“ฮุน เซน” เชิญ “มิน อ่องหล่าย” ประชุมสุดยอดอาเซียน

พนมเปญ 25 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาเผยว่า ได้เชิญพลเอกอาวุโสมิน อ่องหล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเข้าร่วมประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน หากเมียนมามีความคืบหน้าเรื่องการปฏิบัติตามแผนสันติภาพที่ตกลงกันไว้เมื่อปีก่อน นายกรัฐมนตรีฮุน เซนในฐานะประธานอาเซียนวาระปัจจุบันเผยว่า จะคุยผ่านระบบวิดีโอทางไกลกับผู้นำเมียนมาในวันพุธ เฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรีฮุน เซนได้ลงแถลงการณ์สรุปการสนทนาระหว่างเขากับนายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ยาคอบของมาเลเซียว่า นายกรัฐมนตรีแจ้งว่าได้เชิญพลเอกอาวุโสมิน อ่องหล่ายมาร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน หากมีความคืบหน้าเรื่องการปฏิบัติตามแผนฉันทามติ 5 ข้อที่เมียนมาตกลงกับอาเซียนเมื่อเดือนเมษายนปีก่อนเรื่องยุติความเป็นปรปักษ์และเปิดทางให้มีการเจรจา แต่หากไม่มีความคืบหน้า ผู้นำเมียนมาต้องส่งผู้แทนที่ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองมาร่วมประชุมอาเซียนแทน ผู้นำกัมพูชาไปเยือนเมียนมาเมื่อวันที่ 7 มกราคม ถือเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกนับตั้งแต่กองทัพเมียนมารัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน ทำให้บางประเทศกังวลว่าอาจถูกตีความว่าอาเซียนให้การรับรองผู้นำทหารเมียนมา กัมพูชาแสดงออกว่าไม่ต้องการโดดเดี่ยวเมียนมา แต่ผู้นำสมาชิกอาเซียนอย่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์กดดัน ไม่ให้ยอมอ่อนข้อให้แก่เมียนมา.-สำนักข่าวไทย

จนท.ปลอมเป็นคนตกปลา บุกจับแรงงานเถื่อน

เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการ “ราชสีห์พิทักษ์เมือง” ปลอมตัวเป็นคนตกปลา ก่อนบุกรวบขบวนการขนแรงงานต่างด้าวมากกว่า 30 คน พร้อมรวบโชเฟอร์คนไทย ก่อนนำตัวทั้งหมดไปตรวจ ATK พบติดเชื้อโควิด 1 ราย เสี่ยงสูง 17 ราย

ทูตยูเอ็นขออาเซียนหนุนทุกฝ่ายในเมียนมาร่วมแก้วิกฤต

วอชิงตัน 13 ม.ค.- ดร.โนลีน เฮเซอร์ ทูตพิเศษสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรื่องเมียนมาขอให้สมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนสนับสนุนความพยายามของนานาชาติที่ต้องการให้ทุกฝ่ายในเมียนมาได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขวิกฤตประเทศ ยูเอ็นแถลงวันนี้ว่า ดร.เฮเซอร์ ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการใหญ่ยูเอ็นด้านเมียนมา ได้หารือเสมือนจริงกับนายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาที่เป็นประธานอาเซียนวาระปัจจุบัน โดยได้ขอให้ร่วมมือเรื่องจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และหาทางทำให้แผนสันติภาพฉันทามติ 5 ข้อที่ชะงักงันมีความคืบหน้า ดร.เฮเซอร์สนับสนุนให้มีมาตรการสร้างความไว้วางใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเมียนมา นอกเหนือไปจากองค์กรกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ และขอให้นายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาร่วมกับเธอและประชาคมโลกสร้างยุทธศาสตร์ที่มุ่งไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจรจาแบบครอบคลุมทุกฝ่าย เพราะวิธีการแก้ปัญหาต้องมาจากเข้าไปข้องเกี่ยวโดยตรง และรับฟังทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบอย่างเอาใจใส่ ทูตของบรูไนเคยกำหนดเงื่อนไขการเยือนเมียนมาในช่วงที่บรูไนดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปีก่อนว่า ต้องการพบกับทุกฝ่ายในเมียนมา แต่นายปรัก สุคน แย้งว่า เป็นวิธีที่ไม่ได้ผล ล่าสุดนายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาเพิ่งนำคณะไปเยือนเมียนมาเป็นเวลา 2 วันเมื่อสัปดาห์ก่อน และได้พบหารือกับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่ายของเมียนมา แต่ไม่ได้พบกับนางออง ซาน ซู จี ผู้นำพลเรือนที่ถูกกองทัพรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน และคุมขังอยู่จนถึงขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

ศาลเมียนมาสั่งจำคุก “ซูจี” 4 ปีกรณีวิทยุสื่อสาร

เนปิดอว์ 10 ม.ค. – ศาลของรัฐบาลทหารเมียนมาตัดสินจำคุกนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจ เป็นเวลา 4 ปีในความผิดหลายข้อหา ซึ่งรวมถึงข้อหาครอบครองวิทยุสื่อสาร หรือ วอล์คกี้ ทอล์คกี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต แหล่งข่าวใกล้ชิดการพิจารณาคดีดังกล่าวเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ศาลเมียนมาได้สั่งจำคุกนางซูจี วัย 76 ปี เป็นเวลา 2 ปีในข้อหาละเมิดกฎหมายนำเข้า-ส่งออกโดยมีวิทยุสื่อสารไว้ในครอบครอง และได้รับโทษจำคุก 1 ปีจากข้อหาครอบครองชุดอุปกรณ์รบกวนสัญญาณ ซึ่งจะเป็นการรับโทษไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ ศาลเมียนมายังสั่งจำคุกนางซูจีอีก 2 ปีจากข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายจัดการภัยธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดในการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ นางซูจีกำลังถูกพิจารณาคดีอีกกว่าสิบคดีที่มีโทษจำคุกรวมกันมากกว่า 100 ปี แต่เธอให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนหน้านี้ นางซูจีเพิ่งได้รับโทษจำคุก 4 ปีในข้อหายุยงปลุกปั่นและฝ่าฝืนข้อกำหนดเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมปีก่อน แม้ศาลจะลดโทษดังกล่าวเหลือจำคุก 2 ปีในภายหลัง แต่หลายประเทศต่างประณามการพิจารณาคดีดังกล่าว ซึ่งนักวิเคราะห์หลายรายมองว่าเป็นการพิจารณคดีที่ไม่น่าเชื่อถือ ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนนางซูจีระบุว่า ข้อกล่าวหาต่าง ๆ […]

ชาวเมียนมาต่อต้าน “ฮุน เซน” เยือนเมียนมา

ย่างกุ้ง 7 ม.ค. – ชาวเมียนมาในหลายพื้นที่ของประเทศออกมาชุมนุมต่อต้านการเดินทางเยือนเมียนมาของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลทหารเมียนมา ในขณะที่ผู้นำกัมพูชาได้รับการต้อนรับที่ท่าอากาศยานด้วยการเดินพรมแดงที่มีแถวทหารกองเกียรติยศ ชาวเมียนมาที่เมืองเดปายิน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเนปิดอว์ไปทางเหนือราว 300 กิโลเมตร ได้ออกมาชุมนุมประท้วงการเดินทางเยือนเมียนมาของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ด้วยการจุดไฟเผารูปผู้นำกัมพูชาและพูดพร้อมกันว่า ‘นายกรัฐมนตรีฮุน เซนอย่ามาเมียนมา พวกเราไม่ต้องการผู้นำเผด็จการจากกัมพูชา’ (Hun Sen don’t come to Myanmar. We don’t want dictator Hun Sen.) นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ชาวเมียนมาในเขตมัณฑะเลย์ เขตตะนาวศรี และเขตโมนยวา ต่างออกมาชุมนุมต่อต้านเช่นเดียวกัน ส่วนผู้นำกลุ่มนักเคลื่อนไหวในเมียนมาคนหนึ่งโพสต์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน จะเผชิญกับเหตุประท้วงครั้งใหญ่ในระหว่างการเดินทางเยือนเมียนมา ซึ่งจะทำให้สถานะของอาเซียนย่ำแย่ลง ในขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาระบุในแถลงการณ์ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน จะเข้าพบพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือระดับทวิภาคีและพหุภาคี รวมถึงความคืบหน้าล่าสุดของอาเซียน ขณะที่โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมายืนยันว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน […]

นายกฯ กัมพูชาจะเริ่มเยือนเมียนมาวันนี้

พนมเปญ 7 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาจะเริ่มเยือนเมียนมาในวันนี้ เพื่อพบหารือกับคณะผู้นำทหาร จุดกระแสประท้วงจากฝ่ายต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาที่เกรงว่า การเยือนดังกล่าวจะสร้างความชอบธรรมให้แก่รัฐบาลทหารเมียนมา นายกรัฐมนตรีฮุน เซนจะเป็นผู้นำประเทศคนแรกที่เยือนเมียนมา นับตั้งแต่กองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ฝ่ายต่อต้านรัฐประหารในเมืองเดปายิน เขตสะกาย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมา ชุมนุมเผาโปสเตอร์ภาพผู้นำกัมพูชา นอกจากนี้ยังมีรายงานการชุมนุมประท้วงในเขตมัณฑะเลย์ เขตตะนาวศรี และเมืองโมนยวาในเขตสะกายด้วย กลุ่มประสานงานการผละงานที่ประกอบด้วยองค์กรต่อต้านรัฐประหารในเมียนมามากกว่า 260 แห่งประณามนายกรัฐมนตรีฮุน เซนว่าสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมา ขณะที่เจ้าหน้าที่องค์การนิรโทษกรรมสากลขอให้ผู้นำกัมพูชายกเลิกการเยือน และนำอาเซียนดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขสถานการณ์สิทธิมนุษยชนเลวร้ายในเมียนมา กัมพูชาเป็นประธานสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนวาระปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีฮุน เซนเรียกร้องเมื่อวันพุธให้ทุกฝ่ายในเมียนมาใช้ความอดกลั้น และขอให้ปฏิบัติตามแผนสันติภาพตั้งแต่ต้นจนจบ ด้านประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียทวีตผ่านทวิตเตอร์หลังจากสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า หากไม่มีความคืบหน้าเรื่องการปฏิบัติตามแผนสันติภาพฉันทามติ 5 ข้อที่เมียนมาตกลงกับอาเซียนเมื่อเดือนเมษายนปีก่อน ก็ไม่ควรให้ตัวแทนทางการเมืองของเมียนมาเข้าร่วมการประชุมอาเซียน.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเตือนเมียนมามีองค์ประกอบสงครามกลางเมืองครบ

สิงคโปร์ 5 ม.ค. – กัมพูชา ซึ่งเป็นประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ประจำปีนี้ เตือนว่า เมียนมามีองค์ประกอบที่จะทำให้เกิดสงครามกลางเมืองครบถ้วน ในขณะที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา จะเดินทางเยือนเมียนมาในวันที่ 7 มกราคมนี้ นายปรัก สุคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาและทูตพิเศษอาเซียนว่าด้วยกิจการเมียนมา กล่าวระหว่างการบรรยายที่สถาบันเอเชียอาคเนย์ศึกษา ยูซุฟ อิสฮัค ซึ่งเป็นองค์กรวิชาการอิสระของสิงคโปร์ในวันนี้ว่า สถานการณ์ทางการเมืองและความมั่นคงในเมียนมากำลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และอาจนำไปสู่วิกฤตด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ และมนุษยธรรม กัมพูชาคิดว่าเมียนมามีองค์ประกอบที่จะทำให้เกิดสงครามกลางเมืองครบถ้วน เพราะขณะนี้เมียนมามีสองรัฐบาล มีกองกำลังแบ่งเป็นฝักฝ่าย ประชาชนเข้าร่วมในขบวนการอารยะขัดขืนต่อต้านรัฐประหาร และเกิดสงครามกองโจรทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี นายปรัก สุคน ระบุว่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเดินทางเยือนเมียนมาของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ว่าเป็นไปเพื่อสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลทหารเมียนมานั้นไม่เป็นความจริง แต่กัมพูชาต้องการกระตุ้นให้เกิดการแก้ไขสถานการณ์ของเมียนมาในทันที และยังคงให้ความสำคัญกับแผนฉันทามติ 5 ข้อที่เมียนมาตกลงไว้กับบรรผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนเมื่อปีก่อน นายปรัก สุคน ยังระบุว่า การเดินทางเยือนเมียนมาของผู้นำกัมพูชามีวัตถุประสงค์เพื่อปูทางไปสู่ความก้าวหน้าด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจรจาอย่างครอบคลุมและสร้างความไว้วางใจทางการเมืองของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขามองว่า วิกฤตในเมียนมาส่งผลร้ายต่อความมั่นคงในระดับภูมิภาคของอาเซียน เช่น ภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น และความสามัคคี อย่างไรก็ดี กัมพูชาจะพยายามหาทางให้พลเอกอาวุโสมิน […]

อียูพร้อมใช้มาตรการลงโทษเมียนมาเพิ่มจากเหตุสังหารหมู่

บรัสเซลส์ 30 ธ.ค.-สหภาพยุโรป หรืออียู เตรียมประกาศใช้มาตรการลงโทษเมียนมาเพิ่มเติม หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ที่รัฐกะยาของเมียนมาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม หรือตรงกับวันคริสต์มาสอีฟ และเรียกร้องให้นานาชาติหยุดจำหน่ายอาวุธให้เมียนมา นายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียู ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า นานาชาติจำเป็นต้องใช้มาตรการป้องกันระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงมาตรการห้ามขายอาวุธให้เมียนมา เนื่องจากสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในเมียนมา อียูเตรียมพร้อมที่จะใช้มาตรการลงโทษเพิ่มเติมต่อรัฐบาลทหารเมียนมา ทั้งยังระบุว่า จำเป็นต้องจับตัวผู้กระทำความผิดจากเหตุสังหารหมู่ที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกองทัพเมียนมาในรัฐกะยาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมมาลงโทษโดยด่วน เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย ในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็ก ผู้หญิง และเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมรวมอยู่ด้วย นับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา อียูได้ประกาศใช้มาตรการลงโทษที่มุ่งเน้นไปยังกลุ่มผู้นำและนายพลระดับสูงที่กุมอำนาจในกองทัพเมียนมา นอกจากนี้ อียูยังสั่งระงับความช่วยเหลือทางการเงินให้แก่รัฐบาลทหารเมียนมา รวมถึงความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ ที่อาจทำให้รัฐบาลทหารได้รับความชอบธรรม.-สำนักข่าวไทย

เผย จนท. “เซฟ เดอะ ชิลเดรน” ตายในเหตุสังหารหมู่เมียนมา

ย่างกุ้ง 29 ธ.ค. – “เซฟ เดอะ ชิลเดรน” (Save the Children) องค์กรการกุศลระหว่างประเทศ ยืนยันเมื่อวันอังคารว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิ 2 คนที่หายตัวไป เป็นผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งในเหตุสังหารหมู่ในวันคริสต์มาส อีฟ ที่รัฐกะยา ทางตะวันออกของเมียนมา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย ซึ่งมีสตรีและเด็กรวมอยู่ด้วย ขณะที่สหรัฐกดดันให้ทั่วโลกใช้มาตรการห้ามขายอาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมา “เซฟ เดอะ ชิลเดรน” ยืนยันในแถลงการณ์ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิ 2 คนที่หายตัวไปก่อนหน้านี้เป็นผู้เสียชีวิตในกลุ่มผู้ที่ถูกสังหารอย่างน้อย 35 รายจากเหตุสังหารหมู่ในวันที่ 24 ธันวาคม หรือตรงกับวันคริสต์มาสอีฟ กองทัพเมียนมาได้บังคับให้ทุกคนลงจากรถโดยสาร จับกุมคนจำนวนหนึ่ง สังหารผู้คนจำนวนมาก และจุดไฟเผาศพ ทั้งยังระบุว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิที่เสียชีวิตคนหนึ่งเป็นครูฝึกสอน ส่วนอีกคนทำงานกับมูลนิธิมาเป็นเวลา 6 ปี นอกจากนี้ “เซฟ เดอะ ชิลเดรน” ยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี จัดประชุมและเร่งดำเนินการหาตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน สหรัฐ ซึ่งเป็นแกนนำในการคว่ำบาตรรัฐประหาร […]

ทูตพิเศษเมียนมาของยูเอ็นร้องประกาศหยุดยิงในเมียนมา

สิงคโปร์ 28 ธ.ค. – ดร. โนลีน เฮย์เซอร์ ทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาคนใหม่ของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุเมื่อวันจันทร์ว่า เธอรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในเมียนมา และเรียกร้องให้ใช้ประกาศหยุดยิงในช่วงปีใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ดร. เฮย์เซอร์ ระบุในแถลงการณ์ครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาของยูเอ็นเมื่อสองสัปดาห์ก่อนว่า เธอขอให้ยุติการสู้รบทั่วประเทศ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติมากขึ้น และเคารพต่อข้อผูกพันตามสัญญาภายใต้กฎหมายด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนเพื่อปกป้องพลเรือน การเดินทางอย่างปลอดภัยเมื่อจำเป็น และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ที่จำเป็น ซึ่งรวมถึงผู้ที่ถูกบังคับให้หลบหนีความรุนแรง ดร. เฮย์เซอร์ ยังระบุว่า ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในเมียนมาทำให้พลเรือนหลายแสนคนต้องพลัดถิ่นฐาน ซึ่งรวมถึงสตรีและเด็ก ในจำนวนนี้ มีหลายคนกำลังหาที่หลบภัยโดยการข้ามพรมแดนเพื่อขอความคุ้มครองและความช่วยเหลือ ในขณะที่อีกหลายคนยังคงติดค้างอยู่ในเมียนมา ขณะนี้ เธอกำลังปรึกษากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านการสนับสนุนและช่วยเหลือเมียนมา โดยจะยังคงให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศที่สอดคล้องกันบนพื้นฐานของความสามัคคีในภูมิภาค แถลงการณ์ของ ดร. เฮย์เซอร์ มีขึ้นหลังเกิดเหตุสังหารหมู่และเผาคนในวันคริสต์มาสอีพที่รัฐกะยา ทางตะวันออกของเมียนมา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย โดยที่กลุ่มเฝ้าระวังและสื่อท้องถิ่นของเมียนมากล่าวหาว่า รัฐบาลทหารเมียนมาเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้. -สำนักข่าวไทย

1 42 43 44 45 46 127
...