เสียชีวิต

ลากูนา วูดส์ 17 พ.ค.- เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า มือปืนที่ก่อเหตุยิงในโบสถ์แห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 5 คน วางแผนก่อเหตุเพราะเครียดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน เจ้าหน้าที่เทศมณฑลออเรนจ์แถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนได้เปิดการสอบสวนในฐานะคดีที่เกิดจากความเกลียดชัง เพราะพบว่าผู้ก่อเหตุมีความไม่พอใจเรื่องความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างจีนกับไต้หวัน ตามที่พบบันทึกในรถของเขาเขียนเป็นภาษาจีนกลาง แสดงถึงความหมกมุ่นเรื่องไต้หวันและความไม่ชอบคนไต้หวัน เจ้าหน้าที่เผยว่า นายเดวิด โจว วัย 68 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองอเมริกันที่เกิดในจีนและพักอาศัยในลาสเวกัส ขับรถมายังเขตเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียเมื่อวันเสาร์ แล้วมาก่อเหตุที่โบสถ์เจนีวาเพรสไบทีเรียนในเมืองลากูนา วูดส์ในเช้าวันอาทิตย์ เขาใช้โซ่ล่ามประตูและทากาวปิดตัวล็อกประตู จากนั้นเข้าไปเปิดฉากยิงภายในโบสถ์ขณะที่คริสตชนของโบสถ์ไต้หวันเพรสไบทีเรียนประมาณ 30-40 คนกำลังรับประทานมื้อเที่ยงกันอยู่ นายแพทย์วัย 52 ปี พยายามเข้าไปขัดขวางมือปืนจนถูกยิงเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 5 คนอายุตั้งแต่ 66-92 ปี ก่อนที่คริสตชนในโบสถ์จะช่วยกันจับเขามัดไว้ รอเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัว เจ้าหน้าที่เผยว่า พบกระเป๋า 3 ใบถูกวางไว้รอบโบสถ์ ข้างในมีเครื่องกระสุนและอุปกรณ์คล้ายระเบิดขวด เขาจะถูกตั้งข้อหาในวันนี้ คาดว่าจะถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย 1 กระทง พยายามฆ่า 5 กระทง และครอบครองวัตถุระเบิด […]

นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกล่าววันนี้ว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ทำให้ประเทศเกาหลีเหนือตกอยู่ในสภาพวุ่นวายยุ่งยากอย่างเลวร้ายที่สุด พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทำทุกวิถีทางในการเอาชนะการระบาดของโควิดให้ได้ ในขณะที่รายงานระบุพบผู้เสียชีวิตรายวันจากโควิดเมื่อวานนี้ 21 ราย

โคลัมโบ 11 พ.ค.- กลุ่มผู้ประท้วงและสหภาพแรงงานในศรีลังกาเรียกร้องให้มีรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นบริหารประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤตร้ายแรง ขณะที่ประธานาธิบดีขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ หลังเกิดเหตุปะทะทางการเมืองที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และทำให้นายกรัฐมนตรีลาออก กลุ่มผู้ประท้วงยังคงชุมนุมเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา วัย 72 ปี ลาออก รวมทั้งผู้ชุมนุมที่ปักหลักตั้งกลุ่มเต็นท์หน้าทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากประธานาธิบดีลาออก รัฐสภาสามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ และตั้งรัฐบาลรักษาการได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ด้านสมาคมเครื่องนุ่งห่มที่เป็นตัวแทนอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศเรียกร้องให้ตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็วเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง หลังจากรัฐบาลชุดที่เพิ่งลาออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่ประธานาธิบดีราชปักษาประกาศว่า จะทำทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพทางการเมืองด้วยฉันทามติภายใต้อำนาจของรัฐธรรมนูญ และเพื่อแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ สถานการณ์ในศรีลังกาทวีความรุนแรงเมื่อกลุ่มเต็นท์ผู้ชุมนุมถูกกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลบุกเข้ามารื้อทำลายเมื่อวันจันทร์ จนเกิดการปะทะกัน มีผู้เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บมากกว่า 200 คน นายกรัฐมนตรีมหินดา ราชปักษา วัย 76 ปี พี่ชายของประธานาธิบดีตัดสินใจลาออกในเวลาต่อมา รวมทั้งคณะรัฐมนตรีด้วย เพื่อให้มีการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ด้านตำรวจประกาศห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวทั่วประเทศจนถึงเวลา 07:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 08:30 น.วันนี้ตามเวลาในไทย.-สำนักข่าวไทย

เกิดเหตุประท้วงรุนแรงทั่วศรีลังกาเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และผู้บาดเจ็บราว 180 คน ในขณะที่นายกรัฐมนตรีมหินดา ราชปักษา ของศรีลังกา ประกาศลาออกเมื่อวานนี้ท่ามกลางการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานหลายสัปดา

ตำรวจฟิลิปปินส์ระบุว่า กลุ่มมือปืนได้ก่อเหตุกราดยิงใส่คูหาเลือกตั้งแห่งหนึ่งในพื้นที่ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ในวันนี้ ทำให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 1 คน

คาบูล 5 พ.ค.-ฝนตกหนักและน้ำท่วมในอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย บ้านเรือนและพื้นที่เพาะปลูกเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ทางตะวันตกและตอนเหนือของประเทศ หัวหน้าฝ่ายการสื่อสารและข้อมูลของสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอัฟกานิสถาน เผยว่า ฝนตกหนักและน้ำท่วมใน 12 จังหวัดทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 40 คน โดยเฉพาะในจังหวัดแบดกิสและฟาร์ยาบ ทางตะวันตกของอัฟกานิสถาน และจังหวัดแบกห์ลัน ทางตอนเหนือ นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือน 500 หลังถูกทำลาย บ้านเรือน 2,000 หลังได้รับความเสียหาย และมีพื้นที่เกษตรถูกน้ำท่วมราว 7,600 ไร่ ทั้งยังระบุว่า คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือไอซีอาร์ซี กำลังให้ความช่วยเหลืออัฟกานิสถานจากอุทกภัยในครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของกลุ่มตอลิบานก็กำลังเร่งหาทางขอความช่วยเหลือจากองค์กรระหว่างประเทศเช่นกัน ก่อนหน้านี้ อัฟกานิสถานประสบปัญหาภัยแล้งมาตลอดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรในประเทศมีปริมาณลดต่ำลงจนเกิดความหวั่นเกรงว่าอาจเผชิญกับปัญหาขาดแคลนอาหาร ทั้งนี้ สภาพอากาศเลวร้ายในอัฟกานิสถานเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประชาชนประสบปัญหายากจนมากขึ้นจากเหตุสงครามที่ยืดเยื้อหลายสิบปีและมีหลายประเทศประกาศระงับความช่วยเหลืออัฟกานิสถานหลังกลุ่มตอลิบานยึดอำนาจการปกครองอัฟกานิสถานในเดือนสิงหาคมปีก่อน.-สำนักข่าวไทย