โครงสร้างพื้นฐาน

วอชิงตัน 9 พ.ค.- ผู้บริหารบริษัทด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) ชั้นนำในสหรัฐระบุว่า แม้ว่าสหรัฐยังคงเป็นผู้นำในการแข่งขันเอไอ แต่สหรัฐจะต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและเพิ่มการส่งออกชิปเอไอ จึงจะสามารถรักษาการนำหน้าจีนได้ต่อไป ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัทเอไอรายใหญ่ เช่น นายแซม อัลต์แมน ซีอีโอโอเพนเอไอ (OpenAI) ผู้พัฒนาแชทจีพีที (ChatGPT) นางลิซา ซู ซีอีโอเอเอ็มดี (AMD) ผู้ผลิตชิปเอไอ ให้การต่อคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ในวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งมี สว.เท็ด ครูซ รัฐเท็กซัสจากพรรครีพับลิกันเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ นายอัลต์แมนกล่าวว่า เขาเชื่อว่านวัตกรรมของสหรัฐจะทำให้ความก้าวหน้าทางสังคมที่เกิดจากเอไอมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ปี แต่การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานยังคงเป็นเรื่องจำเป็น ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องศูนย์ข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์ที่สามารถเก็บเซิร์ฟเวอร์ได้มากขึ้น  ไปจนถึงสถานีไฟฟ้าที่ป้อนไฟฟ้าให้แก่เครื่องคำนวณใช้พลังงานสูงที่จำเป็นต่อการทำงานของเอไอ คณะกรรมาธิการฯ กำลังหาทางตัดลดอุปสรรคด้านกฎระเบียบที่มีต่อเอไอของสหรัฐ หลังจากเมื่อปีที่แล้วดีปซีก  (DeepSeek) บริษัทเอไอของจีนสร้างแรงสั่นสะเทือนให้แก่วงการเอไอทั่วโลก ด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชันผู้ช่วยเอไอคุณภาพสูงราคาจับต้องได้ ทำให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกนโยบายที่เกื้อหนุนธุรกิจให้มากขึ้น เช่น ผ่อนคลายมาตรการจำกัดการส่งออกชิปเอไอ โดยให้เหตุผลว่า การส่งเสริมให้เอไอที่สะท้อนถึงคุณค่าทางประชาธิปไตยได้รับการใช้งานอย่างกว้างขวางทั่วโลก ถือเป็นผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐ รัฐบาลสหรัฐสมัยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ออกมาตรการชุดใหม่ หวังปิดกั้นจีนไม่ให้เข้าถึงชิปและศักยภาพเอไอของสหรัฐ เนื่องจากเกรงว่าจีนจะนำไปใช้เสริมสร้างศักยภาพทางทหาร รัฐบาลทรัมป์สานต่อแนวทางนี้ ด้วยการออกข้อกำหนดใหม่เรื่องการออกใบอนุญาตให้แก่การส่งออกชิปเอไอที่ผลิตโดยเอ็นวิเดีย (Nvidia) และเอเอ็มดี ไปยังจีน เนื่องจากมีบริษัทหาทางหลบเลี่ยงมาตรการจำกัดการส่งออกที่บังคับใช้ก่อนหน้านี้ […]

การหารือกันทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐและรัสเซีย เกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน ได้ข้อสรุปว่า รัสเซียตกลงยุติโจมตีโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานในยูเครน 30 วัน

พนมเปญ 17 มี.ค.- รอยเตอร์ตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงการคลังกัมพูชาพบว่า ปี 2567 ที่ผ่านมาจีนไม่ได้อนุมัติสินเชื่อใหม่ให้แก่กัมพูชา หากแนวโน้มเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจกระทบต่อการดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานในกัมพูชา ข้อมูลของทางการกัมพูชาชี้ว่า จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา โดยมีสินเชื่อที่กัมพูชาค้างชำระจีนอยู่ราว 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 134,400 ล้านบาท) คิดเป็นกว่า 1 ใน 3 ของหนี้สินทั้งประเทศ และคิดเป็น 1 ใน 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของกัมพูชา สินเชื่อของจีนส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในโครงการสาธารณูปโภค เช่น ท่าอากาศยาน ถนน ปี 2567 จีนไม่ได้อนุมัติสินเชื่อใหม่ให้แก่กัมพูชา  หลังจากที่อนุมัติสินเชื่อใหม่จำนวน 302 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10,147 ล้านบาท) และ 567 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 19,050 ล้านบาท) ให้ในปี 2566 และ 2565 ตามลำดับ เจ้าหน้าที่จีนเคยกล่าวว่า ช่วงหลายปีมานี้รัฐบาลจีนลดการลงทุนต่างประเทศ และบางโครงการในกัมพูชาที่จีนสนับสนุนเป็นโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จ กัมพูชาประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า […]

พนมเปญ 18 ธ.ค.- รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า จีนไม่ได้อนุมัติสินเชื่อใหม่ให้แก่กัมพูชาเลยตลอด 9 เดือนแรกของปีนี้ ทั้งที่เคยเป็นประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในช่วงหลายปีมานี้ รอยเตอร์อ้างข้อมูลของกระทรวงการคลังกัมพูชาว่า จีนครองสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของหนี้ค้างชำระทั้งหมด 11,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 397,068 ล้านบาท) ของกัมพูชา และไม่ได้อนุมัติสินเชื่อใหม่เลยในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2567 หลังจากที่อนุมัติเกือบ 212 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,257 ล้านบาท) ในช่วงเดียวกันของปี 2566 ส่งสัญญาณว่า จีนอาจเพิ่มความระมัดระวังเรื่องการลงทุนในกัมพูชา หลังจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานล้มเหลวหลายโครงการติดต่อกัน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนไม่ตอบข้อถามของรอยเตอร์ในเรื่องนี้ แต่แถลงเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมว่า จีนและกัมพูชาเป็นมิตรที่เหนียวแน่น จีนจะกระชับความร่วมมือกับกัมพูชาและสนับสนุนกัมพูชาในการส่งเสริมการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ขณะที่โฆษกกระทรวงการคลังกัมพูชาไม่ตอบข้อถามในเรื่องนี้เช่นกัน แต่โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ว่า ข่าวเรื่องจีนหยุดให้สินเชื่อกัมพูชาเป็นเรื่องน่าขำ อย่างไรก็ดี กัมพูชายังคงได้รับสินเชื่อจากเจ้าหนี้รายอื่นรวม 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34,230 ล้านบาท) ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ โดยมีธนาคารโลกเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด 564 ล้านดอลลาร์สหรัฐ […]

โซล 15 ต.ค.- กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และคมนาคมของเกาหลีใต้จะส่งคณะเดินทางมายังฟิลิปปินส์และไทย เพื่อสำรวจลู่ทางเรื่องความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า คณะที่นำโดยนายจิน ฮยอน-ฮวาน รัฐมนตรีช่วยคนที่ 1 ของกระทรวงฯ จะเริ่มการเยือนเป็นเวลา 4 วันตั้งแต่วันนี้ เพื่อพบกับกระทรวงที่ดินและกระทรวงคมนาคมของฟิลิปปินส์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี (ADB) เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ส่วนในการเยือนไทย คณะของเกาหลีใต้จะพบหารือกับเจ้าหน้าที่ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อหารือในรายละเอียดเรื่องโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมทวิภาคีในไทย และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมโต๊ะกลมกับนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ที่อยู่ในไทย.-814.-สำนักข่าวไทย

เตหะราน 8 ต.ค.- นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านเตือนอิสราเอลไม่ให้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานของอิหร่าน เพราะจะถูกแก้แค้นสถานหนัก นายอารักชีแถลงข่าวโดยมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ในวันนี้ว่า ปฏิบัติการซาเด็กพรอมมิสครั้งที่ 1 และครั้ง 2 ที่อิหร่านโจมตีอิสราเอลโดยตรงเมื่อเดือนเมษายนและตุลาคมปีนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและอำนาจของกองทัพแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ดังนั้นหากศัตรูกระทำการผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ก็จะถูกตอบโต้รุนแรงมากยิ่งไปกว่านั้นอีก เขาได้ส่งสารชัดเจนระหว่างการเยือนเลบานอนและซีเรียแล้วว่า อิหร่านจะเดินหน้าสนับสนุนการต่อต้านอิสราเอลต่อไป รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านเตือนอิสราเอลว่า อย่าคิดทดสอบความมุ่งมั่นของอิหร่าน อิหร่านได้ติดตามความเคลื่อนไหวของอิสราเอลอย่างใกล้ชิดและศึกษาการโจมตีอย่างรอบคอบ ดังนั้นหากอิสราเอลโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของอิหร่านก็จะถูกตอบโต้อย่างหนักแน่นอน ซึ่งอิสราเอลได้ตระหนักแล้วว่าเป้าหมายประเภทใดในอิสราเอลที่อยู่ในเงื้อมมือของอิหร่าน และได้เห็นถึงอำนาจและความแม่นยำของขีปนาวุธอิหร่านมาแล้ว.-814.-สำนักข่าวไทย

ระธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าววันนี้ให้คำมั่นจะเพิ่มการสนับสนุนของจีนให้กับประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นทวีปที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยการให้เงินทุนเกือบ 51,000 ล้านดอลลาร์

เรคยาวิก 24 ส.ค.- ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ภูเขาไฟไอซ์แลนด์ที่กำลังปะทุรอบล่าสุดยังไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง หรือโครงสร้างพื้นฐาน ภูเขาไฟบนคาบสมุทรเรคยาเนสของไอซ์แลนด์เริ่มปะทุรอบล่าสุดตั้งแต่วันพฤหัสบดี พ่นหินร้อนดูราวกับน้ำพุสูงขึ้นไปในอากาศท่ามกลางท้องฟ้ามืดสนิท นักธรณีฟิสิกส์ชาวไอซ์แลนด์คนหนึ่งให้ความเห็นว่า การปะทุครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 แล้วนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ และยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่ง การเดินทางทางเครื่องบิน หรือโครงสร้างพื้นฐาน ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาของไอซ์แลนด์แจ้งเตือนว่า การปะทุของภูเขาไฟรอบนี้แม้ไม่กระทบโดยตรงต่อชุมชนชาวประมงเมืองกรินดาวิคที่เคยได้รับผลกระทบจากลาวาร้อนและแผ่นดินไหวจากการปะทุหลายครั้งก่อนหน้านี้ แต่กระแสลมจะพัดพากลิ่นและควันมลภาวะของภูเขาไฟลงไปทางใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ส่วนที่บลูลากูน ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เป็นสปาชื่อดังของไอซ์แลนด์ ได้อพยพคนออกจากพื้นที่แล้วตั้งแต่เย็นวันที่ภูเขาไฟปะทุ และยังคงปิดให้บริการในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น.-810(814).-สำนักข่าวไทย