อุณหภูมิ

อาโอโมริ 8 ม.ค.- ญี่ปุ่นเริ่มงานวิจัยผลิตไฟฟ้าจากกองหิมะที่เมืองอาโอโมริ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หวังได้แหล่งพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนแห่งใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าที่อาจจะเกิดขึ้น บริษัทฟอร์เท (Forte) สตาร์ทอัพด้านไอทีท้องถิ่นร่วมกับมหาวิทยาลัยการสื่อสารไฟฟ้าหรือยูอีซี (UEC) ในกรุงโตเกียว ใช้สระว่ายน้ำของโรงประถมศึกษาร้างแห่งหนึ่งในเมืองอาโอโมริที่มีหิมะตกหนักทุกปี เริ่มการทดลองเมื่อเดือนธันวาคม เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ประโยชน์จากความแตกต่างทางอุณหภูมิระหว่างกองหิมะในสระว่ายน้ำกับอากาศโดยรอบ พวกเขาต้องการหมุนกังหันด้วยพลังงานที่เกิดขึ้นเมื่อของเหลวที่เย็นเพราะกองหิมะถูกทำให้ระเหยกลายเป็นไอด้วยความร้อนของอากาศโดยรอบ บริษัทฟอร์เทเผยว่า ความท้าทายในการผลิตไฟฟ้าจากหิมะคือ การหาสถานที่ขนาดใหญ่เพื่อสะสมกองหิมะ และการทำให้อากาศร้อนในช่วงฤดูหนาว บริษัทจะพิจารณาเรื่องใช้ความร้อนจากบ่อน้ำพุร้อนเพื่อให้อุณหภูมิของอากาศโดยรอบมีความแตกต่างอย่างมากจากกองหิมะ การผลิตไฟฟ้าจากกองหิมะได้รับความสนใจในช่วงหลายปีมานี้ เนื่องจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้นทุนต่ำ ปลอดภัย และยังเหมาะกับเมืองที่มีหิมะตกหนักอย่างอาโอโมริที่ต้องใช้งบประมาณมากเป็นประวัติการณ์ถึง 5,900 ล้านเยน (ราว 1,500 ล้านบาท) ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2565 เพื่อโกยหิมะปริมาณมหาศาลไปทิ้งทะเล.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 6 ม.ค.- ผลการศึกษาใหม่พบว่า ธารน้ำแข็งครึ่งโลกจะละลายหายไปหมดภายในสิ้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 คือสิ้นปี พ.ศ.2643 อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และหากช่วยกันจำกัดภาวะโลกร้อนก็จะช่วยรักษาธารน้ำแข็งที่เหลืออยู่อีกครึ่งหนึ่งไว้ได้ ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารไซเอินซ์ฉบับวันที่ 5 มกราคมวิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธารน้ำแข็งจากฉากทัศน์ที่อุณหภูมิโลกสูงขึ้นในองศาเซลเซียสที่แตกต่างกัน 4 ฉากทัศน์ ได้แก่ 1.5, 2, 3 และ 4 องศาเซลเซียส ผลการศึกษาพบว่า ยิ่งองศาเพิ่มขึ้นยิ่งทำให้ธารน้ำแข็งละลายมากขึ้น แม้แต่ฉากทัศน์ที่อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นน้อยที่สุด 1.5 องศาเซลเซียสจากยุคก่อนอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเป้าหมายในข้อตกลงปารีส ปี 2558 ธารน้ำแข็งร้อยละ 49 จากที่มีอยู่ทั้งหมด 215,000 แห่งในเวลานี้จะละลายหายไปภายในปี 2643 คิดเป็นร้อยละ 26 ของปริมาณธารน้ำแข็งทั้งหมด เพราะธารน้ำแข็งขนาดเล็กที่สุดจะละลายก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนใหญ่อยู่ตามเทือกเขาแอลป์และเทือกเขาคอเคซัสในยุโรป เทือกเขาแอนดีสในอเมริกาใต้ แต่หากอุณหภูมิโลกสูงขึ้น 4 องศาเซลเซียส ธารน้ำแข็งทั่วโลกจะละลายหายไปมากถึงร้อยละ 83 ภายในสิ้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นคริสต์ศตวรรษนี้ อย่างไรก็ดี ประเมินกันว่าอุณหภูมิโลกในขณะนี้จะเพิ่มขึ้น 2.7 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้ธารน้ำแข็งในยุโรปกลาง […]

นิวเดลี 19 ธ.ค.- คุณภาพอากาศในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดียแย่ลงอีกในวันนี้ โดยถูกจัดให้อยู่ในประเภท “แย่มาก” หลังจากท้องฟ้าปลอดโปร่งได้ไม่กี่วัน เนื่องจากอากาศที่เย็นลงและกระแสลมสงบทำให้สารก่อมลพิษกระจุกตัวอยู่ในอากาศ ข้อมูลของคณะกรรมการควบคุมคุณภาพอากาศกลางของอินเดียระบุว่า คุณภาพอากาศในกรุงนิวเดลีที่มีประชากร 20 ล้านคน โดยทั่วไปอยู่ในระดับที่ “แย่มาก” และบางพื้นที่อยู่ในระดับ “ร้ายแรง” เฉพาะเขตอนันด์ วิหารมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศสูงถึง 457 สูงกว่าระดับที่ดีถึง 9 เท่า หน่วยงานของรัฐบาลกล่าวโทษว่า สาเหตุเกิดจากอุณหภูมิลดลงและกระแสลมมีความเร็วลดลง อุณหภูมิในกรุงนิวเดลีลดลงอยู่ในระดับ 6 องศาเซลเซียสในช่วงหลายวันมานี้ ทั้งที่ช่วงเวลานี้ของปีมักอยู่ที่ 8 องศาเซลเซียส ทางการอินเดียใช้มาตรการหลายอย่าง เช่น ระงับโครงการก่อสร้าง ฉีดพ่นน้ำตามท้องถนน เข้มงวดกับยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล แต่ช่วยบรรเทามลพิษทางอากาศในกรุงนิวเดลีได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนการเผาพื้นที่ทางการเกษตรเพื่อเตรียมเพาะปลูกในรัฐข้างคียงอย่างปัญจาบ หรยาณา และอุตตระประเทศได้ลดลงในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

เซี่ยงไฮ้ 7 ก.ย.- ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีนเผยว่า เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสถานีตรวจวัดสภาพอากาศจีนมากถึง 267 แห่งทั่วประเทศบันทึกอุณหภูมิได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จีนเกิดคลื่นความร้อนกินเวลายาวนานกว่า 70 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายนจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม เกิดจากความกดอากาศสูงใกล้เขตร้อนทางฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีขนาดใหญ่และรุนแรงมากกว่าปกติได้แผ่ขยายปกคลุมพื้นที่ในเอเชียเป็นวงกว้าง ส่งผลให้แม่น้ำและทะเลสาบหลายแห่งเหลือน้ำน้อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตทางการเกษตรและการผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้พลังน้ำ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีนระบุว่า คลื่นความร้อนดังกล่าวมีความยาวนาน ความรุนแรง และผลกระทบมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการจดบันทึกในปี 2504 อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งประเทศในเดือนสิงหาคมปีนี้อยู่ที่ 22.4 องศาเซลเซียส สูงกว่าปกติ 1.2 องศาเซลเซียส ขณะที่ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยอยู่ที่ 82.4 มิลลิเมตร ต่ำกว่าปกติร้อยละ 23.1 และต่ำที่สุดเป็นอันดับ 3 นับตั้งแต่มีการจดบันทึก ด้านสำนักงานปรับเปลี่ยนสภาพอากาศของจีนเผยว่า เดือนสิงหาคมมีการทำฝนเทียมทั้งหมด 75 ครั้ง ครอบคลุมพื้นที่ 1.45 ล้านตารางกิโลเมตร ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนมากที่สุด เทศบาลนครฉงชิ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 45 องศาเซลเซียส ขณะที่มณฑลเสฉวนที่อยู่ติดกัน น้ำในเขื่อนเหลือน้อยจนต้องสั่งโรงงานหยุดเดินเครื่องเพื่อสงวนไฟฟ้าให้แก่ครัวเรือน อย่างไรก็ดี แม้ฉงชิ่งและเสฉวนเริ่มมีฝนตกหนักตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน พื้นที่แถบลุ่มแม่น้ำแยงซีทางตอนกลางของจีนอย่างมณฑลหูเป่ย เจียงซี และหูหนานยังคงประสบปัญหาภัยแล้งอยู่.-สำนักข่าวไทย