95 แพทย์เตือนโรคเนื้อเน่าหนังเปื่อย ผู้ป่วยส่วนใหญ่สาเหตุจากไปทำนาสัมผัสดินโคลน เป็นแผลอักเสบติดเชื้อ พุพอง แนะรีบพบเเพทย์ด่วน
23 มะนิลา 1 ส.ค.- แพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์เรียกร้องรัฐบาลฟิลิปปินส์ปิดกรุงมะนิลาเป็นเวลาสองสัปดาห์ เพื่อปรับการรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก บุคลากรทางการแทพย์ประมาณ 70 คนส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต รัฐมนตรีสาธารณสุข และหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจรับมือโควิด-19 ว่า ฟิลิปปินส์กำลังจะพ่ายแพ้ในการต่อสู้นี้ จำเป็นต้องมีแผนปฏิบัติการครบวงจรและชัดเจน ขอเสนอให้ใช้การกักตัวสองสัปดาห์ที่มีชุมชนช่วยกันดูแลเป็นการขอเวลานอกเพื่อปรับยุทธศาสตร์การควบคุมการแพร่ระบาดและแก้ไขปัญหาเร่งด่วน จดหมายเปิดผนึกระบุว่า การปิดกรุงมะนิลาสองสัปดาห์อีกครั้งจะเปิดทางให้ทางการสามารถแก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรในโรงพยาบาล การตามหาผู้ป่วยเพื่อแยกกักโรคและติดตามผู้ใกล้ชิด ความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะและที่ทำงาน และการยอมปฏิบัติตามของประชาชน ขณะเดียวกันขอให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้นำในการต่อสู้กับการระบาด ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานท้องถิ่น ฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม ยอดผู้ป่วยสะสมจนถึงวันศุกร์อยู่ที่ 93,354 คน เสียชีวิต 2,023 คน กรุงมะนิลาและปริมณฑลมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตมากที่สุด แต่ทางการอนุญาตให้ธุรกิจต่าง ๆ กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง และขอให้ประชาชนช่วยกันจับจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย
24 คณะแพทย์ศิริราช–กรมราชทัณฑ์ และตัวแทนชาวบ้านจากทับสะแก มาร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีฌาปนกิจ “ซีอุย”
41 ปานามาที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักที่สุดในอเมริกากลาง ใกล้จะไปต่อไม่ไหวแล้วเนื่องจากแพทย์ที่เหนื่อยล้าไม่สามารถรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
87 แพทย์และพยาบาลในนครนิวยอร์กประณามการแบ่งแยกสีผิวในระบบสาธารณสุขด้วยการร่วมประท้วงการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่เสียชีวิตขณะถูกตำรวจผิวขาวควบคุมตัวและใช้เข่ากดคอจนหายใจไม่ได้
26 แพทย์ที่ทำงานร่วมกับจักษุแพทย์ที่เตือนเรื่องโรคโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่นของจีนเป็นคนแรก เสียชีวิตแล้วหลังจากรักษาตัวมานาน 4 เดือนเพราะติดเชื้อไวรัสเช่นกัน
30 บุคลากรทางการแพทย์ของเบลเยียมประท้วงนายกรัฐมนตรีด้วยการหันหลังให้ ระหว่างให้การต้อนรับในช่วงที่ผู้นำเบลเยียมเดินทางไปเยี่ยมโรงพยาบาล
14 บรรดาแพทย์ในโรงพยาบาลในญี่ปุ่นที่ปฎิบัติหน้าที่ในแนวหน้าในการรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ เผยว่าต้องทำงานอย่างหนัก
17 ปตท.เล็งเห็นความสำคัญการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าสู้โควิด-19 โดยการสนับสนุนงบประมาณจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์
32 นิวยอร์ก 25 เม.ย.- แพทย์เตือนอย่าทำตามนางคริสตินา คัวโม ภรรยานายคริส คัวโม ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น (CNN) ที่อ้างว่าหายป่วยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ด้วยวิธีทางเลือกที่ไม่ได้รับการรับรองทางการแพทย์ นางคัวโมวัย 50 ปี เจ้าของเพจสุขภาพ The Purist โพสต์รายละเอียดการดูแลตัวเองช่วงติดเชื้อโควิด-19 ว่า อาบน้ำด้วยน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์และให้วิตามินเข้าเส้นเลือด ช่วยให้หายป่วยเร็วขึ้น เธอเล่าว่า แพทย์สวมชุดป้องกันและหน้ากากอนามัยมาเติมวิตามินให้ที่บ้าน มีทั้งวิตามินซี แมกนีเซียม กรดโฟลิก และสังกะสี นอกจากนี้เธอยังผสมน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ครึ่งฝาลงในน้ำที่อาบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขจัดรังสีและโลหะหนักในร่างกาย อีกทั้งยังเป็นการเติมอ็อกซิเจนให้ร่างกายด้วย อย่างไรก็ดี เธอได้อ้างคำกล่าวของมาร์ติน ลูเธอร์ คิงจูเนียร์ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนเรื่องการแสดงความเกลียดชังจะนำมาซึ่งความเกลียดชังทวีคูณ เหมือนรู้ว่าจะมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับโพสต์ของเธอ นางคัวโมติดเชื้อตามที่สามีของเธอเผยเมื่อกลางเดือนนี้ว่า เธอติดเชื้อจากการดูแลเขาที่ป่วยตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม แพทย์หลายคนเตือนว่า การเติมวิตามินเข้าเส้นเลือดไม่ให้ประโยชน์กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่รับประทานอาหารครบห้าหมู่ และอาจเป็นพิษหากได้รับมากเกินไป อีกทั้งยังทำให้แพทย์เสี่ยงได้รับเชื้อจากการใกล้ชิดผู้ป่วย ส่วนการใช้น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์กับผิวหนังโดยตรงจะเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้ในปริมาณเข้มข้น ยกเว้นใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อที่ผิวหนัง แต่โควิด-19 เป็นโรคระบบทางเดินหายใจจึงไม่เป็นประโยชน์แต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย
123 โรงพยาบาลหาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่มีคนไข้โควิด-19 เข้ารักษาตัวอยู่โดยมีผู้ป่วยสะสม 9 ราย และกำลังรักษาอยู่ 3 ราย ล่าสุดมีภาพความประทับใจ เมื่อคนไข้ที่หายเป็นปกติส่งจดหมายรูปหัวใจขอบคุณแพทย์
18 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ รวมถึงผู้คนในกรุงลอนดอน ปรบมือให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ที่เป็นแนวหน้าต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
