เรือโรฮีนจาแตกกลางทะเล ตาย 17 คน
มูลนิธิในเมียนมา เผยว่ามีผู้เสียชีวิต 17 คน จากเหตุเรือบรรทุกผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาหนีออกจากรัฐยะไข่ของเมียนมา แตกกลางทะเลเมื่อไม่กี่วันก่อน
มูลนิธิในเมียนมา เผยว่ามีผู้เสียชีวิต 17 คน จากเหตุเรือบรรทุกผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาหนีออกจากรัฐยะไข่ของเมียนมา แตกกลางทะเลเมื่อไม่กี่วันก่อน
กรุงเฮก 27 ก.ค.- นักดับเพลิงเนเธอร์แลนด์ยังไม่สามารถดับไฟไหม้บนเรือสินค้านอกชายฝั่งที่ลุกไหม้มาตั้งแต่เมื่อวาน สันนิษฐานว่าต้นเพลิงมาจากรถยนต์ไฟฟ้าที่อยู่บนเรือ หน่วยยามฝั่งเนเธอร์แลนด์แจ้งว่า เรือฟรีแมนเทิล ไฮเวย์ (Fremantle Highway) สัญชาติปานามา ยังคงถูกล่ามเชือกไว้กับเรือกู้ภัย เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากเกาะอามแลนด์ไปทางเหนือ 14.5 ไมล์ทะเล ขณะนี้ไฟยังคงลุกไหม้อยู่ อุณหภูมิบนเรือยังคงสูงมาก ทำให้การควบคุมไฟเป็นเรื่องยาก เพราะหากฉีดน้ำดับไฟมากเกินไปจะกระทบต่อการทรงตัวของเรือ คาดว่าไฟจะลุกไหม้ต่อไปอีกหลายวัน และจะก่อความเสียหายรุนแรงให้แก่ระบบนิเวศของหมู่เกาะใกล้เคียงที่อยู่ในทะเลวัดเดน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ครอบคลุมเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และเดนมาร์ก เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มากกว่า 10,000 ชนิด เหตุไฟไหม้เรือเกิดขึ้นก่อนเที่ยงคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ลูกเรือเสียชีวิต 1 คน ได้รับการช่วยเหลือ 22 คน เจ้าของเรือสันนิษฐานว่า ต้นเพลิงอาจมาจากรถยนต์ไฟฟ้าที่เรือลำนี้บรรทุกอยู่เกือบ 3,000 คัน อย่างไรก็ดี ต้องสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย
เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยของอินโดนีเซียกล่าววันนี้ว่า เรือโดยสารทำด้วยไม้จมลงนอกชายฝั่งเกาะสุลาเวสี ของอินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิต 15 รายและพบผู้โดยสารที่สูญหายไปครบทุกคนแล้ว
จีนกล่าววันนี้ว่า เรือของหน่วยยามฝั่งของจีนเกือบชนกับเรือลาดตระเวณของฟิลิปปินส์ที่มีผู้สื่อข่าวอยู่ในเรือด้วยขณะอยู่ในทะเลจีนใต้
เจดดาห์ 26 เม.ย.- ซาอุดีอาระเบียแจ้งว่า เรือที่นำพลเรือน 1,687 คนจากมากกว่า 50 ประเทศหนีความไม่สงบในซูดานได้เดินทางมาถึงซาอุดีอาระเบียแล้วในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นภารกิจกู้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย กระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียแถลงว่า พลเรือนกลุ่มนี้ได้รับการลำเลียงออกจากซูดานโดยเรือของซาอุดีอาระเบีย ประกอบด้วยชาวซาอุดีอาระเบีย 13 คน และคนจากหลายภูมิภาคทั้งตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป เอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง จนถึงขณะนี้ซาอุดีอาระเบียได้รับผู้อพยพออกจากซูดานหลายชุดแล้วทั้งทางอากาศและทางทะเลรวมทั้งหมด 2,148 คน ในจำนวนนี้มากกว่า 2,000 คนเป็นชาวต่างชาติ เริ่มจากเรือที่นำนักการทูตและเจ้าหน้าที่ต่างชาติประมาณ 150 คน เดินทางมาถึงเมืองเจดดาห์เมื่อวันเสาร์ ส่วนเมื่อวันจันทร์เครื่องบินลำเลียงซี-130 เฮอร์คิวลิสได้นำพลเมืองชาวเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งมาถึงฐานทัพอากาศอับดุลลาห์ในเมืองเจดดาห์ และเรือที่นำคนเกือบ 200 คนจาก 14 ประเทศข้ามทะเลแดงมาจากเมืองพอร์ตซูดานของซูดาน กองกำลังที่ภักดีต่อนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์มาน ผู้บัญชาการกองทัพและกองกำลังที่ภักดีต่อนายพลมูฮัมหมัด ฮัมดัน ดาโกล ผู้บัญชาการกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ที่เป็นกองกำลังกึ่งทหาร สู้รบกันตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 459 คน บาดเจ็บมากกว่า 4,000 […]
มะนิลา 21 มี.ค.- ฟิลิปปินส์แจ้งว่า พบเรือน้ำมันที่จมลงทะเลเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนแล้ว ขณะที่คราบน้ำมันรั่วจากเรือได้แผ่ไปถึงแหล่งที่มีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ ผู้ว่าการจังหวัดโอเรียนตัลมินโดโร บนเกาะมินโดโร ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 140 กิโลเมตรเผยว่า ยานสำรวจใต้น้ำควบคุมจากระยะไกลของญี่ปุ่นพบเรือพรินเซสส์ เอ็มเพรสส์ (Princess Empress) ที่ระดับความลึกลงไปจากผิวน้ำเกือบ 400 เมตร เขาได้รับภาพถ่ายชุดแรกยืนยันตำแหน่งของเรือในเช้าวันนี้ ด้านสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติเผยว่า ยานสำรวจใต้น้ำจะประเมินสภาพความเสียหายของเรือก่อนตัดสินใจเรื่องวิธีการควบคุมน้ำมันรั่วไหลต่อไป เรือลำนี้บรรทุกน้ำมันเตาปริมาณ 800,000 ลิตร อับปางนอกชายฝั่งเกาะมินโดโรเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ น้ำมันเตาที่บรรทุกมาและน้ำมันดีเซลที่เป็นเชื้อเพลิงของเรือได้รั่วไหลออกมาปนเปื้อนน้ำทะเลและชายหาดของจังหวัดโอเรียนตัลมินโดโรและอีกหลายเกาะ ฟิลิปปินส์ได้ขอความช่วยเหลือจากหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐ ฝรั่งเศส ให้ช่วยจำกัดและกำจัดคราบน้ำมัน จนถึงขณะนี้คราบน้ำมันได้แผ่ไปไกลถึงเกาะเคเซียนไอส์แลนด์ นอกชายฝั่งทางเหนือของเกาะปาลาวัน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เรืออับปางไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 350 กิโลเมตร และแผ่ขึ้นเหนือไปยังช่องแคบเกาะเวิร์ดที่เป็นเส้นทางเดินเรือระหว่างเกาะมินโดโรกับเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักของฟิลิปปินส์ และมีความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล.-สำนักข่าวไทย
มะนิลา 2 มี.ค.- ทางการฟิลิปปินส์แจ้งว่า เรือบรรทุกน้ำมันของฟิลิปปินส์ที่อับปางจมลงใต้ทะเลเริ่มมีน้ำมันเตาที่บรรทุกมา รั่วไหลออกมาแล้ว เรือปรินเซสส์ เอ็มเพรสส์ (Princess Empress) บรรทุกน้ำมันเตาปริมาณ 800,000 ลิตร เกิดปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องและจมลงในทะเลที่มีคลื่นลมแปรปรวนนอกชายฝั่งจังหวัดโอเรียนตัล มินโดโร ระหว่างเดินทางออกจากจังหวัดบาตาอัน ใกล้กรุงมะนิลา ไปยังจังหวัดอีโลอีโล ทางตอนกลางของประเทศเมื่อวันอังคาร หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์แจ้งในเบื้องต้นว่า น้ำมันที่รั่วไหลเป็นน้ำมันดีเซลที่ใช้กับเครื่องยนต์ ไม่ใช่น้ำมันเตาที่บรรทุกมา โดยรั่วไหลกินพื้นที่มากกว่า 24 ตารางกิเมตรนับจนถึงวันพุธ แต่ผลการตรวจตัวอย่างน้ำพบน้ำมันเตาปนเปื้อนในน่านน้ำนอกเทศบาลเนาฮัน จังหวัดโอเรียนตัล มินโดโร จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า มีน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตารั่วไหลปนเปื้อนในปริมาณมากเพียงใด ผู้ว่าการจังหวัดโอเรียนตัล มินโดโรเผยว่า หน่วยยามฝั่งรับปากว่าพร้อมจะสูบน้ำมันออกจากเรือ ทันทีที่สามารถระบุจุดที่เรืออับปาง โดยคาดว่าเรือจมลงไป 460 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่ผลการบินตรวจการณ์ 2 เที่ยวที่ผ่านมายังไม่สามารถระบุจุดได้ ในระหว่างนี้หน่วยยามฝั่งได้ใช้ทุ่นกักน้ำมันพยายามจำกัดวงของน้ำมันที่รั่วไหล และฉีดพ่นสารเคมีทำให้น้ำมันแตกตัว ด้านชาวประมงและผู้ประกอบการท่องเที่ยวแสดงความเป็นห่วงว่า จะกระทบต่อการดำเนินชีวิตของพวกเขาที่ยังชีพด้วยสัตว์น้ำและการท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย
ฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ประณามการกระทำที่ก้าวร้าวของเรือรบจีน ที่ถูกระบุว่าใช้แสงเลเซอร์ที่ใช้สำหรับการทหาร ส่องมายังเรือลาดตระเวนของฟิลิปปินส์ที่อยู่ในพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ลูกเรือหลายคนมีอาการตาบอดชั่วขณะ
กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแจ้งว่า เรือสำรวจของกองทัพเรือจีนได้เข้ามาในน่านน้ำของญี่ปุ่นในวันนี้ เป็นน่านน้ำรอบหมู่เกาะที่อยู่ใกล้กับจังหวัดคาโกชิมะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น
จาการ์ตา 27 ธ.ค.- อินโดนีเซียแจ้งว่า ได้ให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉินแก่ชาวโรฮีนจา หลังจากเรือที่มีชาวโรฮีนจาเกือบ 200 คนมาเกยหาดเมื่อวันจันทร์ และเป็นการขึ้นฝั่งอินโดนีเซียครั้งที่ 4 ในช่วง 2 เดือน ตำรวจท้องถิ่นจังหวัดอาเจะห์ ทางตะวันตกสุดของอินโดนีเซียเผยว่า เรือไม้ลำหนึ่งมาเกยชายหาดเมื่อเวลา 17:30 น.วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย บนเรือมีชาวโรฮีนจา 185 คน เป็นผู้ชาย 83 คน ผู้หญิง 70 คน และเด็ก 32 คน เจ้าหน้าที่ได้นำไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว และให้บุคลากรทางการแพทย์ดูแลผู้ที่เจ็บป่วย ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ชาวโรฮีนจาหลายคนดูเหนื่อยล้ามาก ผอมโซ และต้องได้รับน้ำเกลือ บางคนมีอาการขาดน้ำ และมีเด็กอาเจียน ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องการล่องเรือของพวกเขา วัยรุ่นชาวโรฮีนจาวัย 14 ปี เผยว่า ล่องเรือมาจากค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ และหวังว่าอินโดนีเซียจะให้โอกาสให้พวกเขาได้เล่าเรียน ผู้นำชุมชนประมงในที่เกิดเหตุเผยว่า ช่วงหลายปีมานี้ชาวประมงอาเจะห์ได้ช่วยนำเรือชาวโรฮีนจามาขึ้นฝั่งหลายลำ แต่เรือลำล่าสุดมาเกยหาดเองเพราะกระแสลม เนื่องจากชาวประมงเริ่มลังเลที่จะให้ความช่วยเหลือ เรือลำนี้มาเกยหาดจังหวัดอาเจะห์ หลังจากเรืออีกลำที่มีชาวโรฮีนจา 57 คนเพิ่งมาขึ้นฝั่งได้ 1 […]
ธากา 26 ธ.ค.- หน่วยงานของสหประชาชาติสันนิษฐานว่า เรือลำหนึ่งที่มีชาวโรฮีนจาอยู่บนเรือประมาณ 180 คนน่าจะอับปางลงแล้ว ตั้งแต่ล่องออกจากบังกลาเทศเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) แจ้งช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เกรงว่าเรือลำดังกล่าวซึ่งไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมออกทะเลได้สูญหายกลางทะเลไปแล้ว และคนบนเรือเสียชีวิตหมดทั้ง 180 คน เพราะเรือน่าจะเริ่มแตกตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ก่อนขาดการติดต่อไป โฆษกระบุด้วยว่า ปีนี้มีชาวโรฮีนจาเสียชีวิตหรือสูญหายกลางทะเลแล้วเกือบ 200 คน ถือเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดปีหนึ่ง หลังจากที่มีชาวโรฮีนจาเสียชีวิตหรือสูญหายกลางทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอลเกือบ 900 คนในปี 2556 และมากกว่า 700 คนในปี 2557 นอกจากนี้ยังพบว่าจำนวนชาวโรฮีนจาที่พยายามเสี่ยงตายหนีออกจากค่ายอพยพได้กลับมาใกล้ระดับก่อนโควิดระบาด เฉพาะที่ล่องเรือออกจากบังกลาเทศในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ถึง 5 เท่า ยูเอ็นเอชซีอาร์ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า การที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นจุดหมายหลักของชาวโรฮีนจาผ่อนคลายมาตรการจำกัดโควิด มีส่วนทำให้ชาวโรฮีนจาพากันล่องเรือเสี่ยงตายมากขึ้นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย
จาการ์ตา 15 พ.ย.- เรือที่มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญามากถึง 111 คน ขึ้นฝั่งจังหวัดอาเจะห์ ทางเหนือสุดของอินโดนีเซียในวันนี้ เจ้าหน้าที่จังหวัดอาเจะห์เผยว่า ผู้ลี้ภัยทั้ง 111 คนมีสุขภาพแข็งแรงดี ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 18 คน และสตรี 27 คน ทางการได้นำไปพักในหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นการชั่วคราว และจะหารือกันในวันนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญามักอาศัยช่วงคลื่นลมในทะเลสงบระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนล่องเรือออกจากภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมาหนีมายังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยในช่วงหลายปีมานี้ได้ล่องเรือมาขึ้นฝั่งที่จังหวัดอาเจะห์แล้วหลายร้อยคน บางครั้งต้องลอยเรืออยู่กลางทะเลนานหลายเดือน เมียนมาถือว่าชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม เป็นผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายจากบังกลาเทศแม้ว่าเกิดในเมียนมาก็ตาม ชาวโรฮิงญามากกว่า 730,000 คนหนีออกจากเมียนมาในปี 2560 หลังจากกองทัพเมียนมายกกำลังขึ้นไปโดยอ้างว่าเพื่อปราบปรามกลุ่มก่อเหตุไม่สงบ แต่ผู้เห็นเหตุการณ์แย้งว่า ทหารเมียนมาได้สังหารหมู่และข่มขืนชาวโรฮิงญา.-สำนักข่าวไทย