“มิน อ่อง หล่าย” ขอเจรจาแบบเจอหน้ากับกลุ่มชาติพันธุ์

ย่างกุ้ง 22 เม.ย.- พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเรียกร้องขอเปิดการเจรจาสันติภาพแบบพบหน้ากับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่ายกล่าวสุนทรพจน์ผ่านสื่อทางการว่า ขอเชิญผู้นำกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์เรื่องเปิดการเจรจา โดยขอให้ตัวแทนการเจรจาลงทะเบียนกับทางการภายในวันที่ 9 พฤษภาคม และเขาจะพบกับตัวแทนเหล่านั้นด้วยตนเอง ทุกคนจะหารือกันอย่างซื่อสัตย์และเปิดเผย เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากสันติภาพและการพัฒนา อย่างไรก็ดี ผู้นำเมียนมาไม่ได้ระบุวันเวลาในการเจรจาแต่อย่างใด เอเอฟพีระบุว่า เมียนมามีกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ประมาณ 20 กลุ่ม ส่วนใหญ่ยึดครองดินแดนห่างไกลของประเทศ โดยได้ต่อสู้กันเองและต่อสู้กองทัพมาหลายทศวรรษ เพื่อแย่งชิงการค้ายาเสพติด ทรัพยากรธรรมชาติ และอำนาจการปกครองตนเอง กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์บางกลุ่มกล่าวโทษรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซู จีที่ถูกรัฐประหารเมื่อปี 2564 และเสนอให้ที่พักรวมทั้งฝึกอาวุธให้แก่กองกำลังปกป้องประชาชนหรือพีดีเอฟ (PDF) ที่รวมตัวกันตามเมืองต่าง ๆ เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร เอเอฟพีตั้งข้อสังเกตว่า ผู้นำเมียนมาเรียกร้องเจรจาสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ในช่วงที่กองทัพเมียนมาปะทะกับพีดีเอฟรายวัน พีดีเอฟบางกลุ่มยังร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์รบตามชายแดนด้วย นอกจากนี้เขายังประกาศว่า “จะบดขยี้พีดีเอฟ” ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสวนสนามวันกองทัพเมื่อเดือนก่อนที่มีตัวแทนกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่มเข้าร่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย

โป๊ปเรียกร้องหยุดยิงในยูเครนช่วงอีสเตอร์

วาติกัน 11 เม.ย.- สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสต์จักรนิกายโรมันคาทอลิกทรงเรียกร้องให้หยุดยิงในยูเครนช่วงเทศกาลอีสเตอร์และเปิดการเจรจาอย่างแท้จริงเพื่อให้เกิดสันติภาพในยูเครน สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงนำการสวดในวันอาทิตย์ทางตาลที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีตั้งแต่มีการใช้มาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทรงประณามสงครามในยูเครนว่า เป็นสงครามที่ทำให้ผู้คนได้เห็นการสังหารหมู่ที่โหดร้ายและความโหดร้ายที่กระทำต่อพลเรือนผู้ไร้อาวุธทุกวัน  โปรดวางอาวุธและเริ่มการหยุดยิงในเทศกาลอีสเตอร์ โปรดอย่าบรรจุกระสุนใหม่แล้วเริ่มการสู้รบอีกครั้ง การหยุดยิงเพื่อให้เกิดสันติภาพผ่านการเจรจาอย่างแท้จริงถือเป็นการเสียสละบางอย่างเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นเช่นกัน ชัยชนะจะมีความหมายอะไรหากต้องปักธงลงบนซากปรักหักพัง และว่าสำหรับพระผู้เป็นเจ้าแล้วไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงประณามความเขลาของสงคราม และตรัสถึงผู้ถูกสังหารและผู้ลี้ภัยในการสู้รบว่า พระคริสต์ทรงถูกตรึงกางเขนอีกครั้งเพื่อไถ่บาปให้แก่มารดาที่อาลัยให้แก่การตายอย่างไม่เป็นธรรมของบุตรและสามี ทรงถูกตรึงกางเขนเพื่อไถ่บาปให้แก่ผู้ลี้ภัยที่หนีระเบิดพร้อมกับอุ้มเด็กเล็กไว้ในอ้อมแขน ทรงถูกตรึงกางเขนเพื่อไถ่บาปให้แก่คนชราที่ถูกทิ้งให้ตายอย่างเดียวดาย คนหนุ่มสาวที่ถูกพรากอนาคต และทหารที่ถูกส่งไปเข่นฆ่าพี่น้องร่วมโลก.-สำนักข่าวไทย

“จีน-ไทย” ร่วมออกคำแถลงประเด็นยูเครน

เหอเฝย 4 เม.ย.- รัฐมนตรีต่างประเทศจีนและไทย ออกแถลงการณ์ร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน โดยหวังว่าทุกประเทศจะพยายามร่วมกันตามคำแถลงดังกล่าว เว็บไซต์สำนักข่าวซินหัวไทยรายงานว่า นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศของจีนได้หารือร่วมกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ณ เขตถุนซี เมืองหวงซาน มณฑลอันฮุย ทางตะวันออกของจีน นายหวัง อี้ได้ย้ำถึงความคิดเห็นสำคัญที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนกล่าวกับกลุ่มผู้นำสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) เมื่อวันที่ 1 เมษายนเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตยูเครนภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน และได้สื่อสารเชิงลึกกับฝ่ายไทย ซินหัวไทยรายงานว่า ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมออกคำแถลงใน 4 ประการประกอบด้วย 1.การสนับสนุนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพ 2.การป้องกันการเกิดวิกฤตทางมนุษยธรรมขนานใหญ่และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างทันท่วงที 3.การควบคุมผลกระทบเชิงลบที่กระจายวงกว้างและรักษาทิศทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก และ 4.การรักษาทิศทางการพัฒนาสันติภาพของภูมิภาคเอเชีย พร้อมกับส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยหวังว่าทุกประเทศจะพยายามร่วมกันเพื่อการเหล่านี้.-สำนักข่าวไทย

จีนบอกอียูว่าจะหาทางสร้างสันติภาพยูเครนด้วยวิธีของตนเอง

จีนเสนอให้คำรับประกันกับสหภาพยุโรปว่า จะเดินหน้าพยายามหาทางให้เกิดสันติภาพในยูเครนแต่จะเป็นไปในแนวทางและเงื่อนไขของจีนเอง โดยไม่สนใจกระแสกดดันที่ไห้แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวกว่าเดิมต่อรัสเซีย

นำเหรียญโนเบลสันติภาพออกประมูลช่วยยูเครน

มอสโก 23 มี.ค.- บรรณาธิการชาวรัสเซียจะนำเหรียญรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่ได้รับเมื่อปีก่อน ออกประมูลเพื่อหาเงินช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวยูเครน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์อิสระโนวายา กาเซตาประกาศเมื่อวานนี้ว่า นายดมิทรี มูราตอฟ บรรณาธิการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์จะเปิดประมูลเหรียญรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่ได้รับเมื่อเดือนธันวาคม 2564 จากผลงานการแสดงความเห็นปกป้องเสรีภาพในรัสเซียอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย นายมูราตอฟโพสต์แถลงการณ์ในเว็บไซต์ว่า เด็ก ๆ ที่บาดเจ็บและไม่สบายจำนวนมากกำลังต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน เขาจึงต้องนำเหรียญรางวัลอันทรงเกียรติดังกล่าวออกประมูล พร้อมกับย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนเรื่องการหยุดยิง แลกเปลี่ยนตัวนักโทษ และเปิดเส้นทางมนุษยธรรม เงินที่ได้จากการประมูลจะมอบให้แก่มูลนิธิความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวยูเครน ขณะนี้เขากำลังติดต่อกับสถานประมูลต่าง ๆ ให้ช่วยดำเนินการในเรื่องนี้ ข้อมูลล่าสุดของสำนักงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติระบุว่า มีคนลี้ภัยออกจากยูเครนแล้วมากกว่า 3 ล้าน 5 แสนคน นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อวนที่ 24 กุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียกำลังหารือจริงจังเรื่องความเป็นกลางของยูเครน

มอสโก 16 มี.ค.- นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเผยว่า รัสเซียกำลังหารืออย่างจริงจังเรื่องสถานะความเป็นกลางของยูเครน นายลาฟรอฟให้สัมภาษณ์อาร์บีซีนิวส์ (RBC News) ที่เป็นช่องข่าวดาวเทียมและเคเบิลของสหรัฐในวันนี้ว่า การเจรจาสันติภาพกับยูเครนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีความหวังที่จะประนีประนอมกันได้ เรื่องที่กำลังมีการเจรจาอย่างจริงจังคือ สถานะความเป็นกลางของยูเครนและการรับรองเรื่องความมั่นคง รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียระบุว่า ประเด็นสำคัญได้แก่ความปลอดภัยของประชาชนทางภาคตะวันออกของยูเครน การทำให้ยูเครนเป็นประเทศปลอดทหาร และสิทธิของผู้พูดภาษารัสเซียในยูเครน ด้านยูเครนแสดงความเห็นเชิงบวกอย่างระมัดระวังต่อการเจรจาสันติภาพ โดยระบุว่าพร้อมเจรจาเพื่อยุติสงคราม แต่จะไม่ยอมจำนนหรือยอมรับการยื่นคำขาดของรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียประกาศใช้ปฏิบัติการทางทหารพิเศษกับยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยกล่าวโทษสหรัฐว่า คุกคามรัสเซียด้วยการขยายองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการทหาร ให้มาทางฝั่งตะวันออกจนประชิดชายแดนรัสเซีย และว่าเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้ปฏิบัติทางการทหาร เพราะผู้พูดภาษารัสเซียในยูเครนตกเป็นเหยื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของกลุ่มชาตินิยมและนาซีใหม่ในยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนในปี 2557 ด้านยูเครนและชาติตะวันตกแย้งว่า ข้ออ้างของรัสเซียเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นเรื่องไม่มีมูลความจริง.-สำนักข่าวไทย

ที่ปรึกษาผู้นำยูเครนคาดสงครามอาจจบในเดือน พ.ค.

เคียฟ 15 มี.ค.- ที่ปรึกษาหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครนคาดว่า สงครามในยูเครนมีแนวโน้มจะจบสิ้นภายในต้นเดือนพฤษภาคม เมื่อรัสเซียหมดทรัพยากรที่จะใช้ในการโจมตียูเครน สื่อยูเครนหลายแห่งเผยแพร่คลิปของนายโอเล็กซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครนที่กล่าวว่า เวลาจบสงครามที่แน่ชัดขึ้นกับว่ารัสเซียพร้อมจะทุ่มทรัพยากรในการทำสงครามมากน้อยเพียงใด เขาคิดว่าควรจะมีข้อตกลงสันติภาพไม่เกินเดือนพฤษภาคม โดยอาจเป็นต้นเดือนพฤษภาคม สถานการณ์ขณะนี้กำลังอยู่กลางทางแยก อาจจะมีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพโดยเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์และมีการถอนทหาร หรืออาจจะมีความพยายามทำลายทุกอย่าง หรืออาจจะเกิดฉากทัศน์เลวร้ายที่สุดเมื่อรัสเซียส่งทหารชุดใหม่เข้ายูเครนหลังจากใช้เวลาฝึกนาน 1 เดือน อย่างไรก็ดี แม้มีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้ การปะทะประปรายจะยังคงเกิดขึ้นไปอีกราว 1 ปี ที่ปรึกษายูเครนคาดการณ์ดังกล่าวในขณะที่การเจรจาระหว่างยูเครน-รัสเซียรอบล่าสุดเมื่อวานนี้ยังไม่บรรลุผลใด ๆ นอกจากเรื่องเส้นทางมนุษยธรรมให้คนอพยพออกจากเมืองในยูเครนที่ถูกปิดล้อม.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ หนุนส่งเสริมผู้หญิงงานด้านสันติภาพ-ความมั่นคง

นายกฯ พร้อมสนับสนุนข้อเสนอภาคประชาชน ส่งเสริมผู้หญิงในงานด้านสันติภาพและความมั่นคง มุ่งลดความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้

เลขาฯ ยูเอ็นวอน “ปูติน” หยุดส่งทหารโจมตียูเครน

สหประชาชาติ 24 ก.พ.- นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ขอให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียหยุดการส่งทหารเข้าไปโจมตียูเครน และให้โอกาสแก่สันติภาพ เว็บไซต์ข่าวของยูเอ็นรายงานว่า นายกูเตอร์เรสได้ขอร้องดังกล่าว เมื่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เปิดการประชุมฉุกเฉินเมื่อเย็นวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นการประชุมคืนที่ 2 แล้วในสัปดาห์นี้ และเมื่อการประชุมดำเนินไปได้ 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีปูตินได้ประกาศในกรุงมอสโกว่า ปฏิบัติการทางทหารพิเศษในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครนได้เริ่มขึ้นแล้ว และขอให้ทหารยูเครนวางอาวุธ เป็นเหตุให้เลขาธิการยูเอ็นเปิดการแถลงข่าวกับสื่อหลังยูเอ็นเอสซีเสร็จสิ้นการประชุมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาน่าเศร้าที่สุดในการดำรงตำแหน่งของเขา เขาต้องขอแก้ไขคำขอร้องก่อนหน้านี้เป็นว่า ขอให้ประธานาธิบดีปูตินเห็นแก่มนุษยธรรมด้วยการนำทหารกลับไปรัสเซีย และไม่เริ่มต้นสงครามที่อาจเลวร้ายที่สุดของคริสต์ศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นคริสต์ศตวรรษปัจจุบัน ความขัดแย้งนี้จะต้องยุติลงในเวลานี้.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีใต้รับปากผลักดันสันติภาพกับเกาหลีเหนือ

โซล 3 ม.ค.- ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้รับปากจะใช้หลายเดือนที่เหลืออยู่ของการบริหารประเทศผลักดันให้เกิดความสำเร็จทางการทูตกับเกาหลีเหนือ ประธานาธิบดีมุนกล่าวสุนทรพจน์ในวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะครบวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปีในเดือนพฤษภาคมว่า รัฐบาลของเขาจะเดินหน้าหาทางสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติระหว่างสองเกาหลี และเดินหน้าเส้นทางการมุ่งไปสู่สันติภาพที่ไม่มีวันย้อนกลับ หวังว่าความพยายามให้เกิดการเจรจานี้จะได้รับการสานต่อจากรัฐบาลชุดใหม่ด้วย เขายอมรับว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลาอีกนาน แต่หากความสัมพันธ์สองเกาหลีเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ประชาคมโลกก็จะเจริญรอยตาม และว่าการที่เขาสามารถเอื้อมมือไปถึงเกาหลีเหนือได้ เป็นผลจากการสั่งสมศักยภาพกองทัพขนานใหญ่ เพราะสันติภาพจะเป็นไปได้ต่อเมื่อมีความมั่นคงที่แข็งแกร่ง ผู้นำเกาหลีใต้วัย 68 ปี ประชุมสุดยอดกับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือวัย 37 ปี ในปี 2561 ถึง 3 ครั้ง แต่การเจรจาหยุดชะงักไป เพราะประชาคมโลกต้องการให้เกาหลีเหนือยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่เกาหลีเหนือต้องการให้สหรัฐและเกาหลีใต้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรและยุตินโยบายเป็นปรปักษ์ และในการกล่าวสุนทรพจน์วันส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมา ผู้นำเกาหลีเหนือไม่ได้กล่าวถึงข้อเรียกร้องของผู้นำเกาหลีใต้เรื่องประกาศยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ หรือเรื่องการเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐที่ชะงักงัน.-สำนักข่าวไทย

อาร์กบิชอปต่อต้านเหยียดผิวในแอฟริกาใต้ถึงแก่กรรมแล้ว

โจฮันเนสเบิร์ก 26 ธ.ค.- อาร์กบิชอปเดสมอนด์ ตูตู ผู้รณรงค์ต่อต้านการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ และได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2527 ถึงแก่กรรมแล้วในวันนี้ด้วยวัย 90 ปี แพทย์หญิงผู้ประสานงานสำนักงานอาร์กบิชอปเดสมอนด์ ตูตู แถลงในนามครอบครัวตูตูว่า อาร์กบิชอปถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยวัย 90 ปีที่ศูนย์ดูแลในเมืองเคปทาวน์เช้าวันนี้ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดสาเหตุการถึงแก่กรรม ขณะที่ประธานาธิบดีซีริล รามาโฟซาของแอฟริกาใต้แถลงว่า การจากไปของอาร์กบิชอปกิตติคุณเดสมอนด์ ตูตู เป็นการสูญเสียอีกครั้งหนึ่งของประเทศที่ต้องกล่าวลาชาวแอฟริกาใต้รุ่นก่อน ผู้ส่งต่อประเทศที่ได้รับการปลดแอกแล้วให้แก่คนรุ่นหลัง อาร์กบิชอปตูตูขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนพูดตรง เขาใช้ช่วงเวลาที่เป็นบิชอปผิวดำคนแรกแห่งโจฮันเนสเบิร์ก และอาร์กบิชอปแห่งเคปทาวน์รณรงค์ต่อต้านการแบ่งแยกสีผิวทั้งในแอฟริกาใต้และทั่วโลก รวมทั้งเรียกร้องสิทธิของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ เขาตรวจพบมะเร็งต่อมลูกหมากช่วงปลายคริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 และเข้าโรงพยาบาลหลายครั้งในช่วงหลายปีมานี้เพื่อรับการรักษามะเร็ง.-สำนักข่าวไทย

1 4 5 6 7 8 11
...