ชัวร์ก่อนแชร์ : ต่างชาติมอบเครื่องบินให้ไทย 10 ลำ ยกระดับพลังรบ จริงหรือ ?

ตามที่มีการแชร์คลิป พร้อมข้อความต่างชาติมอบเครื่องบินให้ไทย 10 ลำ ยกระดับพลังรบ นั้น บทสรุป : ❌  ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌เป็นภาพที่สร้างโดยคอมพิวเตอร์ (เอไอ-ปัญญาประดิษฐ์) และไม่เคยมีหลักฐานหรือเอกสารทางการว่ามีการส่งมอบเครื่องบินแต่อย่างใด ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวเผยแพร่ผ่านทางช่องยูทูบที่ชื่อ พลังการรบอาวุธของไทย โดยได้นำเสนอคลิปในลักษณะคล้ายกัน คือ ต่างประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส ได้มอบเครื่องบินรบให้แก่ประเทศไทย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งทุกคลิปที่นำเสนอมีการใช้ภาพเครื่องบินและฉากหลังที่เหมือนกัน เปลี่ยนเพียงชื่อประเทศ ธงชาติ ชื่อเครื่องบินและเสียงบรรยายเท่านั้น เมื่อตรวจสอบที่คำอธิบายวิดีโอ (Video Description) พบว่า ยูทูบระบุว่าเป็นคลิปหรือภาพถูกแก้ไขอย่างมีนัยสำคัญ หรือสร้างขึ้นด้วยระบบดิจิทัล (Altered or synthetic contentSound or visuals were significantly edited or digitally generated.) หากสังเกตจะพบหลายจุดที่ผิดปกติที่เกิดจากการสร้างภาพโดยคอมพิวเตอร์ (AI) เช่น ตัวอักษรที่ไม่ชัดและไม่สามารถอ่านได้ […]

มทภ.4 บินสำรวจแนวชายแดนนราธิวาส หลังพบความเคลื่อนไหวขนอาวุธ

13 ส.ค. – แม่ทัพภาค 4 ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินสำรวจแนวป่าชายแดน จ.นราธิวาส หลังพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงขนอาวุธจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ชายแดนไทย พร้อมเร่งประชุมวางแผนสกัดกั้นเข้ม พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขึ้นบินลาดตระเวนทางอากาศเหนือพื้นที่ป่าเขา แนวชายแดน จ.นราธิวาส ร่วมกับฝ่ายอำนวยการของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง หลังได้รับรายงานและปรากฏภาพข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ลักลอบขนย้ายอาวุธและกระสุนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ชายแดนไทย การบินสำรวจในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อประเมินเส้นทางลำเลียง การซ่อนเร้น และจุดเสี่ยงที่อาจถูกใช้เป็นช่องทางลักลอบขนอาวุธ พร้อมตรวจสอบความหนาแน่นของพื้นที่ป่า การตั้งฐานที่มั่นของหน่วยลาดตระเวน และความพร้อมของจุดตรวจชายแดน จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ร่วมประชุมเร่งด่วนกับชุดควบคุมสุริโยทัย และหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการสกัดกั้นในพื้นที่สำคัญ เน้นการปิดเส้นทางลำเลียง การเพิ่มกำลังลาดตระเวนภาคพื้นดินทั้งกลางวันและกลางคืน และการทำงานประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้าน แม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำว่าการควบคุมพื้นที่ชายแดนในสถานการณ์ปัจจุบันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่ดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง และใช้ข้อมูลข่าวกรองเป็นตัวขับเคลื่อนแผนปฏิบัติ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง มีโอกาสเสริมศักยภาพด้วยอาวุธหรือยุทโธปกรณ์ใดๆ ได้ โดยเน้นเป้าหมายหลักเพื่อประเมินเส้นทางลำเลียง การซ่อนเร้น และจุดเสี่ยงที่อาจถูกใช้เป็นช่องทางลักลอบขนอาวุธ.-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

Hiroshima Dome

TNA News-Now-Next: ระเบิดนิวเคลียร์ บทเรียน 80 ปีที่โลกรู้แต่ไม่เรียน

ฮิโรชิมะ 6 ส.ค.- วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน โลกได้เห็นการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ขณะนั้นเรียกว่าระเบิดปรมาณูเป็นครั้งแรกที่เมืองฮิโรชิมะของญี่ปุ่น สร้างความเสียหายแบบทำลายล้าง คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง แต่ดูเหมือนว่า บทเรียนนี้ไม่ได้ทำให้หลายประเทศหวั่นเกรงแต่อย่างใด ซ้ำยังแข่งขันกันสั่งสมและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ท้าทายกฏระเบียบโลกที่เป็นเหมือนเสือกระดาษ อาวุธสงครามครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงปัจจุบัน ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส ทรูแมนของสหรัฐได้สั่งให้นำเครื่องบินไปทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มเมืองฮิโรชิมะและเมืองนางาซากิ โจมตีจักรวรรดิญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 6 และ 9 สิงหาคม 2488 ด้วยระเบิดชื่อลิตเติลบอย (Little Boy) น้ำหนัก 4,400 กิโลกรัม แรงระเบิด 13-16 กิโลตัน และระเบิดชื่อแฟตบอย (Fat Boy) น้ำหนัก 4,670 กิโลกรัม แรงระเบิด 21 กิโลตัน ข้อมูลจากเว็บไซต์คณะกรรมการรณรงค์เพื่อยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์หรือไอแคน (ICAN) ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2560 ระบุว่า นับจนถึงสิ้นปี 2488 เมืองฮิโรชิมะมีผู้เสียชีวิตราว 140,000 คน รวมถึงผู้เสียชีวิตจากรังสีนิวเคลียร์ ส่วนเมืองนางาซากิมีผู้เสียชีวิตราว […]

อังกฤษเริ่มบังคับใช้กฎหมายห้ามครอบครองดาบนินจา

ลอนดอน 1 ส.ค. – กระทรวงมหาดไทยอังกฤษประกาศในวันศุกร์ว่า ขณะนี้ประชาชนส่งมอบอาวุธอย่างน้อย 1,000 ชิ้นให้กับทางการภายใต้โครงการนิรโทษกรรมที่รัฐบาลได้เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมที่มีการใช้มีดเป็นอาวุธ ในขณะที่กฎหมายใหม่ที่ห้ามครอบครองดาบแบบนินจาญี่ปุ่นก็มีผลบังคับใช้แล้ว อาชญากรรมที่มีการใช้มีดเป็นอาวุธในอังกฤษและเวลส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 87 ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และในปีที่แล้วเพียงปีเดียว มีการกระทำความผิด 54,587 คดี ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปี 2023 และถือว่าเป็นอัตราที่สูงที่สุดในยุโรป เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2024 วัยรุ่นชื่อ “แอ็กเซล รูดากูบานา” (Axel Rudakubana) ได้ก่อเหตุโจมตีงานเต้นรำสำหรับเด็กในธีม “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ที่เมืองเซาท์พอร์ตทางตอนเหนือของอังกฤษ ทำให้เด็กหญิงเสียชีวิต 3 ราย และมีผู้ถูกแทง 10 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญที่สุดในอังกฤษ หลังจากนั้น รัฐบาลได้ให้คำมั่นว่าจะตรวจสอบอายุผู้ซื้อมีดอย่างเข้มงวดมากขึ้น เตือนบริษัทด้านโซเชียลมีเดียว่าอาจถูกปรับหากไม่สามารถควบคุมการจำหน่ายและการส่งเสริมการจำหน่ายอาวุธได้ และได้ประกาศห้ามมีดขนาดใหญ่ดูน่ากลัวที่เรียกว่ามีดรูปแบบซอมบี้ มีดพร้า และดาบนินจา ตลอดเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้รณรงค์ให้เยาวชนนำอาวุธ ซึ่งรวมถึงอาวุธมีคม ไปหย่อนในภาชนะที่เรียกว่า “ถังนิรโทษกรรม” หรือรถตู้เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมอาชญากรรมที่มีการใช้มีด […]

‘ทรัมป์’ จะส่งอาวุธให้นาโตเพื่อสนับสนุนยูเครน

วอชิงตัน 15 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประกาศจุดยืนที่แข็งกร้าวมากยิ่งขึ้นต่อรัสเซีย เมื่อวานนี้ ในกรณีสงครามยูเครน โดยให้คำมั่นว่าจะส่งขีปนาวุธและอาวุธอื่นๆ ลอตใหม่ให้ยูเครน และให้เวลา 50 วันแก่รัสเซียในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน มิฉะนั้นจะเผชิญกับการคว่ำบาตร นายทรัมป์ประกาศเรื่องนี้ระหว่างพบหารือกับนายมาร์ค รุตเตอ เลขาธิการองค์การป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต โดยผู้นำสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังอย่างมากกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย การตัดสินใจของนายทรัมป์ที่จะส่งอาวุธให้ยูเครนถือเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับเขา ซึ่งใช้เวลาในช่วงต้นของการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐในการพยายามเกลี้ยกล่อมนายปูตินให้ทำข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน แต่กลับถูกปฏิเสธทุกครั้ง ภายใต้ข้อตกลงจัดหาอาวุธให้ยูเครนรอบใหม่นี้ นายทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐจะจัดหาอาวุธและประเทศสมาชิกนาโตจะเป็นผู้ชำระเงินค่าใช้จ่าย ซึ่งมีระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ “แพทริออท” ที่ยูเครนต้องการรวมอยู่ด้วย นายทรัมป์ยังเตรียมการที่จะกำหนดภาษี 100% สินค้ารัสเซีย และมาตรการคว่ำบาตรประเทศอื่นๆ ที่ซื้อน้ำมันรัสเซียด้วย หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้ภายใน 50 วัน นายรุตเตอ กล่าวว่า เยอรมนี ฟินแลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ และแคนาดา ล้วนต้องการเข้าร่วมในการส่งอาวุธให้ยูเครนอีกครั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ว่าสหรัฐจะส่งอาวุธให้ยูเครนเพิ่มเติม

วอชิงตัน 8 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววันจันทร์ว่า สหรัฐจะส่งอาวุธให้ยูเครนเพิ่มเติม โดยเน้นอาวุธเพื่อการป้องกันตนเองเป็นหลัก เพื่อช่วยให้ยูเครนสามารถปกป้องตนเองจากการรุกคืบของรัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้น การตัดสินใจก่อนหน้านี้ของสหรัฐในการระงับการส่งอาวุธบางส่วนไปยังยูเครน ทำให้รัฐบาลเคียฟต้องออกมาเตือนว่าการกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการป้องกันตนเองจากการโจมตีทางอากาศและการรุกคืบภาคพื้นดินของรัสเซีย พร้อมทั้งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคเดโมแครต และสมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วนของสหรัฐ นายทรัมป์ กล่าวที่ทำเนียบขาววานนี้ว่า สหรัฐกำลังจะส่งอาวุธให้ยูเครนเพิ่มอีก ซึ่งสหรัฐจำเป็นต้องทำเช่นนั้น ยูเครนต้องสามารถปกป้องตนเองได้ เขากล่าวเสริมว่า ยูเครนถูกโจมตีอย่างหนักในตอนนี้ สหรัฐจะต้องจัดส่งอาวุธให้เพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธ เพื่อการป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า จะมีการส่งอาวุธเพิ่มเติมให้ยูเครน ตามคำสั่งของนายทรัมป์ เพื่อให้แน่ใจว่าชาวยูเครนสามารถปกป้องตนเองได้ ในขณะที่ความพยายามในการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนยังคงดำเนินอยู่ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายทรัมป์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่ายูเครนจะต้องการขีปนาวุธ “แพทริออต” (Patriot) เพื่อป้องกันตนเอง แต่เขาไม่ได้กล่าวถึงอย่างเจาะจงอีกในวันจันทร์ แถลงการณ์กระทรวงกลาโหมสหรัฐไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธที่จะส่งไปยังยูเครน.-813.-สำนักข่าวไทย

ชี้รัสเซียใช้สารเคมีโจมตียูเครนอย่างแพร่หลาย

กรุงเฮก, 4 ก.ค. – สำนักงานข่าวกรองของเนเธอร์แลนด์และเยอรมนีได้รวบรวมหลักฐานว่ารัสเซียมีการใช้ อาวุธเคมีต้องห้าม อย่างแพร่หลายในยูเครน รวมถึงการปล่อยสารที่ทำให้หายใจติดขัดลงมาจากโดรน เพื่อผลักดันทหารให้ออกจากสนามเพลาะแล้วยิงทิ้ง นายรูเบน เบรเคิลมานส์ รัฐมนตรีกลาโหมของเนเธอร์แลนด์ เรียกร้องให้มีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เขากล่าวว่า ข้อสรุปหลักคือ เนเธอร์แลนด์ยืนยันได้ว่ารัสเซียกำลังเพิ่มการใช้อาวุธเคมี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่เฝ้าจับตามานานหลายปีแล้ว การใช้อาวุธเคมีของรัสเซียในสงครามนี้กำลังเป็นเรื่องปกติ เป็นมาตรฐาน และแพร่หลายมากขึ้น บีเอ็นดี หน่วยข่าวกรองต่างประเทศของเยอรมนี ยืนยันผลการตรวจสอบ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า ได้รับหลักฐานร่วมกับหน่วยข่าวกรองของเนเธอร์แลนด์ นายปีเตอร์ รีซิงค์ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า ข้อสรุปดังกล่าวมาจากข่าวกรองอิสระของเนเธอร์แลนด์เอง ดังนั้นจึงเป็นการสังเกตการณ์ด้วยตนเองจากการสอบสวนของตนเองด้วย เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว สหรัฐเป็นประเทศแรกที่กล่าวหารัสเซียว่าใช้ คลอโรพิคริน (chloropicrin) ซึ่งเป็นสารประกอบทางเคมีที่เป็นพิษมากกว่าสารควบคุมเหตุการณ์จลาจล และถูกใช้ครั้งแรกโดยเยอรมนีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ยูเครนอ้างว่ามีเหตุการณ์ที่รัสเซียใช้อาวุธเคมีนับพันครั้ง ในขณะที่รัสเซียปฏิเสธการใช้อาวุธที่ผิดกฎหมาย และกล่าวหายูเครนว่าเป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมีต้องห้าม.-813.-สำนักข่าวไทย

เผยประเทศในเอเชียเพิ่มการจัดซื้ออาวุธมากขึ้น

ฮ่องกง 28 พ.ค. – การใช้จ่ายด้านอาวุธและการวิจัยด้านการทหารกำลังพุ่งสูงขึ้นในเอเชียบางประเทศ เนื่องจากประเทศเหล่านี้กำลังรับมือกับแนวโน้มด้านความมั่นคงที่มืดมิดลงเรื่อย ๆ ด้วยการขยายความร่วมมือทางอุตสาหกรรมป้องกันประเทศกับประเทศอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็พยายามส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของตนเอง รายงานการประเมินความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่จัดทำโดยสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ที่แผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า ความช่วยเหลือทางด้านอุตสาหกรรมอาวุธจากต่างประเทศยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แม้ว่าประเทศในภูมิภาคจะตั้งเป้าหมายที่จะพึ่งพาตนเองในท้ายที่สุดก็ตาม  รายงานระบุด้วยว่า ความขัดแย้งล่าสุดในยูเครนและตะวันออกกลาง ประกอบกับการแข่งขันทางยุทธศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน และการเสื่อมถอยของภูมิทัศน์ความมั่นคงในเอเชียแปซิฟิก อาจนำไปสู่กระแสความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น รายงานระบุว่า การใช้จ่ายด้านการจัดซื้ออาวุธและการวิจัยและพัฒนาด้านอาวุธเพิ่มขึ้น 2,700 ล้านดอลลาร์ระหว่างปี 2022 ถึง 2024 โดยแตะระดับ 10,500 ล้านดอลลาร์ในกลุ่มประเทศสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ประเทศไทย และเวียดนาม การศึกษา ซึ่งเผยแพร่ก่อนการประชุมด้านกลาโหมและความมั่นคง “แชงกรี-ลา ไดอะล็อก” (Shangri-La Dialogue) ประจำปีที่สิงคโปร์ในสุดสัปดาห์นี้ ระบุว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงพึ่งพาการนำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์และอุปกรณ์ที่สำคัญส่วนใหญ่ อาวุธเหล่านี้มีตั้งแต่เรือดำน้ำและเครื่องบินรบ ไปจนถึงโดรน ขีปนาวุธ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงสำหรับการเฝ้าระวังและการรวบรวมข่าวกรอง.-813.-สำนักข่าวไทย

อิหร่านเน้นย้ำสิทธิเสริมสมรรถนะยูเรเนียม

เตหะราน 23 พ.ค. – อิหร่านเน้นย้ำท่าทีต้องการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในประเทศก่อนมีการหารือข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐที่กรุงโรมของอิตาลี นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ เมื่อวานนี้ว่า ถ้าสหรัฐเอาแต่ตั้งเป้าหมายเพื่อหยุดการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ย่อมจะไม่มีข้อตกลงนิวเคลียร์เกิดขึ้น ส่วนแนวคิดการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมร่วมกับประเทศอื่น ๆ เป็นแนวคิดที่ไม่เลว แต่จะไม่ทดแทนการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในดินแดนอิหร่าน ท่าทีของนายอารักชีมีขึ้นขณะคณะผู้แทนของอิหร่านและสหรัฐเตรียมหารือข้อตกลงนิวเคลียร์กันที่กรุงโรมในวันศุกร์นี้ตามวันเวลาท้องถิ่น ซึ่งเรื่องเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ยังเป็นหัวข้อหลักและยังเห็นต่างกันซึ่งสหรัฐเกรงว่าอาจนำไปสู่การพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ ขณะที่อิหร่านปฏิเสธ และยืนยันพัฒนาโครงการนิวเคลียร์เพื่อวัตถุประสงค์ของพลเรือน.-820.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีเหนือตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์

สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์

Massive police presence at California hospital after alleged swatting call

ตร. ในสหรัฐได้รับแจ้งเท็จให้ยกกำลังพลไปที่ รพ.

แคลิฟอร์เนีย 13 มี.ค.- ตำรวจในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐระดมกำลังพลหลายร้อยนายไปยังโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่ง หลังจากมีผู้โทรศัพท์แจ้งว่า อาจมีผู้พกอาวุธอยู่ในโรงพยาบาล แต่ปรากฎในเวลาต่อมาว่าเป็นเรื่องไม่จริง สำนักงานเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเทศมณฑลซานเบอร์นาร์ดิโนโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้รับรายงานว่าอาจมีผู้พกอาวุธอยู่ในโรงพยาบาลเด็กมหาวิทยาลัยโลมา ลินดา เจ้าหน้าที่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุแล้วและกำลังตรวจตราความเรียบร้อย ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าวและใช้เส้นทางการจราจรอื่น ต่อมาในเวลา 20:10 น.วันเดียวกันตามเวลาท้องถิ่น สำนักงานฯ แจ้งผ่านเอ็กซ์ว่า สถานการณ์ที่โรงพยาบาลเป็นปกติแล้ว ไม่มีเหตุผิดปกติใด ๆ และมีผู้ได้รับอันตราย ดูเหมือนว่าเป็นการแจ้งความเท็จไปยังหมายเลขเหตุฉุกเฉินล่อลวงให้เจ้าหน้าที่ออกไปปฏิบัติภารกิจ (swatting call) คลิปวิดีโอของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเห็นรถตำรวจหลายสิบคันจอดรอบโรงพยาบาลและปิดพื้นที่หลายอาคารตามมาตรการระดับสูงของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย.-814.-สำนักข่าวไทย   

1 2 3 17
...