“พิชัย” ยังรอสหรัฐพิจารณาขยายกรอบเวลาหารือภาษีทรัมป์

ทำเนียบ24 มิ.ย.-“พิชัย” รมว.คลัง ยังรอสหรัฐพิจารณาเคาะขยายกรอบเวลาหารือภาษีทรัมป์ หลังใกล้ครบกำหนด 90 วัน 8 ก.ค.นี้ เผยส่งรายละเอียดให้ USTR แล้ว นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้าและภาษีกับสหรัฐอเมริกา ว่า ขณะนี้กำลังดำเนินลงรายละเอียดก่อน แต่เบื้องต้นได้ส่งรายละเอียดไปยังผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ซึ่งเราได้คุยกันในระดับนั้น ส่วนไทยได้มีการขอขยายกรอบเวลาจากเดิมที่กำหนดไว้ 90 วันหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า สหรัฐฯคงดูอยู่ว่า ข้อเสนอมีความน่าสนใจหรือไม่ และถ้าหากพิจารณาว่าให้ขยายเวลาก็คงเสนอกลับมา ซึ่งคงต้องรอดูเพราะเราเพิ่งส่งรายละเอียดให้สหรัฐไม่กี่วัน ส่วนกำหนดในการเจรจาที่ชัดเจนที่จะบอกคนไทยได้นั้น นายพิชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีประเทศไหนบอกได้เลย และยังไม่มีประเทศใดจบจริงๆ จังๆ ทั้งนี้ การผ่อนผันมาตรการภาษีตอบโต้มีกำหนด 90 วันนั้น จะครบกำหนดในวันที่ 8 กรกฎาคม 2568.-312.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เข้าทำเนียบ หารือทีมมั่นคง-เศรษฐกิจ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-นายกฯ เข้าทำเนียบ หารือทีมงานด้านความมั่นคง-ทีมเศรษฐกิจ คาดประเมินผลกระทบมาตรการชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมติดตามสถานการณ์สงครามอิสราเอล-อิหร่าน ช่วงเช้าวันนี้ (23 มิ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติงาน ในเวลา 09.12 น. โดยก่อนที่นายกรัฐมนตรีเดินทางถึง มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) มารออยู่ก่อนหน้า โดยมีการเรียกทีมหน่วยงานด้านความมั่นคงหารือกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ หลังจากที่มีการออกมาตรการปิด-เปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทย จึงจะต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบ ส่วนหลังจากนี้จะมีการยกระดับมาตรการตอบโต้หรือไม่นั้น รายงานข่าวข่าว ระบุว่า ขอรอการหารือร่วมกับฝ่ายเศรษฐกิจก่อนว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใด หรือจะส่งผลกระทบกับส่วนใดบ้าง แต่ยืนยันในจุดยืนว่า จะต้องยึดเรื่องความมั่นคงเป็นหลัก และจะต้องลดผลกระทบทางเศรษฐกิจด้วย รายงานข่าวยังระบุอีกว่า ขณะนี้เองหน่วยงานด้านความมั่นคงต้องรับมือจากทั้งเรื่องปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา รวมไปถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งกองทัพต้องเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนย้ายประชาชน หากสถานการณ์ถึงจุดที่ต้องเคลื่อนย้ายประชาชนคนไทย โดยกองทัพไทยมีการเตรียมความพร้อมเครื่องบินของกองทัพ หากสถานการณ์วิกฤติสามารถยกเครื่องได้ภายใน 1 ชั่วโมงหากมีคำสั่ง ขณะที่ในเวลา 13.30 […]

“พิชัย” ย้ำ ตลาดทุนไทยยังแข็งแกร่ง

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-“พิชัย” รมว.คลัง ย้ำ “ตลาดทุนไทยยังแข็งแกร่ง” พร้อมรับมือความผันผวน หลังเหตุการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในช่วงเช้าวันนี้กรณีเหตุการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลางเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอาจสร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดการเงินทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย นายพิชัย เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจในภาพรวม โดยเฉพาะต่อเสถียรภาพของตลาดการเงินและการลงทุน “มาตรการเหล่านี้ไม่ใช่การปิดตลาดหรือการสกัดกั้นการลงทุน แต่เป็นการดูแลเสถียรภาพตลาดในช่วงที่มีเหตุการณ์ภายนอกที่ไม่แน่นอน เราเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจไทย และจะดำเนินการทุกวิถีทางในการรักษาความมั่นคงของตลาดทุนและความเชื่อมั่นของนักลงทุน” นายพิชัย กล่าว โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีการประชุมเร่งด่วนและมีมติออกมาตรการชั่วคราว 2 ข้อ เพื่อรองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในตลาด ได้แก่ 1.การปรับ Ceiling & Floor ของราคาหลักทรัพย์ 2.การปรับกรอบราคา Dynamic Price Band มาตรการทั้งสองนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ถึงไม่เกินวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ในช่วงเช้าวันนี้ เวลา 9.00 น. […]

“วันนอร์” แนะ “รัฐบาลอิ๊งค์ 2” งบ 69 ต้องแล้วเสร็จ

ปักกิ่ง 23 มิ.ย.-“วันนอร์” ยันปัญหาวุ่นของฝ่าย “บริหาร” ไม่สะท้าน “นิติบัญญัติ” แนะ “รัฐบาลอิ๊งค์ 2” ไทยมีปัญหารุมเยอะ ทั้ง “เศรษฐกิจ-ชายแดน” อะไรที่เป็นความขัดแย้งอย่าเพิ่งเสนอเข้าสภา จี้ งบ 69 ต้องแล้วเสร็จ เหตุประเทศต้องการเงินก้อน โยนวิป 2 ฝ่ายคุยกัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จะเอาอย่างไรต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการบริหารจัดการงานของสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประกาศเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อไป จากกรณีที่พรรคภูมิใจไทยถอนถอนตัวจากพรรคร่วมฯ ว่า รัฐสภาเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรี การเปลี่ยนแปลงในพรรค การเปลี่ยนจำนวนสัดส่วนฝ่ายค้านหรือรัฐบาลนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล สภาไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ แต่สภามีความพร้อมเมื่อเปิดสมัยประชุมญัตติ หรือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่รัฐบาลเสนอก็ต้องพิจารณากันไป “โดยเสียงรัฐบาลจะเป็นอย่างไรนั้นให้เป็นเรื่องของที่ประชุม เพราะสภามีอิสระในการลงคะแนน จึงคาดคะเนไม่ได้ แต่หวังว่ารัฐบาลจะดำเนินการไปได้ เพราะประเทศเรามีปัญหาเยอะทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาชายแดน ถ้าเราไม่สามัคคีกัน ไม่ฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้จะเป็นปัญหาต่อพี่น้องประชาชน” นายวันมูหะมัด นอร์ กล่าว […]

‘ปูติน’ ยืนยันสงครามในยูเครนไม่ได้ทำลายเศรษฐกิจรัสเซีย

มอสโก 21 มิ.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวในวันศุกร์ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่าสงครามในยูเครนกำลังทำลายเศรษฐกิจของรัสเซียอย่างรุนแรง โดยเขาอ้างถึง การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หนี้สินต่ำ และการกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจว่า เป็นสัญญาณของความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ ในระหว่างการประชุมเศรษฐกิจที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนายปูติน ได้ตอบคำกล่าวของผู้ดำเนินรายการประชุมที่ว่ามีรายงานที่น่าเชื่อถือชี้ว่าสงครามกำลังทำลายเศรษฐกิจรัสเซีย โดยนายปูตินได้อ้างคำพูดของ “มาร์ก ทเวน” นักเขียนชื่อดังที่กล่าวไว้ “ข่าวการตายของผมนั้นเกินจริงไปมาก” นายปูตินกล่าวว่า ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของรัสเซียที่ขยายตัวร้อยละ 43 นั้น ไม่เกี่ยวข้องกับภาคพลังงานหรือภาคกลาโหมแล้ว ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความพยายามของประเทศในการกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจให้พึ่งพิงภาคส่วนอื่น ๆ มากขึ้น ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนได้ประณามคำกล่าวของนายปูติน โดยระบุว่าสิ่งนี้คือหลักฐานที่แสดงถึง “การดูหมิ่น” ของรัสเซียต่อความพยายามสันติภาพของสหรัฐและกล่าวหาว่ารัสเซียยังคงมุ่งมั่นที่จะยึดครองดินแดนเพิ่มขึ้นและเข่นฆ่าชาวยูเครนมากขึ้น ปัจจุบัน รัสเซียควบคุมพื้นที่ประมาณ หนึ่งในห้าของยูเครน ซึ่งรวมถึงคาบสมุทรไครเมีย และพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาคอื่น ๆ ได้แก่ มากกว่าร้อยละ 99 ของภูมิภาคลูฮันสก์ กว่าร้อยละ 70ของภูมิภาคโดเนตสก์, ซาโปริชเชีย และเคอร์ซอน และพื้นที่บางส่วนของภูมิภาคคาร์คิฟ, ซูมี และดนีโปรเปตรอฟสก์.-813.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ สีหน้าเครียดนำประชุม คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ

ทำเนียบ 18 มิ.ย.-นายกฯ สีหน้าเครียดนำประชุม คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังแถลงข่าวด่วนยอมรับปมคลิปเสียงสนทนา “ฮุน เซน” ทำบรรยากาศอึมครึม ด้าน “อนุทิน” ร่วมโต๊ะด้วย ก้มหน้าก้มตาเขี่ยมือถือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.20 น. ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวด่วน ยอมรับปมคลิปเสียงหลุดที่ได้สนทนากับสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จบลง นายกรัฐมนตรี ได้เดินกลับเข้าไปภายใน ห้องประชุม ตึกภักดีบดินทร์ทันที เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3/2568 โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายชูศักดิ์ สิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และข้าราชการหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางการจับตาบรรยากาศภายในการประชุม […]

ธนาคารโลกชี้แผ่นดินไหวซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจถดถอยของเมียนมา

วอชิงตัน 12 มิ.ย. – ธนาคารโลกกล่าวในรายงานที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจที่กำลังประสบปัญหาของเมียนมาถูกคาดหมายว่าจะหดตัวลง ร้อยละ 2.5 เปอร์เซ็นต์ในปีงบประมาณ 2525/2526 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลกระทบที่รุนแรงจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปลายเดือนมีนาคม ธนาคารโลกระบุว่า ความเสียหายโดยตรงต่อทรัพย์สินและโครงสร้างพื้นฐานจากแผ่นดินไหวขนาด 7.7 นั้นอยู่ที่ประมาณ 11,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 14 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของเมียนมา โดยประมาณการว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจจะลดลงประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ จากระดับที่ควรจะเป็น หากไม่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ธนาคารโลกระบุว่า แผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 17 ล้านคน โดยมี 9 ล้านคนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง รัฐบาลทหารเมียนมาระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตสูงกว่า 3,700 ราย นางเมลินดา กู้ด ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและเมียนมาของธนาคารโลก กล่าวในแถลงการณ์ว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและการพลัดถิ่นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ซ้ำเติมสภาพเศรษฐกิจที่ยากลำบากอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถในการฟื้นตัวของชาวเมียนมาต่อไปอีก  ความพยายามในการฟื้นฟูประเทศเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยประชากรกลุ่มเปราะบางที่สุด.-813.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ มอบนโยบายทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ทำงานเชิงรุก

ทำเนียบ 9 มิ.ย.-นายกฯ มอบนโยบายเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ขอทำงานเชิงรุกต่อยอดจุดแข็งของไทยพร้อมแสวงหาโอกาส ภายใต้ความท้าทาย เร่งส่งเสริมบทบาทไทยในประชาคมโลก นำผลประโยชน์ ด้านเศรษฐกิจและการค้าขายให้ประเทศและประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายผ่านบันทึกวีดิทัศน์ ในพิธีเปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจําปี 2568 ภายใต้หัวข้อ “การทูตเชิงรุกที่ตอบโจทย์ประชาชน: จากนโยบายสู่การปฏิบัติ” โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีต่อการจัดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลกในครั้งนี้ พร้อมเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ ในฐานะด่านหน้าของประเทศไทยในประชาคมโลก โดยการประชุมในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและจัดทำแผนการดำเนินงานขับเคลื่อนประเทศไทยร่วมกัน ภายใต้หัวข้อการประชุมซึ่งมุ่งเน้นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล เพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทยทุกคน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบริบทโลกในปัจจุบันที่กำลังปรับสู่โครงสร้างโลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World) โดยระบบพหุภาคีกำลังเสื่อมถอยลง และการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะสงครามการค้าและเทคโนโลยี การแย่งชิงทรัพยากร ซึ่งส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่างประเทศ เศรษฐกิจโลก และส่งผลกระทบถึงไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดคำถามสำคัญคือไทยจะวางยุทธศาสตร์อย่างไร ในบริบทการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญและมีความท้าทายอย่างรอบด้านนี้ เพื่อให้ไทยและประชาชนชาวไทยได้ประโยชน์สูงสุด ภายใต้โครงสร้างอำนาจและระเบียบโลกใหม่ที่จะเกิดขึ้นต่อไป โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำ 2 ประเด็นสำคัญ ภายใต้บริบทปัจจุบัน ได้แก่ 1) การเสริมสร้างและต่อยอดจุดแข็งของประเทศ และ 2) การแสวงหาและช่วงชิงโอกาสใหม่ ๆ ภายใต้ความท้าทายได้อย่างฉับไวทันท่วงที โดยไทยมีจุดยืนทางการทูตที่ชัดเจนคือ ความเป็นมิตรและเข้าได้กับทุกฝ่าย […]

มท. ชงข้อเสนอโครงการฯ​ งบกระตุ้น​เศรษฐกิจ ​1.57 แสนล้าน

กทม.7 มิ.ย. – “มหาดไทย” ชงข้อเสนอโครงการฯ​ งบกระตุ้น​เศรษฐกิจ ​1.57 แสนล้านบาท​ กว่า 2 หมื่นโครงการ วงเงิน 79,960 ล้านบาท มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก​ สร้างความเข้มแข็งชุมชนท้องถิ่น​ ให้มั่นคง-ยั่งยืน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยรายละเอียดโครงการ และคำของบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ที่มีการรวบรวมข้อมูลผ่านสำนักนโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ภาพรวมหน่วยรับงบประมาณจากส่วนราชการระดับกรม หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จังหวัด กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 157,000 ล้านบาท รวมจำนวนทั้งสิ้น 21,259 โครงการ งบประมาณ 79,960,372,305 บาท มีรายละเอียด ดังนี้ ทั้งนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความเห็นชอบข้อเสนอโครงการและคำของบประมาณทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาโครงการฯ โดยกองจัดทำงบประมาณ สำนักงบประมาณ ซึ่งการจัดทำคำของบประมาณในครั้งนี้ […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ สั่งทบทวนแผน

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เดินหน้าคัดกรองโครงการลงทุน ผ่าน 100 โครงการ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ รองรับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ ทรัมป์ 2.0 ด้วยวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท หน่วยงานต่างๆ ได้นำเสนอโครงการจำนวนมาก เพื่อขอรับการจัดสรรงบฯ ดังกล่าว โดยมีสำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทำการคัดกรองโครงการให้เป็นไปตามเกณฑ์เบื้องต้น ประมาณ 100 โครงการ แบ่งเป็น 4 กลุ่มโครงการ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบชลประทาน พัฒนาระบบน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค การพัฒนาเส้นทางคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็ก โครงการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว มาตรการด้านการค้า และการส่งออก ตลอดจนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ส่วนกรณี กระทรวงมหาดไทย ขอรับจัดสรรงบประมาณ 8 หมื่นล้านบาทนั้น ได้ผ่านการคัดกรองเบื้องต้น และโครงการลงทุนพื้นฐานขนาดเล็ก ถือเป็นการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในทางหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นโครงการ หรือ มาตรการ ด้านการค้า หรือบรรเทาผลกระทบในภาคการส่งออก […]

“เจ้าสัวบุณยสิทธิ์” ชี้เศรษฐกิจเครื่องยนต์ 3 ล้อ ต้องปรับตัวถึงอยู่รอด

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย.-“เจ้าสัวบุณยสิทธิ์” ชี้เศรษฐกิจเครื่องยนต์ 3 ล้อ ต้องปรับตัวถึงอยู่รอด พร้อมลดบทบาทธุรกิจเสื้อผ้า หันร่วมทุนพันธมิตร นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า จากมาตรการภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงในขณะนี้ โดยเปรียบได้กับเศรษฐกิจเครื่องยนต์ 3 ล้อ ซึ่งแม้ในภูมิภาคเอเชีย เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ที่เห็นว่าเศรษฐกิจยังขยายตัวสูง เนื่องจากเป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำ ขณะที่ไทยซึ่งในอดีตเศรษฐกิจเคยเติบโตสูงมาก่อน ทำให้ในขณะนี้เริ่มเติบโตน้อยลง แต่ก็ยังถือว่าพอไปได้ ขณะเดียวกันจุดเด่นของประเทศไทย คือ การรักษาความเป็นกลาง นายบุณยสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการที่รัฐบาลมีการชะลอมาตรการแจกเงินออกไป โดยมองว่ามาตรการแจกเงินไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นเพียงมาตรการหาเสียงเป็นหลัก ดังนั้นแล้วรัฐบาลควรมีมาตรการในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีหลายโครงการที่ยังรอการพัฒนา โดยเฉพาะการลงทุนโครงการแลนด์บริดจ์ และการขุดคอคอดกระที่จะมาช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยในระยะยาวให้เติบโตขึ้น เพราะการเดินเรือของจีนมีการขยายตัวอย่างมากในปัจจุบัน ที่ผ่านๆ มา รัฐบาลมีแต่พูดถึงโครงการแลนด์บริดจ์ แต่ยังไม่ลงมือ เพราะมีบางประเทศไม่อยากให้ไทยทำ ดังนั้นรัฐบาลต้องมีความกล้า รวมไปถึงอาจจะต้องมีการขยายการลงทุนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ เซาท์อีซี ซึ่งคล้ายกับโครงการอีอีซี หรือระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกในปัจจุบัน นายบุณยสิทธิ์ ยังกล่าวยอมรับว่าด้วยว่าเศรษฐกิจปีนี้แย่กว่าช่วงโควิด แต่อย่างไรก็ดีถ้ารู้จักปรับตัวก็จะอยู่รอด โดยในส่วนของสหพัฒน์ฯ […]

“พิชัย” ย้ำต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่างชาติ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค.- “พิชัย” พร้อมผลักดันเงินลงทุนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ย้ำเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่างชาติ ดึงเอกชน รัฐวิสาหกิจ ลงทุนเพิ่ม หวังดันจีดีพีปี 69 โตร้อยละ 4-4.5 เดินหน้าขาดดุลงบประมาณลดลง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อสภาในการพิจารณาจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท คาดการณ์รายรับ 2.99 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 8.6 แสนล้านบาท ร้อยละ 4.3 ของจีดีพี โดยรวมยอดการชำระคืนหนี้สาธารณะไปด้วย จำนวน 1.5 แสนล้านบาท นับว่าสุทธิการขาดดุลเพื่อใช้ในด้านต่างๆ เพียงร้อยละ 3.5 ของจีดีพีเท่านั้น และขาดดุลลดลงจากปีก่อน โดยจัดสรรงบประมาณด้านการลงทุน 8.64 แสนล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 22.9 ของยอดงบประมาณทั้งหมด ยอมรับว่าเป็นที่จับตาของหลายฝ่าย จึงตั้งเป้าหมายในปีถัดไป ทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณลดลงต่อเนื่อง เหลือร้อยละ 3.6 ของจีดีพี ในปี 70 และร้อยละ […]

1 2 3 4 75
...