จีนลงโทษเจ้าหน้าที่เมืองซีอานหละหลวมมาตรการคุมโควิด

ปักกิ่ง 24 ธ.ค. – จีนสั่งลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนหลายสิบคนเกี่ยวกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่เมืองซีอานในมณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่เพิ่งประกาศล็อกดาวน์ไปเมื่อวันพฤหัสบดี คณะกรรมการตรวจสอบวินัยส่วนกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า ได้ลงโทษเจ้าหน้าที่ของพรรคคอมมิวนิสต์ 26 คนในความผิดฐานขาดความเข้มงวดในการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคโควิด จากการสืบสวนพบว่า เจ้าหน้าที่ในเมืองซีอานหละหลวมในการตรวจหาเชื้อโควิดและขาดการประสานงานกันเพื่อติดตามผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อในเมืองดังกล่าว ขณะนี้ ทางการจีนกำลังเร่งปราบปรามปัญหาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐในการควบคุมโรคระบาด เช่น การละเลยหน้าที่ การเพิกเฉย การโยนความผิด และการรับมือด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของทางการจีนที่ล้มเหลวในการควบคุมการระบาดของโรคโควิดในท้องที่มักจะถูกไล่ออกหรือถูกตำหนิ ทางการท้องถิ่นเมืองซีอานแจ้งวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 49 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 250 คนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่สื่อของทางการจีนรายงานว่า การระบาดในเมืองซีอานได้แพร่กระจายไปยังอีก 5 เมือง ซึ่งรวมถึงกรุงปักกิ่ง จนทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าเชื้อโควิดอาจแพร่ระบาดไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ส่วนประชาชนในเมืองซีอานที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์จะได้รับอนุญาตให้มีตัวแทนเพียงหนึ่งคนต่อครอบครัวออกนอกบ้านได้ทุก ๆ สองวันเพื่อซื้อของใช้จำเป็นเท่านั้น ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 100,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นยังไม่เข้มงวดมาตรการแม้พบโอไมครอนในประเทศ

โตเกียว 23 ธ.ค.- ญี่ปุ่นจะยังไม่เข้มงวดมาตรการจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แม้พบการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนภายในประเทศเป็นครั้งแรก นายฮิโรกาสึ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแถลงวันนี้ว่า ณ เวลานี้รัฐบาลยังไม่คิดเรื่องเปลี่ยนแปลงการผ่อนคลายมาตรการจำกัดกิจกรรมของประชาชน แต่ได้เตรียมตัวตอบสนองอย่างรวดเร็ว ด้วยการประสานงานกับทางการท้องถิ่นและผู้เชี่ยวชาญให้ทบทวนเรื่องสถานการณ์การระบาด ด้านนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะกล่าวว่า ในระหว่างที่ยังมีความไม่แน่ชัดเรื่องไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน รัฐบาลได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับการระบาดแล้ว โดยได้ใช้ช่วงเวลาที่เข้มงวดพรมแดน ห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน มาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กระบวนการป้องกัน ตรวจหาเชื้อ และรักษาแต่เนิ่น ๆ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มจำนวนเตียงในโรงพยาบาล ห้องพักกักโรคในโรงแรม และการประสานงานระหว่างหน่วยงานทางการแพทย์ ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน เป็นชายที่เดินทางมาจากนามิเบีย และแจ้งเมื่อวันพุธว่า พบการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนภายในประเทศครั้งแรกที่จังหวัดโอซากา เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน 3 คนที่ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ และไม่ทราบที่มาของการติดเชื้อ ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วหลังจากแสดงอาการในช่วงวันเสาร์จนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้แล้ว 160 คน.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษพบผู้ป่วยโควิดรายวันทะลุ 100,000 คนครั้งแรก

ลอนดอน 23 ธ.ค. – อังกฤษพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ทะลุ 100,000 คนเป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น และมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายวันทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 8 นับตั้งแต่เกิดการระบาดระลอกใหญ่เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานอ้างข้อมูลของทางการอังกฤษว่า อังกฤษพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 106,122 คนเมื่อวันพุธ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่อังกฤษเริ่มตรวจหาเชื้อโควิดเป็นวงกว้างในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนปีก่อน และมีผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 8,008 คนนับถึงวันอังคาร ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน แต่ยังคงน้อยกว่าในช่วงฤดูหนาวปีก่อนที่มีการระบาดรุนแรง นอกจากนี้ อังกฤษยังพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด 140 คนในรอบ 28 วันที่ผ่านมา ทางการอังกฤษกำลังเร่งฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามให้แก่ประชาชน โดยเมื่อวันอังคารฉีดวัคซีนโควิดเข็มสามได้ 968,665 โดส และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาฉีดวัคซีนเข็มสามได้ทั้งหมด 6.1 ล้านโดส บีบีซียังระบุว่า อังกฤษมียอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทั้งหมด 18 ราย และมีผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 195 คน ขณะนี้ อังกฤษมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 11.6 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 147,000 […]

ธุรกิจเกาหลีใต้ถูกกระทบหลังทางการใช้เคอร์ฟิวอีกครั้ง

โซล 21 ธ.ค.- ธุรกิจในเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบ เมื่อมาตรการเคอร์ฟิวที่กำหนดให้ร้านค้าต้องปิดหลังเวลา 21:00 น.มีผลบังคับใช้อีกครั้ง ตามนโยบายเข้มงวดเพื่อหยุดยั้งไม่ให้มีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้น เจ้าของร้านปิ้งย่างเผยว่า ได้จ้างพนักงานเพิ่มหลังจากทางการผ่อนคลายมาตรการเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน ตามนโยบายมีชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด และได้เตรียมวัตถุดิบจำนวนมากเพราะคาดว่าจะมีลูกค้าแน่นช่วงสิ้นปี แต่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนเงินเยียวยาที่รัฐบาลจะจ่ายให้ร้านขนาดเล็กรายละ 1 ล้านวอน (ราว 28,265 บาท) นั้น ไม่พอที่จะจ่ายเงินเดือนให้แก่พนักงานพาร์ตไทม์ 1 คนเสียด้วยซ้ำ สมาคมธุรกิจขนาดเล็กและสมาคมเจ้าของร้านอาหารในเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์คัดค้านการใช้มาตรการเคอร์ฟิวหลายครั้ง และเรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาการขาดทุน บางสมาคมประกาศจะชุมนุมประท้วงในสัปดาห์นี้ สัปดาห์ที่แล้วทางการเกาหลีใต้ประกาศใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมชุดใหญ่ไปจนถึงวันที่ 2 มกราคม ด้วยการห้ามรวมกลุ่มเกิน 4 คน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และบาร์ต้องปิดหลังเวลา 21:00 น. ลูกค้าร้านปิ้งย่างเผยขณะรีบสวมแจ็กเก็ตและหน้ากากอนามัยเพราะใกล้เวลาเคอร์ฟิวว่า เสียใจที่มีมาตรการนี้ในช่วงใกล้สิ้นปี ซึ่งเป็นช่วงวลาที่จะได้พบปะสังสรรค์กับญาติมิตรอย่างเต็มที่ ขณะที่ลูกค้าบางคนมองว่า หากไม่ปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล จะเกิดความเสียหายในวงกว้างมากกว่านี้.-สำนักข่าวไทย

ชาวเกาหลีใต้ 7 ใน 10 หนุนเข้มงวดระยะห่างสกัดโควิด

โซล 20 ธ.ค.- ผลสำรวจความเห็นชาวเกาหลีใต้พบว่า ผู้ตอบร้อยละ 70 สนับสนุนให้เข้มงวดมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อยับยั้งยอดผู้ติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไม่ให้เพิ่มขึ้น เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า กลุ่มภาคประชาสังคมหลายกลุ่มได้สอบถามความเห็นผู้ใหญ่ชาวเกาหลีใต้ทั่วประเทศจำนวน 1,000 คนระหว่างวันที่ 14-18 ธันวาคม พบว่า ร้อยละ 71.3 สนับสนุนการที่รัฐบาลตัดสินใจระงับนโยบาย “มีชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด” เป็นเวลา 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา และนำมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวดกลับมาใช้อีกครั้ง ด้วยการจำกัดการรวมกลุ่มไม่ให้เกิน 4 คน และห้ามร้านอาหารรวมทั้งร้านกาแฟเปิดเกิน 21:00 น. อย่างไรก็ดี ผลการสำรวจลักษณะเดียวกันเมื่อเดือนเมษายนปีนี้พบว่า ผู้ตอบมากถึงร้อยละ 94.5 เห็นว่า ต้องเข้มงวดมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ตัวเลขสนับสนุนที่ลดลงสะท้อนว่า ประชาชนเริ่มเหนื่อยล้ากับสถานการณ์การระบาดที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปีแล้ว.-สำนักข่าวไทย

“มิสเวิลด์ 2021” เลื่อนจัดรอบตัดสินเพราะโควิดระบาด

ซานฮวน 17 ธ.ค. – คณะผู้จัดการประกวดมิสเวิลด์ 2021 ประกาศเลื่อนจัดประกวดรอบตัดสินที่มีกำหนดจัดขึ้นที่เปอร์โตริโกในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นอย่างกะทันหัน หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกวด ซึ่งรวมถึงตัวแทนสาวงาม 23 คนจากทั้งหมด 97 คน คณะผู้จัดการประกวดมิสเวิลด์ 2021 ระบุในแถลงการณ์ก่อนถึงกำหนดจัดประกวดรอบตัดสินเพียงไม่กี่ชั่วโมงว่า กองประกวดตัดสินใจเลื่อนจัดการประกวดรอบตัดสินที่ได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เนื่องจากเหตุผลด้านสุขภาพและความปลอดภัยของผู้เข้าประกวด ทีมงาน และประชาชน ทั้งยังระบุว่า จะจัดประกวดรอบตัดสินขึ้นใหม่ภายใน 3 เดือนข้างหน้า ในขณะเดียวกัน กองประกวดมิสเวิลด์ของมาเลเซียยืนยันว่า ลาวันยา ศิวะชี มิสเวิลด์มาเลเซีย มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกและกำลังแยกกักตัวรอดูอาการ แต่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ขณะที่ปริซิเลีย คาร์ลา ยูเลส มิสเวิลด์อินโดนีเซีย ก็น่าจะมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกเช่นกัน เนื่องจากเธอระบุผ่านอินสตราแกรมว่า กำลังเข้ารับการรักษาตัวและรู้สึกดีขึ้นทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ นักระบาดวิทยาของหน่วยงานสาธารณสุขเปอร์โตริโกแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 38 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกวดมิสเวิลด์ 2021 ในจำนวนนี้ มีทีมงานที่ติดเชื้อโควิด 15 คน และมีนางงาม 23 คน โดยที่คณะผู้จัดการประกวดดังกล่าวเป็นผู้ตัดสินใจเลื่อนจัดประกวดรอบตัดสินด้วยตัวเอง.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนรายแรกในประเทศ

จาการ์ตา 16 ธ.ค. – อินโดนีเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในประเทศเป็นพนักงานของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตา ซึ่งไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซีย เผยวันนี้ว่า อินโดนีเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในประเทศเมื่อช่วงค่ำวันพุุธ เป็นพนักงานของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตา ซึ่งไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศมาก่อนและยืนยันว่ายังไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวในชุมชน นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังพบผู้ป่วยที่คาดว่าจะติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอีก 5 คน ในจำนวนนี้ มีชาวอินโดนีเซีย 2 คนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐและอังกฤษ และมีชาวจีน 3 คนที่กำลังกักตัวอยู่ในจังหวัดสุลาเวสีเหนือ ขณะนี้ ทางการอินโดนีเซียกำลังรอผลตรวจการจัดลำดับทางพันธุกรรมเพื่อยืนยันว่าผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่ ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกเผยว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายนกำลังแพร่ระบาดในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ประเทศไทย และฟิลิปปินส์ ขณะนี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 4.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 143,900 คน.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ทะลุ 7,000 คนครั้งแรก

โซล 8 ธ.ค. – เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ทะลุ 7,000 คนเป็นครั้งแรก ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัว เนื่องจากยอดผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยอาการหนักที่เพิ่มสูงขึ้น สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลี หรือเคดีซีเอ รายงานวันนี้ว่า เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 7,175 คน มีผู้เสียชีวิต 63 คน และมีผู้ป่วยอาการหนักที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 840 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 489,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,000 คน ขณะนี้ เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดสให้ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเกือบร้อยละ 92 จากประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน และพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทั้งหมด 38 คน ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีคิม บู-คยอม ของเกาหลีใต้ กล่าวในที่ประชุมรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่กำลังรักษาตัวเองที่บ้าน และปรับปรุงระบบการขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาลในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการหนัก เขายังเรียกร้องให้ผู้สูงอายุเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เนื่องจากพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่กว่าร้อยละ 35 ในกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป […]

อนามัยโลกเตือนเอเชีย-แปซิฟิก เตรียมรับมือโอไมครอนระบาด

มะนิลา 3 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การอนามัยโลกเตือนให้ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เตรียมรับมือกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขและการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดสให้แก่ประชาชน นพ. ทาเคชิ คาซาอิ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก แถลงวันนี้ว่า การใช้มาตรการควบคุมพรมแดนอาจช่วยซื้อเวลาเพื่อชะลอการระบาดได้ แต่ประเทศและชุมชนต่าง ๆ ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้น และไม่ควรพึ่งมาตรการควบคุมพรมแดนเพียงอย่างเดียว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเตรียมรับมือกับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่สามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว ขณะนี้ ข้อมูลที่มีอยู่ชี้ว่าประเทศต่าง ๆ ไม่ควรเปลี่ยนแนวทางควบคุมโรคโควิดที่ใช้กันอยู่ ทั้งยังระบุว่า ประเทศต่าง ๆ ต้องใช้บทเรียนที่ได้จากการรับมือกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา และเรียกร้องให้เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดสในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูง รวมถึงคงการใช้มาตรการป้องกันต่าง ๆ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อหาคำตอบว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสามารถแพร่ระบาดได้อย่างไร และทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงหรือไม่ หลังแอฟริกาใต้เผยว่าพบเชื้อดังกล่าวเป็นที่แรกของโลกเมื่อเดือนก่อนและองค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล ทั้งนี้ มีหลายสิบประเทศทั่วโลกที่รายงานว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนก่อนที่ประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชียเริ่มพบผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวในช่วงสัปดาห์นี้ ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย จนทำให้รัฐบาลของแต่ละประเทศต้องประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำเปลี่ยนมาตรวจ RT-PCR นักท่องเที่ยวเข้าไทยตั้งแต่วันนี้

นายกฯ เผย ครม.มีมติให้ตรวจ RT-PCR แบบเดิม แทน ATK นักท่องเที่ยวเข้าไทย พร้อมรับทราบเลื่อนงานเลี้ยงพรรคร่วมฯ เหตุห่วงโควิดระบาด

สกอตแลนด์เจอคนติดโอไมครอนทั้งที่ไม่ได้เดินทาง

เอดินเบอระ 29 พ.ย.- สกอตแลนด์แจ้งพบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 6 รายในวันนี้ บางรายไม่มีประวัติการเดินทาง จุดกระแสวิตกว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้อาจแพร่อยู่ในสกอตแลนด์แล้ว   นายจอห์น สวินนีย์ รองนายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์เผยกับสถานีวิทยุของบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ในวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 6 คน ในจำนวนนี้บางคนไม่มีประวัติการเดินทางหรือเกี่ยวข้องกับการเดินทางมาจากประเทศทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา จึงมีความเป็นไปได้ว่าเชื้อกำลังแพร่อยู่ในชุมชนแล้ว สหราชอาณาจักรซึ่งประกอบด้วยอังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือได้จำกัดการเดินทางไปยังตอนใต้ของทวีปแอฟริกาทั้งหมดแล้ว หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนประเทศแอฟริกาใต้พบสายพันธุ์โอไมครอนเป็นแห่งแรก นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษออกมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในร้านค้าและรถโดยสารสาธารณะ รวมทั้งขอให้คณะกรรมการร่วมเรื่องการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิต้านทานเร่งพิจารณาเรื่องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 40 ปี และหาทางลดระยะห่างระหว่างการฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็มกระตุ้นภูมิ.-สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเตือนทั่วโลกเสี่ยงโควิดโอไมครอนสูงมาก

เจนีวา 29 พ.ย. – องค์การอนามัยโลกระบุวันนี้ว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก และทำให้เกิดความเสี่ยงสูงมากทั่วโลก อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดการระบาดรุนแรงในบางประเทศ องค์การอนามัยโลกประกาศคำแนะนำทางเทคนิคให้แก่ประเทศสมาชิก 194 ประเทศทั่วโลก โดยเรียกร้องให้แต่ละประเทศเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้แก่ประชาชนที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูง และสร้างความมั่นใจว่ายังคงใช้แผนแนวทางป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อปกป้องบริการสาธารณสุขที่จำเป็น ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนมีการกลายพันธุ์ของโปรตีนบนส่วนหนามของไวรัสเป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวิถีของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความเสี่ยงของเชื้อดังกล่าวทั่วโลกในภาพรวมจึงได้รับการประเมินให้อยู่ในระดับเสี่ยงสูงมาก องค์การอนามัยโลกยังระบุว่า ทั่วโลกจำเป็นต้องศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนให้มากขึ้นเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการที่เชื้อจะหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนและการติดเชื้อในครั้งก่อน ๆ โดยคาดว่าจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์หน้า ขณะนี้ เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่ระบาดไปยังหลายประเทศทั่วโลกแล้ว เช่น อังกฤษ เยอรมนี ออสเตรเลีย และอิสราเอล. -สำนักข่าวไทย

1 6 7 8 9 10 30
...