บ.ยาแก้ไออินเดียระงับผลิตยาทั้งหมดหลังเด็กอุซเบกตาย

นิวเดลี 30 ธ.ค.- บริษัทยาอินเดียผู้ผลิตยาน้ำแก้ไอที่ถูกเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของเด็กในอุซเบกิสถาน 19 คน แจ้งวันนี้ว่า ได้ระงับการผลิตยาทั้งหมดแล้วหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ สถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวี (NDTV) รายงานวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้สั่งให้ระงับการผลิตยาทั้งหมดที่โรงงานของบริษัทมาเรียน ไบโอเทค (Marion Biotech) ผู้ผลิตยาน้ำแก้ไอ ที่เมืองนอยดา รัฐอุตตรประเทศ ใกล้กับกรุงนิวเดลี หลังจากพบว่ามีการปฏิบัติผิดไปจากระเบียบการผลิต ด้านหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของบริษัทเผยกับสำนักข่าวเอเอ็นไอ (ANI) ว่า กำลังรอรายงานการตรวจสอบของทางการ และได้ระงับการผลิตยาทั้งหมดแล้ว กระทรวงสาธารณสุขอินเดียแถลงเมื่อวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่กำกับดูแลด้านยาและเจ้าหน้าที่ภูมิภาคได้เข้าไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าว ขณะที่อุซเบกิสถานได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับตัวแทนของมาเรียน ไบโอเทคในอุซเบกิสถานแล้ว กระทรวงสาธารณสุขอุซเบกิสถานแถลงว่า มีเด็กอย่างน้อย 18 คนเสียชีวิตในเมืองซามาร์กันด์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ หลังจากรับประทานยาน้ำแก้ไอด็อก-วัน แม็กซ์ (Dok-1 Max) ต่อมาสื่ออุซเบกรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ทารกวัย 1 ขวบเสียชีวิตเป็นรายที่ 19 กระทรวงฯ ระบุว่า ยาน้ำแก้ไอดังกล่าวมีเอทิลีน ไกลคอล ซึ่งเป็นสารหล่อเย็นที่เป็นอันตราย ผู้ปกครองให้เด็กรับประทานเกินปริมาณที่กำหนดเนื่องจากเข้าใจผิดว่าเป็นยาบรรเทาอาการหวัด หรืออาจให้ตามคำแนะนำของเภสัชกร อุซเบกิสถานได้สั่งร้านขายยาทั่วประเทศห้ามจำหน่ายด็อก-วัน แม็กซ์ทั้งในรูปแบบยาน้ำและยาเม็ด และมีข่าวว่าได้ระงับการจำหน่ายอัมโบรนอล (Ambronol) ซึ่งเป็นยาบรรเทาอาการหวัดอีกขนานหนึ่งของมาเรียน […]

จีนชี้บังคับตรวจโควิดกับคนจีนเป็นการเลือกปฏิบัติ

ปักกิ่ง 30 ธ.ค.- สื่อทางการจีนระบุว่า การที่หลายประเทศใช้มาตรการบังคับตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 กับผู้เดินทางมาจากจีน ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ลงบทความเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เจตนาที่แท้จริงของการใช้มาตรการจำกัดผู้เดินทางมาจากจีนคือ การบ่อนทำลายความพยายามควบคุมโควิดมาตลอด 3 ปีของจีน และโจมตีระบบของจีน มาตรการเหล่านี้ไร้มูลและเลือกปฏิบัติ จีนใช้มาตรการจำกัดโควิดอย่างเข้มงวดมาตั้งแต่ต้นปี 2563 และได้ประกาศผ่อนคลายอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม จากนั้นก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ต่อมาประกาศยกเลิกการกักตัวผู้เดินทางเข้าจีนตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม แต่ต้องมีผลตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ (PCR) เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่องบิน จีนซึ่งมีประชากร 1,400 ล้านคนแจ้งว่า นับตั้งแต่โควิดระบาดจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากโควิดอย่างเป็นทางการ 5,247 คน แต่แอร์ฟินิตี (Airfinity) บริษัทข้อมูลสุขภาพในอังกฤษประเมินว่า จีนน่าจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิดวันละ 9,000 คน และยอดเสียชีวิตสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมน่าจะอยู่ที่ 100,000 คน ติดเชื้อสะสม 18 ล้าน 6 แสนคน และคาดว่าจีนจะมีการระบาดสูงสุดระลอกแรกในวันที่ 13 มกราคม 2566 ด้วยยอดผู้ติดเชื้อวันละ […]

ปิดตำนานลูกหนังโลก ‘เปเล่’ เสียชีวิตแล้วในวัย 82 ปี

ปิดตำนานลูกหนังโลก ‘เปเล่’ กองหน้าระดับตำนานชาวบราซิล ผู้นำพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 3 สมัย เสียชีวิตแล้วในวัย 82 ปี จากอาการป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

รถชนในอุโมงค์ทางด่วนเกาหลีใต้จนไฟไหม้ ตาย 5 คน

โซล 29 ธ.ค. – เกิดอุบัติเหตุรถบัสชนรถบรรทุกในอุโมงค์ทางด่วนที่ย่านชานเมืองของกรุงโซลในเกาหลีใต้ จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ลุกท่วมเป็นวงกว้างในอุโมงค์ดังกล่าว และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน เจ้าหน้าที่ของสำนักงานดับเพลิงของเมืองกวาชอนในจังหวัดคยองกี ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโซล เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า อุบัติเหตุรถบัสชนรถบรรทุกในอุโมงค์ทางด่วนทำให้เกิดเพลิงไหม้เป็นวงกว้างขึ้นเมื่อเวลา 13.50 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 11.50 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้ได้แล้ว และกำลังเข้าไปในอุโมงค์เพื่อสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม หลังเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน และมีผู้บาดเจ็บราว 20 คนจากอาการสำลักควันไฟ สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานอ้างคำพูด นายลี ซัง-มิน รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในและความปลอดภัยของเกาหลีใต้ที่เรียกร้องให้ทุกหน่วยงานเร่งระดมสรรพกำลังลงพื้นที่เกิดเหตุอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือชีวิตประชาชนที่อาจติดอยู่ในอุโมงค์ดังกล่าว ด้านสื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้ได้เผยแพร่ภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่และควันไฟที่พวยพุ่งออกมาจากอุโมงค์แห่งนี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายร้อยนายกำลังเร่งฉีดน้ำควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

เหตุน้ำท่วม-ดินถล่มในฟิลิปปินส์ ตายเพิ่มเป็น 33 คน

มะนิลา 29 ธ.ค. – เหตุฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ทางตอนกลางและตอนใต้ของฟิลิปปินส์ในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งตรงกับวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 33 คน และยังคงมีผู้สูญหายอีกกว่า 20 คน ตำรวจฟิลิปปินส์เผยว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มเพิ่มอีก 1 คนเมื่อวันพุธ เป็นชายวัย 62 ปี ที่เมืองมาตีในจังหวัดดาเวาโอเรียนตัลบนเกาะมินดาเนา โดยที่ชายคนนี้เสียชีวิตหลังถูกดินถล่มทับในขณะที่กำลังตกปลาอยู่ริมแม่น้ำกับเพื่อนอีก 3 คนที่ยังคงสูญหาย ขณะที่สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ระบุว่า มีบ้านเรือนหลายร้อยหลังได้รับความเสียหาย พื้นที่เกษตรกว่า 31,200 ไร่ถูกทำลาย และมีประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มในครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในจังหวัดมีซามิสโอกซีเดนตัลบนเกาะมินดาเนา ซึ่งมีมากถึง 15 คนที่เสียชีวิตจากการจมน้ำหรือดินถล่มจากฝนตกหนัก ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประชากรราว 110 ล้านคน ต้องเผชิญกับสภาพอากาศย่ำแย่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับเทศกาลหยุดยาวช่วงคริสต์มาส.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจอินเดียเร่งสอบเหตุนักการเมืองรัสเซียเสียชีวิตคาโรงแรม

นิวเดลี 28 ธ.ค. – ตำรวจอินเดียเร่งสอบสวนเหตุเสียชีวิตกะทันหันของนายพาเวล อันตอฟ นักการเมืองชาวรัสเซียที่เคยตกเป็นข่าววิพากษ์วิจารณ์การเปิดฉากโจมตียูเครนของรัสเซีย ที่โรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่งในรัฐโอฑิศา ทางตะวันออกของอินเดีย ตำรวจอินเดียเผยเมื่อวันอังคารว่า นายอันตอฟ วัย 65 ปี ถูกพบเป็นศพจมกองเลือดนอกที่พักของโรงแรมแห่งหนึ่งในรัฐโอฑิศาเมื่อวันเสาร์ หลังจากที่เขาเดินทางมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดร่วมกับเพื่อนชาวรัสเซียอีก 3 คน การเสียชีวิตของนายอันตอฟมีขึ้นหลังจากที่นายวลาดิมีร์ ไบเดนอฟ เพื่อนชาวรัสเซียของเขา เพิ่งเสียชีวิตจากอาการหัวใจวายเมื่อ 2 วันก่อนที่โรงแรมเดียวกัน ตำรวจอินเดียยังระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด สอบปากคำพนักงานโรงแรม และรอผลตรวจชันสูตรศพของนายอันตอฟ แม้ขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงไปสู่เหตุฆาตกรรม แต่เจ้าหน้าที่ก็จะเดินหน้าสอบสวนเหตุการเสียชีวิตของชาวรัสเซีย 2 รายนี้อย่างละเอียดทุกแง่มุมเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา อย่างไรก็ดี ตำรวจอินเดียได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า อาการหัวใจวายของนายไบเดนอฟอาจเกิดจากการดื่มสุราและการใช้ยาเกินขนาด ส่วนนายอันตอฟอาจพลัดตกจากระเบียงของห้องพัก ก่อนหน้านี้ นายอันตอฟได้ดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาระดับภูมิภาคในพื้นที่ห่างออกไปทางตะวันออกของกรุงมอสโกราว 150 กิโลเมตรมาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งถือเป็นตัวแทนของพรรคยูไนเต็ดรัสเซียที่มีประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เป็นหัวหน้าพรรค และเคยมีชื่อติดอันดับเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงและสมาชิกรัฐสภาที่มีฐานะร่ำรวยของรัสเซียในปี 2562 ในนิตยสารฟอร์บส์รัสเซีย อย่างไรก็ดี สื่อรัสเซียรายงานในเดือนมิถุนายนว่า นายอันตอฟได้กล่าวผ่านวอทส์แอป (WhatsApp) แอปพลิเคชั่นรับส่งข้อความและวิดีโอของเมตา บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ว่า การที่รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตียูเครนนั้นถือเป็นการก่อการร้าย […]

บังกลาเทศเผยพยายามหยุดยั้งชาวโรฮีนจาแล้ว

ธากา 27 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่รัฐบาลบังกลาเทศเผยว่า บังกลาเทศพยายามหยุดยั้งชาวโรฮีนจาไม่ให้เสี่ยงชีวิตล่องเรือไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากมีความกังวลว่าปีนี้อาจมีชาวโรฮีนจาเสียชีวิตกลางทะเลมากที่สุดปีหนึ่ง นายโมฮัมหมัด มิซานูร์ ราห์มาน กรรมาธิการบรรเทาทุกข์และส่งกลับผู้ลี้ภัยของบังกลาเทศเผยว่า บังกลาเทศพยายามทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งชาวโรฮีนจาไม่ให้เดินทางเสี่ยงอันตราย และจะตระเวนคุยกับแกนนำกลุ่มในค่ายผู้ลี้ภัยเพื่อให้เข้าใจถึงอันตรายของการเสี่ยงล่องเรือ ขณะที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย กองทัพเรือและหน่วยยามฝั่งได้เฝ้าระวังและจับกุมผู้ที่พัวพันกับการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ดี เขาคิดว่าชาวโรฮีนจาที่ออกไปเสี่ยงชีวิตกลางทะเลไม่ได้เดินทางออกจากบังกลาเทศทุกคน เพราะสถานการณ์ในเมียนมาเลวร้ายกว่าในค่ายผู้ลี้ภัยมากนัก ชาวโรฮีนจาคนหนึ่งที่เคยเป็นแกนนำกลุ่มในค่ายผู้ลี้ภัยและเดินทางไปถึงมาเลเซียแล้ว แต่ได้กลับมาบังกลาเทศเพื่อมาอยู่กับน้องสาว 2 คน เผยว่า ชีวิตในค่ายผู้ลี้ภัยไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้คนล้วนแต่สิ้นหวัง ขณะที่แกนนำชาวโรฮีนจาในบังกลาเทศ เผยว่า ชาวโรฮีนจาจำนวนมากพร้อมเสี่ยงชีวิตบนเรือของแก๊งค้ามนุษย์ เพราะท้อแท้กับชีวิตในค่ายผู้ลี้ภัย และไม่มีหวังจะได้กลับบ้าน ชาวโรฮีนจาถูกทอดทิ้งจากประชาคมโลกที่ไม่สามารถกดดันบรรดานายพลในเมียนมา ปัจจุบันมีชาวโรฮีนจาเกือบ 1 ล้านคนอาศัยอยู่ในบังกลาเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย หลายคนหลบหนีออกจากเมียนมาในปี 2560 เมื่อกองทัพยกกำลังขึ้นไปปราบปราม สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) ประเมินว่า ปีนี้มีชาวโรฮิงญาประมาณ 2,400 คนล่องเรือหรือพยายามล่องเรือไปยังประเทศอื่น เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากปี 2564 ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเหตุใดตัวเลขดังกล่าวจึงเพิ่มขึ้นมาก บางคนเชื่อว่า อาจเป็นเพราะประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด.-สำนักข่าวไทย

ฝนตกหนักวันคริสต์มาสในฟิลิปปินส์ ตายเพิ่มเป็น 13 คน

มะนิลา 27 ธ.ค. – เหตุฝนตกหนักในวันคริสต์มาสที่ฟิลิปปินส์ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 13 คน และยังคงมีผู้สูญหายอีก 23 คน ในขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มลดระดับลงในวันนี้ สำนักงานจัดการภัยพิบัติของฟิลิปปินส์เผยว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันหลังมีฝนตกหนักติดกัน 2 วันในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และทำให้ประชาชนกว่า 45,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ภาพที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นหน่วยยามฝั่ง ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายนายลงพื้นที่น้ำท่วมสูงระดับเอวและช่วยเหลือประชาชนออกจากพื้นที่เกิดเหตุดินถล่ม รวมถึงภาพน้ำท่วมท้องถนนหลายสายหลังน้ำในแม่น้ำไหลเอ่อล้นตลิ่ง หัวหน้าสำนักงานจัดการภัยพิบัติของฟิลิปปินส์ในเมืองคลารินของจังหวัดมีซามิสโอกซีเดนตัลระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนและประเมินความความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาคเกษตรกรรมแล้ว ส่วนนายกเทศมนตรีเมืองคลารินเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมปศุสัตว์ เช่น หมู ไก่ แพะ และวัว ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุน้ำท่วมในครั้งนี้ ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ฟิลิปปินส์ไม่ได้เผชิญกับพายุโซนร้อนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ฝนตกหนักเป็นฝนที่เกิดจากแนวลมพัดตัดกันจากกระแสลมอุ่นและลมเย็น จนทำให้เกิดการรวมตัวของเมฆฝนในพื้นที่ทางใต้ของฟิลิปปินส์. -สำนักข่าวไทย

“พายุหิมะแห่งศตวรรษ” ถล่มสหรัฐ ตายเพิ่มเป็นเกือบ 50 คน

นิวยอร์ก 27 ธ.ค. – เหตุพายุหิมะรุนแรงที่ทางการสหรัฐเรียกว่า “พายุหิมะแห่งศตวรรษ” (blizzard of the century) ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 50 คนทั่วประเทศ และทำให้การเดินทางในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปั่นป่วนอย่างหนัก ข้อมูลของทางการสหรัฐระบุว่า พายุหิมะรุนแรงที่ถล่มหลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐในช่วงหลายวันที่ผ่านมาทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง การเดินทางล่าช้า และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 49 คนใน 9 รัฐของสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการรัฐนิวยอร์กเผยว่า สถานการณ์หิมะตกในรัฐนิวยอร์กยังคงรุนแรง โดยเฉพาะที่เมืองบัฟฟาโล เมืองใหญ่อันดับสองของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยพายุหิมะขาวโพลนจนแทบมองอะไรไม่เห็นเป็นเวลานานหลายชั่วโมง เจ้าหน้าที่ยังพบผู้เสียชีวิตหลายคนที่เสียชีวิตในรถยนต์หรือใต้กองหิมะริมถนน และออกไปปฏิบัติภารกิจสำรวจตรวจตราตามรถยนต์แต่ละคันเพื่อค้นหาว่ามีประชาชนที่ยังมีชีวิตหรือผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ในรถท่ามกลางพายุหิมะตกหนักหรือไม่ ข้อมูลจากไฟลต์อะแวร์ดอตคอม (Flightaware.com) เว็บไซต์ติดตามสถานะเที่ยวบินทั่วโลก ระบุว่า พายุหิมะทำให้สหรัฐต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 15,000 เที่ยวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 3,800 เที่ยวในวันจันทร์ ขณะที่นางเคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เผยว่า หลายเมืองทางตะวันตกของรัฐนิวยอร์กมีหิมะตกสูง 75 เซนติเมตร ถึง 1 เมตรในรอบคืนที่ผ่านมา ทำเนียบขาวสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า นางโฮชุลได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เกี่ยวกับสถานการณ์พายุหิมะแล้ว โดยที่ผู้นำสหรัฐได้สั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางส่งความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังให้แก่รัฐนิวยอร์ก […]

หิมะตกเพิ่มในวันคริสต์มาสทำญี่ปุ่นตายเพิ่ม

โตเกียว 26 ธ.ค.- หิมะที่ตกหนักเป็นวงกว้างในญี่ปุ่นช่วงวันคริสต์มาสทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 17 คน และบาดเจ็บเพิ่มเป็นมากกว่า 90 คน ประชาชนหลายครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ แนวปะทะมวลอากาศฤดูหนาวที่มีกำลังแรงทำให้ภูมิภาคทางตอนเหนือของญี่ปุ่นมีหิมะตกหนักตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ยวดยานติดค้างตามทางหลวง บริการขนส่งล่าช้า และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 คนนับจนถึงวันเสาร์ สำนักงานจัดการไฟไหม้และภัยพิบัติแจ้งว่า หิมะที่ตกหนักในช่วงสุดสัปดาห์ซึ่งตรงกับวันคริสต์มาสทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 17 คน บาดเจ็บเพิ่มขึ้นเป็น 93 คนนับจนถึงเช้าวันนี้ หลายคนลื่นล้มหรือถูกกองหิมะทับขณะกวาดหิมะออกจากหลังคาบ้าน สตรีวัย 70 ปีเศษคนหนึ่งเสียชีวิตอยู่ใต้กองหิมะหนากว่า 80 เซนติเมตรในจังหวัดยามากาตะ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว ทางการท้องถิ่นเตือนประชาชนให้ใช้ความระมัดระวังในการกวาดหิมะและอย่ากวาดตามลำพัง หลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นแจ้งว่า ฤดูหนาวปีนี้มีหิมะตกมากกว่าอัตราเฉลี่ยถึง 3 เท่า เสาส่งไฟฟ้าแห่งหนึ่งบนเกาะฮอกไกโดที่อยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่นใช้การไม่ได้เพราะหิมะที่ตกหนัก ทำให้บ้านเรือนประมาณ 20,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้ในเช้าวันคริสต์มาส ก่อนที่จะกลับมามีไฟฟ้าตามปกติภายในวันเดียวกัน ส่วนเที่ยวบินและรถไฟทางตอนเหนือก็ถูกระงับจำนวนหนึ่งตลอดวันอาทิตย์ และขณะนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียยิงโดรนยูเครนตกที่ฐานทัพอากาศ ตาย 3 คน

มอสโก 26 ธ.ค. – กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียยิงสกัดโดรนของยูเครน 1 ลำตกที่ฐานทัพอากาศในพื้นที่ทางตอนใต้ของรัสเซีย ทำให้ชาวรัสเซียที่อยู่บนภาคพื้นดินเสียชีวิต 3 คน สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซียที่ระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงสกัดโดรนไร้คนขับของยูเครน 1 ลำขณะที่โดรนลำนี้กำลังบินอยู่ในระดับต่ำเหนือน่านฟ้าของฐานทัพอากาศเองเกิลส์ในแคว้นซาราตอฟเมื่อเวลา 01.35 น. ของวันนี้ตามเวลากรุงมอสโก หรือตรงกับเวลา 05.35 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งเป็นการโจมตีฐานทัพดังกล่าวเป็นครั้งที่สองในเดือนนี้ โดยที่แคว้นซาราตอฟตั้งอยู่ห่างจากรัสเซียกว่า 600 กิโลเมตร นอกจากนี้ เหตุดังกล่าวยังทำให้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของรัสเซียเสียชีวิต 3 นาย แต่ไม่มีอากาศยานที่จอดอยู่ในฐานทัพแห่งนี้ได้รับความเสียหาย ก่อนหน้านี้ รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ยูเครนได้ส่งฝูงโดรนโจมตีฐานทัพอากาศเองเกิลส์จนทำให้เกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. รวมถึงส่งฝูงโดรนไปโจมตีฐานทัพในแคว้นไรยาซาน ทางตอนกลางของรัสเซีย เป็นการตอบโต้รัสเซียที่เปิดฉากบุกโจมตียูเครนมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. -สำนักข่าวไทย

1 39 40 41 42 43 215
...