สหรัฐ

แคลิฟอร์เนีย 1 พ.ค.- หน่วยงานด้านการเงินของสหรัฐเข้ายึดธนาคารเฟิร์สท์รีพับลิกแบงก์ (First Republic Bank) แล้ว และจะให้เจพีมอร์แกนเชส (JPMorgan Chase) ผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุนรายใหญ่เข้าดูแลต่อ บรรษัทคุ้มครองเงินฝากกลางหรือเอฟดีไอซี (FDIC) ของสหรัฐแถลงในวันนี้ว่า เพื่อปกป้องผู้ฝากเงิน เอฟดีไอซีจึงทำข้อตกลงซื้อและครอบครองสินทรัพย์กับธนาคารเจพีมอร์แกนเชสแบงก์ เมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ เพื่อรับเอาเงินฝากทั้งหมดและสินทรัพย์เกือบทั้งหมดของธนาคารเฟิร์สท์รีพับลิกแบงก์ ด้านสำนักงานคุ้มครองและนวัตกรรมทางการเงินของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่ตั้งของธนาคารเฟิร์สท์รีพับลิกแบงก์แถลงว่า เจพีมอร์แกนจะรับเอาเงินฝากทั้งหมด รวมถึงเงินฝากที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง และสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของธนาคารเฟิร์สท์รีพับลิกแบงก์ ธนาคารเฟิร์สท์รีพับลิกแบงก์ถูกยึดหลังจากไม่สามารถเสนอแผนกอบกู้กิจการที่เป็นไปได้ และได้เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สูญเสียเงินฝากมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 3.42 ล้านล้านบาท) ในไตรมาสแรกของปีนี้ ทำให้ราคาหุ้นร่วงหนัก แหล่งข่าวเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้เข้าแทรกแซงด้วยการให้เอฟดีไอซีและกระทรวงคลังติดต่อธนาคาร 6 แห่งว่าสนใจจะซื้อสินทรัพย์ของธนาคารหรือไม่ ซึ่งมีทั้งหมด 233,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.97 ล้านล้านบาท) นับจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 1 พ.ค.- ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส ของฟิลิปปินส์ ซึ่งจะพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ที่กรุงวอชิงตันในวันนี้ตามเวลาสหรัฐเผยว่า รัฐบาลของเขาจะไม่ยอมให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นสถานที่ระดมพลทางทหาร ประธานาธิบดีมาร์กอสกล่าวกับสื่อเมื่อวันอาทิตย์ก่อนขึ้นเครื่องบินไปกรุงวอชิงตันว่า ฟิลิปปินส์จะไม่ส่งเสริมการกระทำยั่วยุใด ๆ ของประเทศอื่นที่จะมีความเกี่ยวข้องกับฟิลิปปินส์ และจะไม่ยอมให้ฟิลิปปินส์ถูกใช้เป็นสถานที่ระดมพลสำหรับปฏิบัติการทางทหารทุกประเภท เขากล่าวถึงเหตุการณ์ที่เรือจีนเกือบชนเรือหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 23 เมษายนว่า เป็นเหตุการณ์ที่อาจสร้างความสูญเสียให้ทั้ง 2 ฝ่าย และเป็นสิ่งที่ฟิลิปปินส์ต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น ขอให้จีนปฏิบัติตามที่เขาเห็นพ้องกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนที่กรุงปักกิ่งเมื่อต้นปีนี้เรื่องตั้งกลไกสื่อสารโดยตรงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนในทะเลจีนใต้ ฟิลิปปินส์ได้ตั้งทีมงานในเรื่องนี้แล้ว แต่จีนยังไม่ได้ตั้ง ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงเมื่อวันเสาร์เรียกร้องให้จีนงดเว้นการกระทำยั่วยุและไม่ปลอดภัย โดยระบุว่ากองทัพสหรัฐจะตอบโต้หากกองทัพฟิลิปปินส์ถูกโจมตี ตามที่ทั้ง 2 ประเทศมีสนธิสัญญากลาโหมร่วมปี 2494 ฟิลิปปินส์อนุญาตให้กองทัพสหรัฐเข้าถึงฐานทัพฟิลิปปินส์ได้อีก 4 แห่งเมื่อต้นเดือนเมษายน จากเดิมที่เข้าถึงได้ 5 แห่ง เพื่อหาทางต้านทานจีนที่แสดงท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้น ฐานทัพที่ให้เข้าถึงเพิ่มมีทั้งที่อยู่ใกล้หมู่เกาะสแปรตลีย์ และที่อยู่ตรงข้ามกับไต้หวัน.-สำนักข่าวไทย

ชายเม็กซิโก ไม่พอใจถูกเพื่อนบ้านโวยซ้อมยิงปืนเสียงดัง บุกสังหาร 5 ศพ รวมถึงเด็ก 8 ขวบ ตำรวจสหรัฐเร่งล่าตัว

วอชิงตัน 30 เม.ย.- ตลาดคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 10 และอาจเป็นครั้งสุดท้ายในการประชุมวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ แม้ว่ามีสัญญาณมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัว นักวิเคราะห์และนักลงทุนคาดว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 จากนั้นจะคงดอกเบี้ยสูงไว้ต่อไปเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อให้ได้ตามเป้าหมายระยะยาวที่ร้อยละ 2 โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารแบงก์ออฟอเมริกาแจ้งลูกค้าเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ธนาคารคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 ในสัปดาห์หน้า และส่งสัญญาณระงับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ด้านซีเอ็มอี กรุ๊ป (CME Group) ซึ่งเป็นตลาดอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเผยว่า ผู้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือฟิวเจอร์ส เทรดเดอร์มากกว่าร้อยละ 80 คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดหรือเอฟโอเอ็มซี (FOMC) จะประชุมในวันที่ 2-3 พฤษภาคม ท่ามกลางสถานการณ์ที่แตกต่างอย่างมากจากการประชุมครั้งหลังสุดในเดือนมีนาคมที่เกิดวิกฤตภาคการธนาคารหลังจากธนาคารในสหรัฐต้องปิดกิจการหลายแห่ง ครั้งนั้นเฟดขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อยในปลายปีนี้ หากที่ประชุมตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ก็จะเป็นการขึ้นครั้งที่ 10 ติดต่อกัน และทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 5.00-5.25 สูงที่สุดนับจากปี 2550 ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อไม่กี่วันก่อนระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรกของปีนี้ชะลอการขยายตัวลงเหลือร้อยละ 1.1 ต่อปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมอยู่ที่ร้อยละ 4.2 ต่อปี ลดลงจากร้อยละ […]

ชาวไทยในสหรัฐ ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร เริ่มใช้สิทธิลงคะแนนเสียงแล้ว ติดตามจากคุณคมสัน ศรีธนวิบุญชัย ผู้สื่อข่าววีโอเอ ไทย ส่งรายงานมาจากสหรัฐ

วอชิงตัน 28 เม.ย.- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐชี้แจงว่า ปฏิญญาวอชิงตัน (Washington Declaration) ที่ผู้นำสหรัฐและเกาหลีใต้เห็นพ้องกัน เป็นข้อตกลงที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ไม่ใช่เพื่อแลกเปลี่ยนอาวุธนิวเคลียร์ระหว่าง 2 ประเทศ นายเอ็ดการ์ด เคแกน ผู้ช่วยพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐและผู้อำนวยการอาวุโสด้านเอเชียตะวันออกและโอเชียเนียของสภาความมั่นคงแห่งชาติกล่าวกับผู้สื่อข่าวเกาหลีใต้ที่กรุงวอชิงตันว่า เขาขอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาไม่คิดว่าปฏิญญาวอชิงตันที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐและประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้เห็นพ้องกันระหว่างประชุมสุดยอดที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันพุธ เป็นข้อตกลงเรื่องการแบ่งปันอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากนายคิม แท-ฮโย รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้กล่าวว่า ปฏิญญาวอชิงตันจะทำให้ชาวเกาหลีใต้รู้สึกว่ากำลังแบ่งปันอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐ นายเคแกนระบุว่า ปฏิญญานี้เรียกร้องให้จัดตั้งกลุ่มที่ปรึกษานิวเคลียร์หรือเอ็นซีจี (NCG) ซึ่งสหรัฐจะเปิดเผยให้เกาหลีใต้ทราบถึงรายละเอียดแผนการและการเตรียมตัวในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิดทางนิวเคลียร์ จึงเป็นการกระชับความเป็นหุ้นส่วนและความเป็นพันธมิตรอย่างสำคัญระหว่าง 2 ประเทศ เขามองว่า สิ่งนี้เป็นหนทางสำคัญอย่างยิ่งในการรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากการที่เกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์และใช้ถ้อยคำท้าทาย พร้อมกับอธิบายว่า เอ็นซีจีมีความแตกต่างจากกลุ่มวางแผนนิวเคลียร์ขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) เพราะเอ็นซีจีเป็นข้อตกลงทวิภาคีระหว่างสหรัฐที่เป็นรัฐนิวเคลียร์ภายใต้สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์หรือเอ็นพีที (NPT) กับเกาหลีใต้ที่ไม่ใช่รัฐนิวเคลียร์.-สำนักข่าวไทย

จีนกล่าววันนี้เตือนสหรัฐและเกาหลีใต้ให้หลีกเลี่ยงการยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐและประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ ตกลงกระชับความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐในเกาหลีใต้อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมให้สัญญาว่า จะลงมือดำเนินการอย่างฉับพลัน เด็ดขาดและครอบคลุม หากถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ

สหรัฐและฟิลิปปินส์ระดมยิงใส่เรือรบที่จำลองว่าเป็นเรือศัตรูในทะเลจีนใต้ในวันนี้ อันเป็นช่วงสุดท้ายของการฝึกซ้อมทางทหารที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นครั้งแรกที่ทั้ง 2 ประเทศนี้ซ้อมด้วยกระสุนจริงในทะเลจีนใต้