เหตุน้ำท่วม-ดินถล่มในฟิลิปปินส์ ตายเพิ่มเป็น 33 คน

มะนิลา 29 ธ.ค. – เหตุฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ทางตอนกลางและตอนใต้ของฟิลิปปินส์ในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งตรงกับวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 33 คน และยังคงมีผู้สูญหายอีกกว่า 20 คน ตำรวจฟิลิปปินส์เผยว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มเพิ่มอีก 1 คนเมื่อวันพุธ เป็นชายวัย 62 ปี ที่เมืองมาตีในจังหวัดดาเวาโอเรียนตัลบนเกาะมินดาเนา โดยที่ชายคนนี้เสียชีวิตหลังถูกดินถล่มทับในขณะที่กำลังตกปลาอยู่ริมแม่น้ำกับเพื่อนอีก 3 คนที่ยังคงสูญหาย ขณะที่สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ระบุว่า มีบ้านเรือนหลายร้อยหลังได้รับความเสียหาย พื้นที่เกษตรกว่า 31,200 ไร่ถูกทำลาย และมีประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มในครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในจังหวัดมีซามิสโอกซีเดนตัลบนเกาะมินดาเนา ซึ่งมีมากถึง 15 คนที่เสียชีวิตจากการจมน้ำหรือดินถล่มจากฝนตกหนัก ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประชากรราว 110 ล้านคน ต้องเผชิญกับสภาพอากาศย่ำแย่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับเทศกาลหยุดยาวช่วงคริสต์มาส.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจอินเดียเร่งสอบเหตุนักการเมืองรัสเซียเสียชีวิตคาโรงแรม

นิวเดลี 28 ธ.ค. – ตำรวจอินเดียเร่งสอบสวนเหตุเสียชีวิตกะทันหันของนายพาเวล อันตอฟ นักการเมืองชาวรัสเซียที่เคยตกเป็นข่าววิพากษ์วิจารณ์การเปิดฉากโจมตียูเครนของรัสเซีย ที่โรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่งในรัฐโอฑิศา ทางตะวันออกของอินเดีย ตำรวจอินเดียเผยเมื่อวันอังคารว่า นายอันตอฟ วัย 65 ปี ถูกพบเป็นศพจมกองเลือดนอกที่พักของโรงแรมแห่งหนึ่งในรัฐโอฑิศาเมื่อวันเสาร์ หลังจากที่เขาเดินทางมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดร่วมกับเพื่อนชาวรัสเซียอีก 3 คน การเสียชีวิตของนายอันตอฟมีขึ้นหลังจากที่นายวลาดิมีร์ ไบเดนอฟ เพื่อนชาวรัสเซียของเขา เพิ่งเสียชีวิตจากอาการหัวใจวายเมื่อ 2 วันก่อนที่โรงแรมเดียวกัน ตำรวจอินเดียยังระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด สอบปากคำพนักงานโรงแรม และรอผลตรวจชันสูตรศพของนายอันตอฟ แม้ขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงไปสู่เหตุฆาตกรรม แต่เจ้าหน้าที่ก็จะเดินหน้าสอบสวนเหตุการเสียชีวิตของชาวรัสเซีย 2 รายนี้อย่างละเอียดทุกแง่มุมเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา อย่างไรก็ดี ตำรวจอินเดียได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า อาการหัวใจวายของนายไบเดนอฟอาจเกิดจากการดื่มสุราและการใช้ยาเกินขนาด ส่วนนายอันตอฟอาจพลัดตกจากระเบียงของห้องพัก ก่อนหน้านี้ นายอันตอฟได้ดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาระดับภูมิภาคในพื้นที่ห่างออกไปทางตะวันออกของกรุงมอสโกราว 150 กิโลเมตรมาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งถือเป็นตัวแทนของพรรคยูไนเต็ดรัสเซียที่มีประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เป็นหัวหน้าพรรค และเคยมีชื่อติดอันดับเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงและสมาชิกรัฐสภาที่มีฐานะร่ำรวยของรัสเซียในปี 2562 ในนิตยสารฟอร์บส์รัสเซีย อย่างไรก็ดี สื่อรัสเซียรายงานในเดือนมิถุนายนว่า นายอันตอฟได้กล่าวผ่านวอทส์แอป (WhatsApp) แอปพลิเคชั่นรับส่งข้อความและวิดีโอของเมตา บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ว่า การที่รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตียูเครนนั้นถือเป็นการก่อการร้าย […]

บังกลาเทศเผยพยายามหยุดยั้งชาวโรฮีนจาแล้ว

ธากา 27 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่รัฐบาลบังกลาเทศเผยว่า บังกลาเทศพยายามหยุดยั้งชาวโรฮีนจาไม่ให้เสี่ยงชีวิตล่องเรือไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากมีความกังวลว่าปีนี้อาจมีชาวโรฮีนจาเสียชีวิตกลางทะเลมากที่สุดปีหนึ่ง นายโมฮัมหมัด มิซานูร์ ราห์มาน กรรมาธิการบรรเทาทุกข์และส่งกลับผู้ลี้ภัยของบังกลาเทศเผยว่า บังกลาเทศพยายามทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งชาวโรฮีนจาไม่ให้เดินทางเสี่ยงอันตราย และจะตระเวนคุยกับแกนนำกลุ่มในค่ายผู้ลี้ภัยเพื่อให้เข้าใจถึงอันตรายของการเสี่ยงล่องเรือ ขณะที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย กองทัพเรือและหน่วยยามฝั่งได้เฝ้าระวังและจับกุมผู้ที่พัวพันกับการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ดี เขาคิดว่าชาวโรฮีนจาที่ออกไปเสี่ยงชีวิตกลางทะเลไม่ได้เดินทางออกจากบังกลาเทศทุกคน เพราะสถานการณ์ในเมียนมาเลวร้ายกว่าในค่ายผู้ลี้ภัยมากนัก ชาวโรฮีนจาคนหนึ่งที่เคยเป็นแกนนำกลุ่มในค่ายผู้ลี้ภัยและเดินทางไปถึงมาเลเซียแล้ว แต่ได้กลับมาบังกลาเทศเพื่อมาอยู่กับน้องสาว 2 คน เผยว่า ชีวิตในค่ายผู้ลี้ภัยไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้คนล้วนแต่สิ้นหวัง ขณะที่แกนนำชาวโรฮีนจาในบังกลาเทศ เผยว่า ชาวโรฮีนจาจำนวนมากพร้อมเสี่ยงชีวิตบนเรือของแก๊งค้ามนุษย์ เพราะท้อแท้กับชีวิตในค่ายผู้ลี้ภัย และไม่มีหวังจะได้กลับบ้าน ชาวโรฮีนจาถูกทอดทิ้งจากประชาคมโลกที่ไม่สามารถกดดันบรรดานายพลในเมียนมา ปัจจุบันมีชาวโรฮีนจาเกือบ 1 ล้านคนอาศัยอยู่ในบังกลาเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย หลายคนหลบหนีออกจากเมียนมาในปี 2560 เมื่อกองทัพยกกำลังขึ้นไปปราบปราม สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) ประเมินว่า ปีนี้มีชาวโรฮิงญาประมาณ 2,400 คนล่องเรือหรือพยายามล่องเรือไปยังประเทศอื่น เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากปี 2564 ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเหตุใดตัวเลขดังกล่าวจึงเพิ่มขึ้นมาก บางคนเชื่อว่า อาจเป็นเพราะประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด.-สำนักข่าวไทย

ฝนตกหนักวันคริสต์มาสในฟิลิปปินส์ ตายเพิ่มเป็น 13 คน

มะนิลา 27 ธ.ค. – เหตุฝนตกหนักในวันคริสต์มาสที่ฟิลิปปินส์ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 13 คน และยังคงมีผู้สูญหายอีก 23 คน ในขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มลดระดับลงในวันนี้ สำนักงานจัดการภัยพิบัติของฟิลิปปินส์เผยว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันหลังมีฝนตกหนักติดกัน 2 วันในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และทำให้ประชาชนกว่า 45,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ภาพที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นหน่วยยามฝั่ง ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายนายลงพื้นที่น้ำท่วมสูงระดับเอวและช่วยเหลือประชาชนออกจากพื้นที่เกิดเหตุดินถล่ม รวมถึงภาพน้ำท่วมท้องถนนหลายสายหลังน้ำในแม่น้ำไหลเอ่อล้นตลิ่ง หัวหน้าสำนักงานจัดการภัยพิบัติของฟิลิปปินส์ในเมืองคลารินของจังหวัดมีซามิสโอกซีเดนตัลระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนและประเมินความความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาคเกษตรกรรมแล้ว ส่วนนายกเทศมนตรีเมืองคลารินเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมปศุสัตว์ เช่น หมู ไก่ แพะ และวัว ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุน้ำท่วมในครั้งนี้ ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ฟิลิปปินส์ไม่ได้เผชิญกับพายุโซนร้อนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ฝนตกหนักเป็นฝนที่เกิดจากแนวลมพัดตัดกันจากกระแสลมอุ่นและลมเย็น จนทำให้เกิดการรวมตัวของเมฆฝนในพื้นที่ทางใต้ของฟิลิปปินส์. -สำนักข่าวไทย

“พายุหิมะแห่งศตวรรษ” ถล่มสหรัฐ ตายเพิ่มเป็นเกือบ 50 คน

นิวยอร์ก 27 ธ.ค. – เหตุพายุหิมะรุนแรงที่ทางการสหรัฐเรียกว่า “พายุหิมะแห่งศตวรรษ” (blizzard of the century) ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 50 คนทั่วประเทศ และทำให้การเดินทางในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปั่นป่วนอย่างหนัก ข้อมูลของทางการสหรัฐระบุว่า พายุหิมะรุนแรงที่ถล่มหลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐในช่วงหลายวันที่ผ่านมาทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง การเดินทางล่าช้า และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 49 คนใน 9 รัฐของสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการรัฐนิวยอร์กเผยว่า สถานการณ์หิมะตกในรัฐนิวยอร์กยังคงรุนแรง โดยเฉพาะที่เมืองบัฟฟาโล เมืองใหญ่อันดับสองของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยพายุหิมะขาวโพลนจนแทบมองอะไรไม่เห็นเป็นเวลานานหลายชั่วโมง เจ้าหน้าที่ยังพบผู้เสียชีวิตหลายคนที่เสียชีวิตในรถยนต์หรือใต้กองหิมะริมถนน และออกไปปฏิบัติภารกิจสำรวจตรวจตราตามรถยนต์แต่ละคันเพื่อค้นหาว่ามีประชาชนที่ยังมีชีวิตหรือผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ในรถท่ามกลางพายุหิมะตกหนักหรือไม่ ข้อมูลจากไฟลต์อะแวร์ดอตคอม (Flightaware.com) เว็บไซต์ติดตามสถานะเที่ยวบินทั่วโลก ระบุว่า พายุหิมะทำให้สหรัฐต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 15,000 เที่ยวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 3,800 เที่ยวในวันจันทร์ ขณะที่นางเคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เผยว่า หลายเมืองทางตะวันตกของรัฐนิวยอร์กมีหิมะตกสูง 75 เซนติเมตร ถึง 1 เมตรในรอบคืนที่ผ่านมา ทำเนียบขาวสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า นางโฮชุลได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เกี่ยวกับสถานการณ์พายุหิมะแล้ว โดยที่ผู้นำสหรัฐได้สั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางส่งความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังให้แก่รัฐนิวยอร์ก […]

หิมะตกเพิ่มในวันคริสต์มาสทำญี่ปุ่นตายเพิ่ม

โตเกียว 26 ธ.ค.- หิมะที่ตกหนักเป็นวงกว้างในญี่ปุ่นช่วงวันคริสต์มาสทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 17 คน และบาดเจ็บเพิ่มเป็นมากกว่า 90 คน ประชาชนหลายครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ แนวปะทะมวลอากาศฤดูหนาวที่มีกำลังแรงทำให้ภูมิภาคทางตอนเหนือของญี่ปุ่นมีหิมะตกหนักตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ยวดยานติดค้างตามทางหลวง บริการขนส่งล่าช้า และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 คนนับจนถึงวันเสาร์ สำนักงานจัดการไฟไหม้และภัยพิบัติแจ้งว่า หิมะที่ตกหนักในช่วงสุดสัปดาห์ซึ่งตรงกับวันคริสต์มาสทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 17 คน บาดเจ็บเพิ่มขึ้นเป็น 93 คนนับจนถึงเช้าวันนี้ หลายคนลื่นล้มหรือถูกกองหิมะทับขณะกวาดหิมะออกจากหลังคาบ้าน สตรีวัย 70 ปีเศษคนหนึ่งเสียชีวิตอยู่ใต้กองหิมะหนากว่า 80 เซนติเมตรในจังหวัดยามากาตะ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว ทางการท้องถิ่นเตือนประชาชนให้ใช้ความระมัดระวังในการกวาดหิมะและอย่ากวาดตามลำพัง หลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นแจ้งว่า ฤดูหนาวปีนี้มีหิมะตกมากกว่าอัตราเฉลี่ยถึง 3 เท่า เสาส่งไฟฟ้าแห่งหนึ่งบนเกาะฮอกไกโดที่อยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่นใช้การไม่ได้เพราะหิมะที่ตกหนัก ทำให้บ้านเรือนประมาณ 20,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้ในเช้าวันคริสต์มาส ก่อนที่จะกลับมามีไฟฟ้าตามปกติภายในวันเดียวกัน ส่วนเที่ยวบินและรถไฟทางตอนเหนือก็ถูกระงับจำนวนหนึ่งตลอดวันอาทิตย์ และขณะนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียยิงโดรนยูเครนตกที่ฐานทัพอากาศ ตาย 3 คน

มอสโก 26 ธ.ค. – กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียยิงสกัดโดรนของยูเครน 1 ลำตกที่ฐานทัพอากาศในพื้นที่ทางตอนใต้ของรัสเซีย ทำให้ชาวรัสเซียที่อยู่บนภาคพื้นดินเสียชีวิต 3 คน สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซียที่ระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงสกัดโดรนไร้คนขับของยูเครน 1 ลำขณะที่โดรนลำนี้กำลังบินอยู่ในระดับต่ำเหนือน่านฟ้าของฐานทัพอากาศเองเกิลส์ในแคว้นซาราตอฟเมื่อเวลา 01.35 น. ของวันนี้ตามเวลากรุงมอสโก หรือตรงกับเวลา 05.35 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งเป็นการโจมตีฐานทัพดังกล่าวเป็นครั้งที่สองในเดือนนี้ โดยที่แคว้นซาราตอฟตั้งอยู่ห่างจากรัสเซียกว่า 600 กิโลเมตร นอกจากนี้ เหตุดังกล่าวยังทำให้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของรัสเซียเสียชีวิต 3 นาย แต่ไม่มีอากาศยานที่จอดอยู่ในฐานทัพแห่งนี้ได้รับความเสียหาย ก่อนหน้านี้ รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ยูเครนได้ส่งฝูงโดรนโจมตีฐานทัพอากาศเองเกิลส์จนทำให้เกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. รวมถึงส่งฝูงโดรนไปโจมตีฐานทัพในแคว้นไรยาซาน ทางตอนกลางของรัสเซีย เป็นการตอบโต้รัสเซียที่เปิดฉากบุกโจมตียูเครนมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. -สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนักในวันคริสต์มาส ตาย 2 ราย

มะนิลา 26 ธ.ค. – หลายพื้นที่บนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ประสบภัยน้ำท่วมหนักในวันคริสต์มาส จนทำให้ทางการต้องอพยพประชาชนเกือบ 46,000 คนออกจากพื้นที่ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย เจ้าหน้าที่บนเกาะมินดาเนาเผยว่า เหตุน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักในวันคริสต์มาสทำให้ต้องอพยพยประชาชนเกือบ 46,000 คนออกจากพื้นที่ โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 รายในเมืองจิเมเนซ และผู้สูญหายอีก 9 คน ขณะนี้ หลายพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมสูงถึงระดับอก แต่วันนี้มีฝนตกน้อยลงแล้ว ขณะที่หน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนกว่า 20 คนที่เมืองโอซามิซและเมืองคลาริน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมสูงบนเกาะมินดาเนา ทั้งยังระบุว่า มีเรือประมง 1 ลำล่มในทะเลนอกชายฝั่งเกาะเลย์เต ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ เนื่องจากเผชิญกับคลื่นลมแรงในวันคริสต์มาส จนทำให้มีลูกเรือเสียชีวิต 2 ราย และช่วยชีวิตลูกเรือได้ 6 คน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พื้นที่ทางตอนกลางและตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ กำลังเผชิญกับสภาพอากาศย่ำแย่ในขณะที่ชาวฟิลิปปินส์เข้าสู่เทศกาลวันหยุดยาวช่วงคริสต์มาส ซึ่งมีประชาชนหลายล้านคนเดินทางกลับบ้านเกิดไปพบปะและเฉลิมฉลองกับครอบครัว. -สำนักข่าวไทย

พายุหิมะถล่มสหรัฐ-แคนาดา ตายเพิ่มเป็น 38 ราย

นิวยอร์ก 26 ธ.ค. – พายุหิมะและสภาพอากาศเย็นสุดขั้วในสหรัฐและแคนาดา ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 38 ราย ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตในสหรัฐมากถึง 34 ราย เจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 34 รายที่เชื่อมโยงกับพายุหิมะและสภาพอากาศเย็นสุดขั้ว โดยที่เมืองบัฟฟาโล เมืองใหญ่อันดับสองของรัฐนิวยอร์ก เป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักสุด ขณะที่เจ้าหน้าที่ของแคนาดาระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 4 รายจากอุบัติเหตุรถบัสพลิกคว่ำขณะแล่นอยู่บนถนนที่มีหิมะปกคลุมใกล้เมืองเมอร์ริตต์ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ทางตะวันตกของแคนาดา ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ขณะนี้ มีประชาชนในสหรัฐไม่ถึง 200,000 คนที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับนับถึงช่วงบ่ายวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่มีราว 1.7 ล้านคน นอกจากนี้ สหรัฐยังจำเป็นต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินหลายพันเที่ยว เนื่องจากสภาพอากาศย่ำแย่ จนทำให้มีชาวอเมริกันจำนวนมากไม่สามารถเดินทางไปพบปะกับครอบครัวในวันคริสต์มาส ขณะนี้ มีประชาชนอเมริกันกว่า 55 ล้านคนที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ประกาศเตือนภัยหนาวสุดขั้วเมื่อวันอาทิตย์ ทั้งนี้ สหรัฐกับแคนาดากำลังเผชิญกับปรากฏการณ์จากมวลอากาศเย็นทางเหนือทำให้ความกดอากาศลดลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘ไซโคลนระเบิด’ (bomb cyclone) ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดพายุหิมะและลมหนาวรุนแรงในครั้งนี้. -สำนักข่าวไทย

เคลื่อนร่าง 2 กำลังพลถึงวัด จ.สุราษฎร์ฯ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า

กองเกียรติยศเคลื่อนร่าง “จ่าเอกอัครเดช-เรือตรีจักรพงศ์” สองกำลังพลที่เสียชีวิตจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ถึงสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า

1 37 38 39 40 41 213
...