เครื่องบิน

โตเกียว 7 ม.ค.- เครื่องบินของสายการบินเจ็ทสตาร์ที่เป็นเที่ยวบินในประเทศลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานในญี่ปุ่นในวันนี้ หลังจากมีผู้โทรศัพท์จากต่างประเทศขู่วางระเบิดบนเครื่องบิน บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเค (NHK) รายงานอ้างแหล่งข่าวตำรวจว่า ท่าอากาศยานนาริตะในกรุงโตเกียวได้รับโทรศัพท์เมื่อเวลา 06:20 น.วันนี้ตามเวลาญี่ปุ่น จากชายในเยอรมนีที่พูดภาษาอังกฤษอ้างว่า ได้วางระเบิดพลาสติกขนาด 100 กิโลกรัมไว้ในส่วนเก็บสัมภาระของเครื่องบิน และต้องการคุยกับคนที่เขาเรียกว่า “ผู้จัดการ” ไม่เช่นนั้นจะจุดชนวนระเบิด อย่างไรก็ดี ผลการตรวจค้นไม่พบระเบิดแต่อย่างใด เอ็นเอชเครายงานว่า ผู้โดยสาร 136 คนและลูกเรือ 6 คนของเครื่องบินสายการบินเจ็ทสตาร์ที่เป็นสายการบินราคาประหยัดของออสเตรเลียได้รับการอพยพลงจากเครื่องบินทันทีที่ลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานชูบุ ซึ่งเป็นภูมิภาคทางตอนกลางของญี่ปุ่น มีผู้โดยสารอย่างน้อย 5 คนบาดเจ็บเล็กน้อยขณะออกจากเครื่องบินด้วยทางลาดฉุกเฉิน ภาพที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นเครื่องบินแอร์บัส เอ320 (A320) จอดอยู่ โดยมีการใช้ทางลาดฉุกเฉิน และเห็นผู้โดยสารได้รับการอพยพออกจากเครื่องบิน ด้านโฆษกท่าอากาศยานชูบุเผยกับซีเอ็นเอ็น (CNN) ว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเที่ยวบินในประเทศ ออกเดินทางจากกรุงโตเกียวจะมุ่งหน้าไปยังเมืองฟุกุโอกะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น แต่ได้เปลี่ยนเส้นทางมาลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานแห่งนี้ ทางท่าอากาศยานต้องระงับการให้บริการถึง 4 ชั่วโมงจนกระทั่งทุกอย่างเรียบร้อย ขณะนี้ทางการกำลังสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

โซล 26 ธ.ค.- เกาหลีใต้ส่งเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์โจมตีจำนวนหนึ่งขึ้นบินสกัดและยิงเตือนในวันนี้ หลังจากอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนจำนวนหนึ่งของเกาหลีเหนือล่วงล้ำน่านฟ้า กองทัพเกาหลีใต้แถลงว่า ได้ส่งฝูงบินติดตามฝูงโดรนจากเกาหลีเหนือที่ข้ามเส้นแบ่งเขตแดนทางทหาร หลังจากตรวจพบฝูงโดรนเหล่านี้อยู่เหนือน่านฟ้าเมืองคิมโพที่อยู่ทางตะวันตกของเกาหลีใต้เมื่อเวลา 10:25 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 08:25 น.วันนี้ตามเวลาในไทย เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้นายหนึ่งเผยว่า ในช่วงที่ส่งฝูงบินขึ้นไปสกัด เกิดเหตุเครื่องบินโจมตีเบารุ่นเคเอ-1 ลำหนึ่งของเกาหลีใต้ได้ตกกระแทกพื้น หลังจากเครื่องบินทะยานขึ้นจากฐานทัพวอนจู ทางตะวันออกของประเทศได้เพียงไม่นาน นักบิน 2 นายสามารถดีดตัวออกมาได้ทันและขณะนี้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันกระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้แถลงว่า ได้สั่งการให้ระงับเที่ยวบินขาออกจากท่าอากาศยานนานาชาติในเมืองคิมโพและเมืองอินชอนเป็นเวลา 1 ชั่วโมงตามที่มีคำขอมาจากกองทัพ โดยสั่งระงับเที่ยวบินขาออกที่คิมโพตั้งแต่เวลา 13:08 น. ทำให้เที่ยวบินล่าช้า 20 เที่ยว และที่อินชอนตั้งแต่เวลา 13:22 น.ทำให้เที่ยวบินล่าช้า 10 เที่ยว.-สำนักข่าวไทย

ลิมา 18 ธ.ค.- นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากที่ตกค้างอยู่ในเปรูเนื่องจากมีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลใหม่ ได้ขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับบ้านแล้ว ขณะที่การประท้วงคลายความรุนแรง และประธานาธิบดีคนใหม่ยืนกรานไม่ลาออก นายลูอิส เฟอร์นันโด เอลเกโร รัฐมนตรีท่องเที่ยวและพาณิชย์ของเปรูเผยกับสื่อทางการว่า นักท่องเที่ยวที่ตกค้างอยู่จะเดินทางออกจากเปรูครบหมดทุกคนภายในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นเป็นอย่างช้าที่สุด นักท่องเที่ยวประมาณ 4,500 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปและอเมริกาเหนือรีบเร่งเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติในเมืองกุสโก เพื่อขึ้นเครื่องบินออกจากเปรู หลังจากที่ต้องตกค้างหลายวันเพราะการประท้วงทางการเมือง ผู้ตรวจการแผ่นดินด้านมนุษยธรรมของเปรูรายงานว่า มีการปิดถนน 70 จุดทั่วประเทศ และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงเพิ่มขึ้นเป็น 19 คน บาดเจ็บ 569 คน นายอัลแบร์โต โอตาโรลา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า แนวโน้มการประท้วงเริ่มลดลงแล้ว แต่ทางการยังคงเฝ้าระวังอยู่ สถานการณ์ความรุนแรงยังไม่ผ่านพ้นไป และวิกฤตยังคงดำเนินอยู่ การก่อเหตุรุนแรงที่มีการจัดตั้งมุ่งสร้างความเสียหายให้แก่ท่าอากาศยาน ทางหลวง ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ ขณะที่ พล.อ.มานูเอล โกเมซ เดอ ลา ตอร์เร หัวหน้าคณะเสนาธิการร่วมเผยว่า ทหารกำลังทำให้สถานการณ์ตามท้องถนน ท่าอากาศยาน และในเมืองทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังไม่เรียบร้อยทั้งหมด ด้านประธานาธิบดีดินา โบลัวร์เต แถลงทางโทรทัศน์ทั่วประเทศยืนกรานอีกครั้งว่า จะไม่ลาออกตามกระแสประท้วงเพราะไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ เธอจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่ารัฐสภาจะร่นการเลือกตั้งครั้งหน้าให้เร็วขึ้น […]

เกิดเหตุเครื่องบินโดยสารชนรถดับเพลิงขณะกำลังจะทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานในกรุงลิมาของเปรู ทำให้นักดับเพลิงเสียชีวิต 2 คน ขณะที่คนบนเครื่องปลอดภัย

โซล 17 พ.ย.- เกาหลีใต้ปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินขึ้นลงเพื่อไม่ให้รบกวนเด็กนักเรียนมากกว่า 500,000 คนที่ทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือเอ็นทรานซ์ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นเดิมพันชีวิตของเด็กชาวเกาหลีใต้ กระทรวงศึกษาธิการเผยว่า ปีนี้มีเด็ก 508,030 คนสอบเอ็นทรานซ์ประจำปีหรือที่เรียกว่า ซูนึง เป็นการสอบนาน 9 ชั่วโมงที่ผลการสอบจะชี้ชะตาเด็กในการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชื่อดัง ผู้สอบจะต้องนำน้ำดื่มและอาหารกลางวันไปเอง รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยตลอดการสอบที่เริ่มตั้งแต่เวลา 08:40 น.วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดที่ดำเนินมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ผู้สอบจะต้องนั่งรับประทานมื้อกลางวันโดยมีฉากกั้น 3 ด้าน ห้ามพูดคุยกันหรือจับกลุ่มกัน ส่วนผู้สอบที่มีผลการตรวจโควิดเป็นบวกจำนวน 2,400 คนจะแยกสอบในศูนย์และสถานพยาบาลพิเศษ ทางการเกาหลีใต้ดำเนินมาตรการพิเศษหลายอย่างเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การสอบเอ็นทรานซ์ประจำปี ท่าอากาศยานทั่วประเทศห้ามเครื่องบินขึ้นลงเป็นเวลา 35 นาทีในช่วงที่มีการสอบฟังภาษาอังกฤษตั้งแต่เวลา 13:05 น. ยกเว้นกรณีที่เครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉิน พร้อมกับกำหนดให้เครื่องบินทุกลำต้องบินที่ระดับความสูงไม่ต่ำกว่า 3,000 เมตร กระทรวงคมนาคมเผยว่า ต้องปรับเปลี่ยนตารางบินทั้งหมด 77 เที่ยว เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 18 เที่ยว ขณะที่ธนาคาร หน่วยงานราชการ และตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการช้ากว่าปกติ 1 ชั่วโมง ลดความแออัดบนถนนเพื่อให้เด็กเข้าสอบได้ทัน ผู้ปกครองหลายคนไปส่งบุตรหลานด้วยตัวเอง จับไม้จับมือร่ำลาบุตรหลานอย่างตื่นเต้น หลายคนไปไหว้ขอพรให้บุตรหลาน […]