยิงเป้าหมายที่โรงพยาบาลปั๊มน้ำมันและศูนย์พักพิงถือเป็นการกระทำที่เป็นอาชญากรรมสงครามร้ายแรง เป็นสิ่งที่ทั่วโลกได้ร่วมกันประณาม และเรียกร้องให้กัมพูชาออกมารับผิดชอบ พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลไทย ยืนยันกับประธานอาเซียนเรื่องการใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ซึ่งมีความชัดเจนกว่ากัมพูชา ตามที่กองทัพไทยได้ยึดมาตราส่วนแผนที่นี้มาตลอด และในประเทศอาเซียนก็ยึดมาตราส่วนแผนที่ดังกล่าวด้วย นอกจากนี้นายธนกร […]

ก.พลังงาน – กฟผ. ลงพื้นที่ให้กำลังใจ หนุนเสบียงผู้ได้รับผลกระทบเหตุชายแดนไทย–กัมพูชา

28 ก.ค. – กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กฟผ. ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และ จ.สุรินทร์ ให้กำลังใจ สนับสนุนอาหารปรุงสุกและน้ำดื่มกว่า 2,500 ขวด พร้อมเคียงข้างคนไทย ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา วานนี้ (27 กรกฎาคม 2568) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายวิภู พิวัฒน์ รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้บริหารกระทรวงพลังงาน และ กฟผ. ลงพื้นที่สร้างขวัญกำลังใจ และเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสนับสนุนอาหารปรุงสุก ขนมสำหรับเด็ก และน้ำดื่มจำนวน 1,500 ขวด แก่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ผู้ประสบภัยจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมสนับสนุนวัตถุดิบประกอบอาหาร ขนมสำหรับเด็ก และน้ำดื่มจำนวน 1,000 ขวด แก่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ผู้ประสบภัยจังหวัดสุรินทร์นอกจากนี้ กฟผ. ได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและยานพาหนะ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที และพร้อมเคียงข้างคนไทยทุกวิกฤติ.-517-สำนักข่าวไทย

“พิธา” แนะลดระดับความตึงเครียด-เจรจากัน

28 ก.ค. – “พิธา” โพสต์เปรียบเทียบเศรษฐกิจ “ไทย-กัมพูชา” เตือนรัฐบาลอาจจะเลือก “สงคราม” แต่คนจ่ายราคาคือภาคเอกชน-แรงงาน แนะลดระดับความตึงเครียด-เจรจากัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านแอปฯ ลิ้งค์อิน เปรียบเทียบเศรษฐกิจของกัมพูชาและประเทศไทย ใจความสำคัญว่า กัมพูชาส่งออกมูลค่า 12,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ไปยังสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 27 ของ GDP ไทยส่งออกมูลค่า 55,100 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นประมาณร้อยละ 10 ของ GDP กัมพูชามีความเสี่ยงมากกว่าไทยในเรื่องการเจรจาภาษีกับสหรัฐ รัฐบาลอาจเลือกที่จะทำสงคราม แต่คนจ่ายราคาคือภาคเอกชนและแรงงาน ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเปราะบาง เรายอมเสี่ยงกับการสูญเสียเศรษฐกิจเกือบ 1 ใน 4 โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรจริงหรือ นี่คือสงครามที่เราไม่อาจยอมรับได้ และไม่ควรถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง ขอให้เราเลือกสันติภาพด้วยไม่ใช่เพียงเพราะเราถูกบังคับ พร้อมแนะนำให้ลดระดับความตึงเครียดและเจรจากัน.-312-สำนักข่าวไทย

NT พร้อมสนับสนุนการสื่อสารในพื้นที่พักพิงและตามแนวชายแดน

กรุงเทพฯ 28 ก.ค. – NT พร้อมสนับสนุนการสื่อสารในพื้นที่พักพิงและตามแนวชายแดน เปิดสายด่วนโทรฟรีถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ 24 ชม. และจัดส่งถุงยังชีพ “พลังน้ำใจ NT” พร้อมเดินหน้าให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT รัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ตามที่เกิดสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา NT ขอยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องคนไทยและเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานในพื้นที่ โดยส่งต่อกำลังใจและร่วมสนับสนุนระบบสื่อสารในครั้งนี้ให้ก้าวผ่านสถานการณ์ดังกล่าว เราเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังโครงข่าย ดูแลระบบสื่อสาร และให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบให้สามารถติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลา โดย NT ได้ส่งทีมผู้บริหารและพนักงาน พร้อมจัดเตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค และน้ำดื่ม มอบให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงซึ่งรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อเสริมขวัญกำลังใจแก่กำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเข้มแข็ง นอกจากนี้ ได้เสริมความพร้อมด้านระบบการสื่อสารในพื้นที่พักพิงโดยสนับสนุนด้านเทคโนโลยีพร้อมติดตั้งระบบสื่อสารและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ศูนย์พักพิง ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) ที่รองรับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน ให้สามารถใช้งานระบบสารสนเทศทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ประสบภัยกับครอบครัว NT เปิดสายด่วนโทรฟรีถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ ตลอด […]

สพฐ. ยันไม่บังคับครูในศูนย์พักพิงปฏิบัติงาน

28 ก.ค. – สพฐ. ห่วงใยครูในพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ยืนยันไม่บังคับปฏิบัติงาน หากกระทบความปลอดภัย-เกินกำลัง ตามที่มีการแชร์สื่อสังคมออนไลน์ กรณีการจัดครูและบุคลากรไปสนับสนุนการดูแลนักเรียนในศูนย์พักพิงชั่วคราวในบางพื้นที่ ซึ่งมีข้อห่วงใยเกี่ยวกับภาระงานและสถานะของครูที่ต้องอพยพเช่นเดียวกันนั้น ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ยืนยันว่า สพฐ. ให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาทุกคน และไม่มีนโยบายให้ครูไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ที่อาจไม่ปลอดภัยหรืออยู่นอกเหนือความพร้อมของตนเอง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนเช่นนี้ ทั้งนี้ สพฐ. เน้นย้ำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ให้ใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบ และยึดหลัก “ความสมัครใจและความปลอดภัย” หากมีการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลนักเรียนในศูนย์พักพิง เพื่อไม่ให้เกิดภาระเกินสมควรต่อครูและบุคลากรในช่วงเวลานี้ พร้อมกำชับตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาในพื้นที่เสี่ยง ใช้ดุลยพินิจในการปิดการเรียนการสอนได้ทันที โดยประเมินจากสถานการณ์ในพื้นที่ และไม่กระทำการใดที่ให้ครูและบุคลากรฯ เกิดความเสียหายหรือไม่ปลอดภัย.-416-สำนักข่าวไทย

พปชร. เรียกร้องทีมเจรจาใช้แผนที่ 1 : 50,000

พรรคพลังประชารัฐ 28 ก.ค.- พปชร. เรียกร้องทีมเจรจาใช้แผนที่ 1 : 50,000 เพื่อรักษาดินแดนไทยทุกตารางนิ้ว อย่าลืม “อธิปไตยต้องมาก่อนทุกแรงกดดัน” วันที่ 28 ก.ค.68 นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แสดงจุดยืนชัดเจนต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา เรียกร้องให้รัฐบาลปกป้องผลประโยชน์ของชาติอย่างถึงที่สุด โดยย้ำว่าควร ยึดแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ซึ่งมีความชัดเจนกว่าแผนที่ที่กัมพูชาใช้ พร้อมเสนอให้ ยกเลิก MOU ฉบับที่ 43 และ 44 ซึ่งไม่เอื้อต่อไทย นายสุรเดชระบุว่า พื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ปราสาทเขาพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม และแนวชายแดนเสียมราฐ–พระตะบอง มีหลักฐานทางภูมิศาสตร์ที่ชัดเจนว่าเคยอยู่ในเขตแดนไทย จึงต้องปกป้องด้วยจุดยืนที่หนักแน่น ไม่ประนีประนอมในเรื่องอธิปไตย รอง หน.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวต่อว่า ตนกังวลต่อท่าทีของรัฐบาลในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ โดยเฉพาะกรณีลดภาษีนำเข้า ซึ่งไม่ควรถูกใช้เป็นเงื่อนไขในช่วงที่ประเทศเผชิญแรงกดดันด้านเขตแดน นายสุรเดชเสนอให้ เลื่อนเส้นตายการเจรจาทางการค้าออกไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อแสดงให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญกับอธิปไตยเหนือผลประโยชน์ระยะสั้น สำหรับภารกิจของทีมเจรจาที่เดินทางไปมาเลเซีย พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนแนวทางสันติวิธี แต่ขอเน้นว่า ทุกกระบวนการต้องตั้งอยู่บนหลักอธิปไตยของไทยเป็นหลัก “พรรคพลังประชารัฐขอยืนเคียงข้างประชาชนในการปกป้องแผ่นดินไทย […]

1 2 3 4 5 6 10
...