เครื่องบิน

ประธานาธิบดีอิลฮาม อาลีเยฟ ผู้นำอาเซอร์ไบจานเรียกร้องให้รัสเซียรับผิดชอบกรณีเครื่องบินโดยสารตก

แหล่งข่าวทางด้านอุตสาหกรรมการบินของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เครื่องบินของสายการบินเชจู แอร์ ลำที่เกิดอุบัติเหตุตกที่คร่าชีวิต 179 ราย ถูกพบว่ามีการบินใฃ้งาน 13 เที่ยวบินในช่วงเวลา 48 ชั่วโมง

โซล 29 ธ.ค.- ครอบครัวของผู้โดยสารเครื่องบินสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) รอฟังเจ้าหน้าที่แจ้งความคืบหน้าเหตุการณ์เครื่องบินชนรั้วกั้นที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ และฟังการแจ้งรายชื่อผู้เสียชีวิตด้วยหัวใจสลาย บรรยากาศที่ห้องโถงรอภายในท่าอากาศยานนานาชาติมูอันของเกาหลีใต้เต็มไปด้วยความเศร้าโศก ครอบครัวผู้เสียชีวิตบางรายร่ำไห้เสียงดังอย่างน่าสะเทือนใจ เมื่อผู้อำนวยการศูนย์สาธารณสุขเมืองมูอันประกาศรายชื่อผู้เสียชีวิต 22 คนที่ได้รับการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลจากลายนิ้วมือ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วมีทั้งหมด 151 คน นับจนถึงเวลา 16.49 น.วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 14.49 น.วันนี้ตามเวลาไทย จากจำนวนคนบนเครื่องบินทั้งหมด 181 คน เป็นผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน พบผู้รอดชีวิตแล้ว 2 คน เป็นลูกเรือที่ได้รับการช่วยเหลือทันทีที่เกิดเหตุ อาการบาดเจ็บไม่ถึงชีวิต และถูกย้ายจากโรงพยาบาลท้องถิ่นไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงโซลแล้ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าร่วมการกู้ภัยเผยว่า หลังจากที่เครื่องบินชนกับรั้วกั้นที่เป็นกำแพงคอนกรีต คนบนเครื่องบินได้ถูกเหวี่ยงกระเด็นออกมา โอกาสรอดชีวิตจึงต่ำมาก ขณะที่การพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเครื่องบินอยู่ในสภาพเสียหายหนัก เจ้าหน้าที่กำลังเก็บกู้ซากทั้งหมดซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง.-814.-สำนักข่าวไทย

โซล 29 ธ.ค.- ผู้เห็นเหตุการณ์อ้างว่า เห็นไฟลุกที่เครื่องยนต์ของเครื่องบินสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) และได้ยินเสียงระเบิดก่อนที่เครื่องบินจะชนรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอันในเกาหลีใต้ช่วงเช้าวันนี้ เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานอ้างคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์หลายราย ชายวัย 41 ปีที่เช่าบ้านอยู่ใกล้ท่าอากาศยานเล่าว่า เห็นประกายไฟที่ปีกขวาของเครื่องบินก่อนเกิดเหตุ ชายอีกคนที่กำลังเดินเล่นห่างจากจุดเกิดเหตุราว 4.5 กิโลเมตรเล่าว่า เครื่องบินกำลังแล่นลงในลักษณะที่เหมือนจะลงจอด เขาเห็นประกายไฟ จากนั้นมีเสียงดังตามด้วยกลุ่มควันดำโขมงลอยขึ้นสู่ฟ้า และมีเสียงระเบิดดังอย่างต่อเนื่อง ชายวัย 70 ปี เล่าว่า เครื่องบินพยายามจะลงจอดครั้งแรกแล้วบินวนกลับขึ้นไปเพื่อจะลงจอดอีกครั้ง เขาได้ยินเสียงเหมือนโลหะครูด 2 ครั้ง ประมาณ 5 นาทีก่อนเกิดเหตุ ส่วนชายวัย 50 ปี ที่กำลังตกปลาอยู่ใกล้ ๆ อ้างว่า ในช่วงที่เครื่องบินกำลังลงจอดบนทางวิ่งหรือรันเวย์ เขาเห็นฝูงนกบินมาจากทิศตรงกันข้ามและชนกับเครื่องบิน ทำให้เกิดไฟไหม้ที่เครื่องยนต์ด้านขวา เขาได้ยินเสียงดัง 2-3 ครั้ง ราวกับว่านกถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ จากนั้นเห็นไฟไหม้ที่เครื่องยนต์ด้านขวาของเครื่องบิน สถานีโทรทัศน์ในเกาหลีใต้ออกอากาศคลิปภาพเครื่องบินพยายามจะลงจอดโดยที่ล้อเครื่องบินไม่กาง เจ้าหน้าที่เชื่อว่า สาเหตุที่ล้อไม่กางอาจเกิดจากการชนกับนก ยอนฮับรายงานว่า ตำรวจและนักดับเพลิงกำลังตรวจสอบ ณ จุดเกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้.-814.-สำนักข่าวไทย

โซล 29 ธ.ค.- รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้สั่งการให้หน่วยงานรัฐบาลดำเนินการกู้ภัยอย่างเต็มกำลังในเหตุการณ์เครื่องบินชนรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ด้านเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 2 คนเป็นเพียงผู้รอดชีวิตในเที่ยวบินนี้ นายชเว ซังมก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้มีคำสั่งให้หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่หาทางช่วยชีวิตคนให้ได้ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมกับย้ำเรื่องความปลอดภัยของนักดับเพลิงที่เข้าไปปฏิบัติการกู้ภัย รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้มีคำสั่งดังกล่าวทันทีที่เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติมูอันที่อยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 288 กิโลเมตร หลังจากเกิดเหตุเครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) ที่มีผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหรือรันเวย์และไปชนกับรั้วกั้นของท่าอากาศยานทำให้เกิดไฟลุกไหม้เครื่องบินทันทีเมื่อเวลา 09.17 น.วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 07.17 น.วันนี้ตามเวลาไทย กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร 180 นาย รถดับเพลิงและรถพยาบาลไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปกู้ภัยเผยว่า นอกจากลูกเรือที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 2 คน สันนิษฐานว่าคนบนเครื่องบินที่ยังหาตัวไม่พบได้เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันจนถึงขณะนี้อยู่ที่ 85 คน.-814.-สำนักข่าวไทย

มอสโก 29 ธ.ค.-  ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียขอโทษผู้นำอาเซอร์ไบจานต่อเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารของอาเซอร์ไบจานตกในคาซัคสถาน และแสดงความเสียใจกับผู้นำคาซัคสถานเรื่องมีผู้เสียชีวิต ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียแถลงว่า ประธานาธิบดีปูตินได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายอิลฮาม อาลีเยฟ ประธานาธิบดีของอาเซอร์ไบจานเมื่อวันเสาร์ และกล่าวขอโทษสำหรับเหตุการณ์สลดใจที่เกิดขึ้นเหนือน่านฟ้าของรัสเซีย พร้อมกับแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งอีกครั้งต่อครอบครัวของผู้สูญเสียและขอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นในเร็ววัน แถลงการณ์ระบุว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุเครื่องบินตก เมืองกรอซนีของสาธารณรัฐเชเชน เมืองวลาดีคัฟคัซและเมืองมัซด็อกของสาธารณรัฐนอร์ทออสซีเชีย-อะลาเนียกำลังถูกอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนของยูเครนโจมตี รัสเซียจึงได้ใช้ระบบป้องกันภัยทางอากาศขับไล่การโจมตีเหล่านั้น ทางการกำลังดำเนินการสอบปากคำพลเรือนและผู้เชี่ยวชาญทางทหารที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ประธานาธิบดีปูตินยังได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายคาสซิม โจมาร์ต โตกาเยฟ ประธานาธิบดีคาซัคสถาน เพื่อแสดงความเสียใจที่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เครื่องบินโดยสารของอาเซอร์ไบจานที่ออกเดินทางกรุงบากูมุ่งหน้าไปยังเมืองกรอซนี ทางตอนใต้ของรัสเซีย ได้เปลี่ยนเส้นทางและไปตกใกล้เมืองอักเตาของคาซัคสถาน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 คน ด้านอาเซอร์ไบจานแถลงว่า ประธานาธิบดีอาลีเยฟได้แจ้งกับประธานาธิบดีปูตินว่า เครื่องบินลำดังกล่าวถูกแทรกแซงทางกายภาพและทางเทคนิคจากภายนอกขณะบินอยู่เหนือน่านฟ้ารัสเซีย ทำให้นักบินเสียการควบคุมเครื่องบินอย่างสิ้นเชิง และต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังคาซัคสถาน.-820(814).-สำนักข่าวไทย