สุนัข

อาคิตะ 28 เม.ย.- สมาคมอนุรักษ์สุนัขสายพันธุ์อาคิตะ (Akita) ซึ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่นเริ่มออกใบรับรองพันธุ์ประวัติหรือใบเพ็ดดิกรี (pedigree certificated) แบบดิจิทัล เพื่อป้องกันความพยายามปลอมแปลงใบเพ็ดดิกรีและเพื่อประโยชน์สำหรับเจ้าของสุนัขที่ทำใบเพ็ดดิกรีหาย สมาคมฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโอดาเตะ จังหวัดอาคิตะ ในภูมิภาคโทโฮคุ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการออกใบเพ็ดดีกรีดิจิทัล จากเดิมที่ออกแต่ใบเพ็ดดิกรีกระดาษและมักมีปัญหาเรื่องการจัดส่งที่ใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์ หรือหายระหว่างการจัดส่งให้สมาชิกที่อยู่ในต่างประเทศ ปัจจุบันสมาชิกในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 300 คนในปี 2565 เป็น 500 คนในปี 2566 นอกจากนี้ยังได้รับรายงานเมื่อไม่กี่ปีก่อนว่า พบการปลอมแปลงใบเพ็ดดิกรีในจีน สมาคมฯ เผยว่า สมาชิกสามารถขอใบเพ็ดดิกรีได้จากเว็บไซต์ของสมาคมฯ โดยตรง โดยจะได้รับใบเพ็ดดิกรีดิจิทัลผ่านทางแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน อาคิตะเป็นสุนัขสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ ต้นกำเนิดอยู่ตามเทือกเขา เดิมเป็นสุนัขของมาตะกิหรือนักล่าหมีในยุคก่อน ปัจจุบันใช้เป็นสุนัขเฝ้ายามและสุนัขตำรวจ.-814.-สำนักข่าวไทย

ลิมา 8 มี.ค.- พนักงานรักษาความปลอดภัยสาวชาวเปรูลุยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวในแม่น้ำเพื่อลงไปช่วยนำตัวสุนัขเคราะห์ร้ายที่ติดอยู่บนโขดหินกลางกระแสน้ำกลับขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นของเปรู จุดที่เกิดเหตุเป็นแม่น้ำทางภาคใต้ที่เวลานี้มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวเนื่องจากเป็นช่วงที่มีฝนตกหนัก พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ได้แจ้งเหตุไปยังหน่วยงานรักษาความปลอดภัยในท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือ รปภ.สาวชื่อ ยูเลียนา แอสกี มามานี ได้ใช้เชือกผูกเอวแล้วลุยฝ่ากระแสน้ำลงไปโดยมีเพื่อน รปภ.อีก 2-3 คนช่วยเหลืออยู่บนตลิ่ง  ส่วนสุนัขที่ติดอยู่ในแม่น้ำ ทราบเพียงว่าเป็นของชาวบ้านในละแวกนั้น เธอเล่า สุนัขตัวนี้แสดงอาการดีใจอย่างมากหลังจากได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาบนฝั่ง มันทั้งกระดิกหาง เลียมือเลียไม้ของเจ้าหน้าที่ทุกคนก่อนจะวิ่งหายไป.-816(814).-สำนักข่าวไทย

โซล 9 ม.ค.- รัฐสภาเกาหลีใต้ผ่านร่างกฎหมายที่จะยุติการรับประทานและการจำหน่ายเนื้อสุนัข ซึ่งจะทำให้พฤติกรรมที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่หลายศตวรรษก่อนกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ร่างกฎหมายนี้เสนอโดยพรรครัฐบาล รัฐสภาที่มีสมาชิก 300 คน ผ่านความเห็นชอบอย่างล้นหลามด้วยคะแนน 208 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง หลังจากคณะกรรมาธิการการเกษตรของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นชอบเมื่อวานนี้ กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้หลังจากพ้นระยะเวลาผ่อนผันนาน 3 ปี ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือปรับ 30 ล้านวอน (ราว 8 แสนบาท) โดยจะมีการชดเชยให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนี้ ด้านพันธมิตรกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงและผู้ค้าสุนัขเพื่อรับประทานเผยว่า กฎหมายนี้จะกระทบฟาร์ม 3,500 แห่งที่เลี้ยงสุนัข 1 ล้าน 5 แสนตัว และร้านอาหาร 3,000 แห่ง ทั้งนี้เคยมีความเชื่อกันมานานว่า การรับประทานเนื้อสุนัขช่วยบำรุงสุขภาพในช่วงฤดูร้อนชื้นของเกาหลี ปัจจุบันมีเพียงผู้สูงวัยบางคนเท่านั้นที่ยังรับประทาน เนื่องจากชาวเกาหลีใต้เห็นสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัว และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูขึ้นเรื่องวิธีการฆ่าสุนัข นักเคลื่อนไหวระบุว่า มีการช็อตไฟฟ้าหรือแขวนคอ แต่ฟาร์มเพาะเลี้ยงแย้งว่า ใช้วิธีที่มีความเมตตามากขึ้น การเรียกร้องให้ห้ามรับประทานและจำหน่ายเนื้อสุนัขได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้นในรัฐบาลประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ผู้เลี้ยงสุนัข 6 ตัวและแมว 8 […]

ฮ่องกง 23 พ.ย.- ผู้สูงวัยในฮ่องกงใช้การเต้นรำและสุนัขเป็นเพื่อนคลายเหงาในสังคมที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า กำลังมีปัญหาโรคเหงาระบาดท่ามกลางผู้สูงวัยที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น คุณยายวัย 71 ปี ที่เข้าร่วมโครงการเต้นดิสโกยามบ่ายในชุมชนแห่งหนึ่งเผยว่า ไม่สามารถเล่าความทุกข์ใจให้คนในครอบครัวฟัง แต่จะรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเมื่อได้เต้นรำ โครงการนี้เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม ผู้ริเริ่มโครงการเผยว่า ได้แนวคิดมาจากการจัดเวิร์กชอปกับคนชราในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาดในฮ่องกง มาตรการรักษาระยะห่างที่เข้มงวดของทางการทำให้คนชราเก็บตัวจนไม่อยากออกนอกบ้าน ส่งผลให้ขาดสังคมและเกิดความเหงา ชายชราวัย 70 ปี เผยว่า เข้าร่วมกิจกรรมที่ศูนย์ดูแลแห่งหนึ่ง หลังจากที่ต้องอยู่บ้านในช่วงโควิดจนรู้สึกเหมือนติดคุก ศูนย์แห่งนี้นอกจากมีเพื่อนวัยเดียวกันและมีกิจกรรมออกกำลังกายแล้ว ยังมีสุนัขนักบำบัดอาสาเป็นเพื่อนคลายเหงาด้วย  สหประชาชาติประเมินว่า ฮ่องกงจะมีประชากรวัย 65 ปีขึ้นไปมากถึงร้อยละ 40.6 ภายในปี 2593 ขณะที่กลุ่มคนหนุ่มสาวจะมีจำนวนลดลงเพราะหลั่งไหลไปตั้งรกรากที่อื่น ส่วนหนึ่งเพราะรัฐบาลจีนใช้กฎหมายความมั่นคงกับฮ่องกงในปี 2563 ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยฮ่องกงในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 พบว่า 1 ใน 3 ของคนชราที่ตอบแบบสอบถามเกือบ 5,000 คน มีอาการซึมเศร้า กังวล และเปลี่ยวเหงาอย่างน้อย 1 อาการ องค์กรการกุศลแห่งหนึ่งเผยว่า ปี 2565 มีคนในฮ่องกงตัดสินใจจบชีวิตตัวเองมากถึง 1,080 ราย […]

โตเกียว 9 พ.ย.- บริเวณที่ตั้งรูปปั้นของฮาจิโกะ (Hachiko) สุนัขผู้เป็นตำนานเรื่องความซื่อสัตย์ของญี่ปุ่น คึกคักเป็นพิเศษก่อนที่จะครบ 100 ปีวันคล้ายวันเกิดของมันในวันที่ 10 พฤศจิกายน ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวพากันไปบันทึกภาพกับรูปปั้นของฮาจิโกะ ที่ด้านหน้าสถานีรถไฟชิบูย่าในกรุงโตเกียว สถานที่ไฮไลท์แห่งหนี่งของการไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะเป็นที่มาของตำนานที่น่าชื่นชม เมื่อสุนัขตัวนี้ไปนั่งรอศาสตราจารย์ ฮาเซบูโระ อูเอโนะ เจ้าของของมันอยู่ถึง 10 ปี แม้ว่าเจ้าของเสียชีวิตไปแล้วในปี 2468  ตามบันทึกนั้น ฮาจิโกะ เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2466 ที่โรงนาในเมืองโอดาเตะ จังหวัดอาคิตะ ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของสุนัขพันธุ์อากิตะอินุ สุนัขสายพันธุ์ที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากมีรูปปั้นที่กรุงโตเกียวแล้ว ฮาจิโกะยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เมืองโอดาเตะบ้านเกิดด้วย และมีเรื่องราวปรากฎในหนังสือ ภาพยนตร์ ของหลายประเทศ รวมถึงฮอลลีวูด.-สำนักข่าวไทย 

ลิสบอน 24 ต.ค.- สื่อโปรตุเกสรายงานเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า “โบบี้” (Bobi) สุนัขที่ได้รับการรับรองในปีนี้จากกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดส์ให้เป็นสุนัขอายุยืนที่สุดในโลก ตายแล้วขณะมีอายุ 31 ปี ลีโอเนล คอสตา เจ้าของโบบี้เผยกับสื่อท้องถิ่นที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ทางตอนกลางของโปรตุเกสว่า มีความทรงจำที่ดีกับชีวิตยืนยาวที่มีความสุขของโบบี้ และการที่โบบี้ทำให้คนจำนวนมากโดยเฉพาะครอบครัวของเขามีความสุข โบบี้เป็นสุนัขพันธุ์ราแฟโร โด อเลนเตโจ (Rafeiro do Alentejo) ซึ่งเป็นสุนัขต้อนแกะสายพันธุ์แท้ของโปรตุเกส ปกติแล้วสุนัขพันธุ์นี้มีอายุขัยเฉลี่ย 12-14 ปี แต่โบบี้อายุยืนกว่าอายุขัยถึง 2 เท่า โดยเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2535 ขณะนั้นคอสตาผู้เป็นเจ้าของอายุเพียง 8 ขวบ บิดามารดาของเขาอาศัยจังหวะที่แม่สุนัขไม่อยู่ นำลูกสุนัข 3 ตัวที่เพิ่งเกิดออกไปจากโรงนาของครอบครัวเพราะมีสัตว์หลายตัวจนเลี้ยงไม่ไหว โดยไม่รู้ว่า มีลูกสุนัขหลงอยู่ในโรงนาอยู่ 1 ตัว และเติบโตจนเป็นสุนัขที่มีอายุยืนที่สุดในโลก 31 ปี 165 วัน ทั้งนี้หลังจากกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดส์ประกาศให้เป็นสุนัขอายุยืนที่สุดในโลกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ สื่อและผู้คนที่สนใจพากันไปเยี่ยมโบบี้อย่างไม่ขาดสาย.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 5 ต.ค.- “คอมแมนเดอร์ (Commander)” สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ถูกย้ายออกจากทำเนียบขาว หลังจากกัดเจ้าหน้าที่ไปหลายคน ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของนางจิล ไบเดน สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐแถลงว่า ประธานาธิบดีและสตรีหมายเลข 1 มีความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของผู้ทำงานในทำเนียบขาวและผู้อารักขาความปลอดภัยให้พวกเขา และรู้สึกขอบคุณที่หน่วยอารักขาและทุกคนที่เกี่ยวข้องมีความอดทนและช่วยเหลือด้วยการหาทางแก้ไข ขณะนี้คอมแมนเดอร์ไม่ได้อยู่ในทำเนียบขาวแล้ว และกำลังมีการประเมินว่าจะดำเนินการกับสุนัขอย่างไรต่อไป เอเอฟพีรายงานว่า ยังไม่มีรายละเอียดว่า สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดเพศผู้วัย 2 ปีตัวนี้ถูกย้ายไปอยู่ที่ใด และจะเป็นการย้ายถาวรหรือไม่ ผู้สื่อข่าวเห็นมันครั้งหลังสุดที่ระเบียงในบริเวณที่เป็นที่พักส่วนตัวของประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 30 กันยายน ซีเอ็นเอ็นและอาซิออสรายงานว่า คอมแมนเดอร์ที่เข้ามาอยู่ในทำเนียบขาวขณะเป็นลูกสุนัขน่ารักในปี 2564 กัดคนมากกว่าที่หน่วยอารักขาแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่ถูกกัด 11 คน ประธานาธิบดีและภริยาเคยโทษว่า สภาพแวดล้อมที่เครียดในทำเนียบขาวทำให้สุนัขมีพฤติกรรมเกเร เพราะก่อนหน้านี้ “เมเจอร์ (Major)” สุนัขเพศผู้พันธุ์เดียวกันที่เกิดในปี 2561 ก็เคยกัดเจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวและถูกส่งไปอยู่กับเพื่อนของครอบครัวไบเดนที่รัฐเดลาแวร์เมื่อเดือนธันวาคม 2564 ในเวลาเดียวกับที่คอมแมนเดอร์เข้ามาเป็นสุนัขตัวใหม่ในทำเนียบขาว.-สำนักข่าวไทย

จาการ์ตา 22 ก.ค.- เมืองโตโมฮอนของอินโดนีเซียประกาศห้ามการฆ่าและจำหน่ายเนื้อสุนัขและแมวในตลาดค้าเนื้อสุนัขและแมว หลังจากนักเคลื่อนไหวและผู้มีชื่อเสียงระดับโลกช่วยกันรณรงค์มาหลายปี นายกเทศมนตรีเมืองโตโมฮอน จังหวัดสุลาเวสีเหนือ บนเกาะสุลาเวสี มีคำสั่งเมื่อวันศุกร์ หลังจากบรรลุข้อตกลงกับสมาคมมนุษยธรรมนานาชาติ (Humane Society International) ซึ่งเป็นกลุ่มพิทักษ์สัตว์ขนาดใหญ่ว่า คำสั่งห้ามนี้นอกจากเป็นการยุติการแสดงความโหดร้ายต่อสาธารณะแล้ว ยังเป็นก้าวสำคัญที่จะส่งเสริมให้ชุมชนหันมาบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีสุขอนามัย ห่างไกลจากการติดโรคพิษสุนัขบ้าและโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนอื่น ๆ ตลาดเบอริมัน (Beriman Market) เป็นตลาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดสุลาเวสีเหนือที่คนทั้งจังหวัดเดินทางมาซื้ออาหาร และเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวบางคนที่ต้องการมาเห็นตลาดค้าเนื้อสุนัขและแมว ผู้อำนวยการโครงการรณรงค์ให้ยุติการค้าเนื้อสุนัขของสมาคมมนุษยธรรมนานาชาติเผยว่า แต่ละปีตลาดต่าง ๆ ในจังหวัดนี้ฆ่าสุนัขเพื่อจำหน่ายเนื้อไม่ต่ำกว่า 130,000 ตัว.-สำนักข่าวไทย

หญิงอินโดนีเซีย 2 คน ออกมาขอโทษที่จัดงานแต่งงานอย่างหรูหราให้กับสุนัขของพวกเธอและทำให้เกิดกระแส “ดรามา” และ “ทัวร์ลง” การกระทำของเธอในประเทศอินโดนีเซียที่ถือเป็นประเทศรายได้ปานกลางและมีความเหลื่อมล้ำเรื่องฐานะค่อนข้างสูงแห่งหนึ่งในโลก