สันติภาพ

ออสโล 10 ธ.ค.- นักข่าวสตรีชาวฟิลิปปินส์และนักข่าวชายชาวรัสเซียจะรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2564 ในพิธีที่จัดขึ้นที่กรุงออสโลของนอร์เวย์ในวันนี้ นางมาเรีย เรสซา วัย 58 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ข่าวแรปเปลอร์ (Rappler) และนายดมิทรี มูราตอฟ วัย 60 ปี บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์อิสระโนวายากาเซตา ได้รับการประกาศชื่อเมื่อต้นเดือนตุลาคมให้เป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจากความพยายามปกป้องเสรีภาพในการแสดงออก ทั้งคู่จะรับใบประกาศเกียรติคุณ เหรียญทองโนเบล และเช็คมูลค่า 10 ล้านโครนาสวีเดน (ราว 37 ล้านบาท) ร่วมกันในพิธีที่จัดขึ้นอย่างจำกัดเพราะสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ศาลาว่าการกรุงออสโลในเวลา 13:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 19:00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ประธานคณะกรรมการโนเบลนอร์เวย์กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับทั้งคู่เมื่อวานนี้ว่า สังคมที่ดีและประชาธิปไตยจะต้องมีข่าวสารที่เชื่อถือได้ ขณะที่นางเรสซาตอบข้อถามเรื่องการได้รับรางวัลโนเบลอันทรงเกียรติได้ช่วยให้เสรีภาพสื่อมวลชนในฟิลิปปินส์ ซึ่งรั้งอันดับที่ 138 ตามการจัดอันดับขององค์กรสื่อไร้พรมแดนดีขึ้นหรือไม่ว่า ไม่ช่วยเลย สื่อมวลชนยังคงต้องเสี่ยงชีวิตในการรายงานข่าวที่ล่อแหลม ล่าสุดผู้สื่อข่าวที่ทำงานให้กับหนังสือพิมพ์มะนิลาสแตนดาร์ดและสำนักข่าวรอยเตอร์เพิ่งถูกจ่อยิงศีรษะเสียชีวิตเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพราะเกาะติดรายงานข่าวการทำสงครามปราบปรามยาเสพติดในฟิลิปปินส์ นับเป็นรายที่ 16 แล้วในรัฐบาลประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตที่บริหารประเทศตั้งแต่ปี 2559 ขณะที่นางเรสซาเองถูกฟ้องคดีอาญา 7 คดี […]

โตเกียว 11 พ.ย.- นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อวานนี้ รับปากจะปกป้องค่านิยมสากล รวมทั้งสันติภาพและเสถียรภาพของญี่ปุ่นและทั่วโลก ในยามที่จีนเพิ่มแสนยานุภาพทางทหารและอ้างสิทธิทางดินแดนอย่างแข็งกร้าว นายฮายาชิวัย 60 ปี แถลงข่าวครั้งแรกหลังรับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะว่า ค่านิยมสากลที่ปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพของประชาคมโลกและระเบียบโลกกำลังถูกท้าทายอย่างร้ายแรงมากยิ่งขึ้น การที่จีนพยายามแต่ฝ่ายเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบัน ทำให้ญี่ปุ่นต้องโต้แย้งในสิ่งที่ควรโต้แย้ง และขอให้จีนประพฤติตัวอย่างมีความรับผิดชอบ ขณะเดียวกันจะสื่อสารและร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการแก้ไขปัญหาร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และมีเสถียรภาพ ส่วนเรื่องแผนการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนที่ถูกเลื่อนมาจากเดือนเมษายนปีก่อนเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นายฮายาชิตอบว่า ยังเร็วเกินไปที่จะกำหนดตารางการเยือนเพราะต้องดูสถานการณ์การระบาดก่อน รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นคนใหม่ย้ำเรื่องความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐว่า มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นเพราะเป็นพื้นฐานของการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่มีความท้าทายด้านความมั่นคง เช่น โครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ส่วนความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ เขาขอให้เกาหลีใต้ดำเนินการอย่างเหมาะสมในการแก้ไขข้อพิพาทเรื่องแรงงานทาสสมัยสงครามและการชดเชย ตามที่ญี่ปุ่นได้แสดงจุดยืนไปแล้ว เพื่อให้สองประเทศสามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือจะกระชับความร่วมมือกับรัสเซียเพื่อต้านทานอิทธิพลของสหรัฐ และมองว่าสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีจะไม่มีวันเกิดขึ้น ตราบใดที่สหรัฐยังไม่ถอนกำลังพลออกไป

คูเวตซิตี 8 ต.ค.- เชค เมชาล อัลอาหมัด อัลซาบาห์ มกุฎราชกุมารพระองค์ใหม่ของคูเวตทรงสาบานตนต่อรัฐสภาในวันนี้ รับปากจะยึดมั่นประชาธิปไตยและสันติภาพ พร้อมกับทรงขอให้ชาวคูเวตไม่ยอมรับความแตกแยก เชค เมชาล พระชนมพรรษา 79-80 พรรษา ทรงเป็นพระอนุชาต่างมารดาในสมเด็จพระราชาธิบดีเชค นาวาฟ อัลอาหมัด อัลจาเบอร์ อัลซาบาห์ พระชนมพรรษา 83 พรรษา ที่เพิ่งเสด็จขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองรัฐคูเวตเมื่อวันที่ 29 กันยายน เนื่องจากเชค ซาบาห์ อัลอาหมัด อัลจาเบอร์ อัลซาบาห์ สวรรคตหลังครองบัลลังก์มาตั้งแต่ปี 2549 รัฐสภาลงมติรับรองมกุฎราชกุมารพระองค์ใหม่ด้วยมติเอกฉันท์ เป็นการสืบทอดตำแหน่งภายในราชวงศ์อย่างราบรื่นในขณะที่คูเวตกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง เพราะราคาน้ำมันตกต่ำ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แพร่ระบาด และความตึงเครียดระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านที่ยังยืดเยื้อ มกุฎราชกุมารพระองค์ใหม่กล่าวทางโทรทัศน์ว่า คูเวตจะยึดมั่นในพันธกรณีต่อภูมิภาคและสากล จะยึดมั่นในแนวทางสันติและประชาธิปไตย จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น และจะส่งเสริมขันติเพื่อหลีกเลี่ยงความแตกแยก นักการทูตและนักวิเคราะห์คาดว่า สมเด็จพระราชาธิบดีเชค นาวาฟที่ทรงมีพระชนมพรรษามากและเก็บพระองค์อาจมอบหมายพระราชภารกิจสำคัญให้แก่มกุฎราชกุมารที่ทรงดำรงตำแหน่งด้านความมั่นคงมานาน คาดว่าทั้งสองพระองค์จะทรงสนพระทัยปัญหาในประเทศเป็นหลัก เพราะเตรียมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาในปีนี้ ขณะที่รัฐบาลหาทางประคับประคองฐานะทางการเงิน ส่วนนโยบายน้ำมันและต่างประเทศคงจะสานต่อแนวทางสร้างความเป็นเอกภาพในภูมิภาคตามที่สมเด็จพระราชาธิบดีองค์ก่อนทรงวางไว้.-สำนักข่าวไทย

ออสโล 22 ก.ย.- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นอร์เวย์และสวีเดนเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้โทรศัพท์ขอบคุณพวกเขาที่เสนอชื่อชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2564 นายมักนุส จาคอบซอน ส.ส.สวีเดน พรรคคริสเตียนเดโมแครต ฝ่ายขวาถึงกลางขวา ทวีตว่า ประธานาธิบดีทรัมป์โทรศัพท์มาหาเขา ขอบคุณที่เสนอชื่อชิงรางวัลโนเบลสันติภาพ และได้คุยกันเรื่องสันติภาพในตะวันออกกลางและคาบสมุทรบอลข่าน เขาอวยพรให้ผู้นำสหรัฐประสบความสำเร็จเรื่องกระบวนการสร้างสันติภาพ พร้อมกับทวีตภาพทรัมป์นั่งคุยโทรศัพท์อย่างยิ้มแย้ม ด้านนายคริสเตียน ทีบริง-เยดเดอ ส.ส.นอร์เวย์ พรรคก้าวหน้า ฝ่ายขวาประชานิยมที่ต่อต้านคนเข้าเมือง เผยกับเอเอฟพีว่า ได้รับโทรศัพท์จากประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวานนี้ โทรมาขอบคุณที่เสนอชื่อชิงรางวัลโนเบล เขาแปลกใจ และมองว่าเป็นเรื่องดีมากเพราะไม่คิดว่าจะมีคนทำแบบนี้ทุกคน แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าคุยอะไรกับทรัมป์บ้าง ส.ส.สแกนดิเนเวียทั้งสองคนประกาศเมื่อต้นเดือนกันยายนว่า ได้เสนอชื่อชิงทรัมป์ชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2564 ส.ส.สวีเดนยกย่องทรัมป์ที่พยายามเป็นคนกลางให้แก่เซอร์เบียและโคโซโวที่ยังคงหมางเมินกันตั้งแต่สงครามบนคาบสมุทรบอลข่านเมื่อกว่า 20 ปีก่อน ส่วน ส.ส.นอร์เวย์ยกบทบาททรัมป์ที่ช่วยให้อิสราเอลสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระดับปกติกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี.-สำนักข่าวไทย

จีนกล่าวหาระหว่างประชุมกับสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนว่า สหรัฐเป็นผู้ผลักดันใหญ่ที่สุดให้ทะเลจีนใต้กลายเป็นพื้นที่ทางทหาร

เยรูซาเล็ม 1 ก.ย.- หนังสือพิมพ์อิสราเอลฉบับวันนี้พากันลงข่าวในเชิงบวกเรื่องเที่ยวบินพาณิชย์ของอิสราเอลที่บินไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) เป็นเที่ยวแรกเมื่อวานนี้ เยดิออต อาโรนอต หนังสือพิมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุดในอิสราเอลพาดหัวข่าวว่า “เที่ยวบินแห่งสันติภาพ” พร้อมภาพเจ้าหน้าที่ชาวยูเออีสวมชุดขาวแบบดั้งเดิมยืนข้างประตูห้องโดยสารสายการบินเอลอัล เที่ยวบิน 971 เห็นคำว่า “สันติภาพ” เป็นภาษาอาหรับ อังกฤษ และฮีบรู เหนือหน้าต่างห้องนักบินอย่างชัดเจน นอกจากนี้ด้านในของหนังสือพิมพ์ยังลงข่าวเที่ยวบินนี้ถึง 4 หน้าเต็ม ขณะที่หนังสือพิมพ์คู่แข่งอย่างมารีฟ พาดหัวข่าวด้วยคำว่า ซาลาม อัลเลกุม (ขอสันติจงมีแด่ท่าน) ซึ่งเป็นคำทักทายของชาวอาหรับแต่เขียนเป็นภาษาฮีบรู ซึ่งเป็นภาษาของอิสราเอล พร้อมกับเหน็บแนมรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลว่า กระแสความสนใจของผู้คนถูกเบี่ยงเบนไปชั่วขณะจากการทำสงครามกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ความขัดแย้งภายในรัฐบาล และการประท้วง เครื่องบินของเอลอัลนำคณะผู้แทนอิสราเอล-อเมริกันถึงท่าอากาศยานอาบูดาบีและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น.-สำนักข่าวไทย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเผยว่า ผู้นำอิสราเอลและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) จะลงนามข้อตกลงสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์ที่ทำเนียบขาวภายในสามสัปดาห์นี้