“ไบเดน” อ้างรัสเซียกำลังชั่งใจใช้อาวุธชีวภาพโจมตียูเครน

เคียฟ 22 มี.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ อ้างว่า รัสเซียกำลังพิจารณาใช้อาวุธชีวภาพและเคมีเพื่อโจมตียูเครน ขณะที่กองทัพยูเครนแจ้งให้ประชาชนเตรียมรับมือกับการโจมตีอย่างหนักหน่วงของรัสเซียในวันนี้ ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานที่งานเสวนาโต๊ะกลมธุรกิจ (Business Roundtable) ว่า การที่รัสเซียกล่าวหายูเครนแบบผิด ๆ ว่ายูเครนครอบครองอาวุธชีวภาพและเคมีสะท้อนให้เห็นว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ก็กำลังพิจารณาใช้อาวุธดังกล่าวเหมือนกัน ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ผู้นำรัสเซียกำลังตกอยู่ในสภาพหลังชนฝาจนถึงขั้นใส่ร้ายว่าสหรัฐมีอาวุธชีวภาพและเคมีในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่จริง นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังกล่าวเตือนภาคธุรกิจให้ระวังการโจมตีทางไซเบอร์จากรัสเซีย ซึ่งเป็นวิธีการที่รัสเซียมักใช้อยู่บ่อยครั้ง ในขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า กองทัพรัสเซียกำลังตั้งเป้าวางแผนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครนอย่างต่อเนื่องด้วยอาวุธที่แม่นยำและมีอานุภาพทำลายล้างสูง สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญทางตอนใต้ของยูเครน กลายเป็นเมืองที่ถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนักหน่วงจนทำให้อาคารหลายแห่งกลายเป็นซากปรักหักพังและมีพลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ขณะที่เมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ถูกโจมตีอย่างหนักเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ กองทัพรัสเซียยังไม่สามารถยึดเมืองสำคัญของยูเครนได้แม้แต่เมืองเดียวหลังบุกโจมตียูเครนมายาวนานกว่า 4 สัปดาห์ด้วยการโจมตีทางอากาศ การยิงขีปนาวุธพิสัยไกล และปืนใหญ่. -สำนักข่าวไทย

รัฐบาลไบเดนชี้ขาดเมียนมา “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” โรฮิงญา

วอชิงตัน 21 มี.ค.- รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐชี้ขาดอย่างเป็นทางการว่า การที่รัฐบาลทหารเมียนมาใช้ความรุนแรงกับชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ รอยเตอร์อ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ขอสงวนนามว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะประกาศการตัดสินใจในวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐที่พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สหรัฐในกรุงวอชิงตัน ซึ่งกำลังจัดแสดงนิทรรศการว่าด้วยสถานการณ์เลวร้ายของชาวโรฮิงญา นายบลิงเคนให้คำมั่นขณะรับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2564 ว่าจะทบทวนความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮิงญาในเมียนมา หลังจากนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศคนก่อนหน้าเขาไม่ตัดสินใจในเรื่องนี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐและบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งรวบรวมหลักฐานนำเสนอให้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในเวลานั้นเร่งยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องร้ายแรง เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า นายบลิงเคนได้สั่งการให้วิเคราะห์เชิงกฎหมายและข้อเท็จจริง ผลการวิเคราะห์สรุปว่า กองทัพเมียนมากำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และรัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าการชี้ขาดอย่างเป็นทางการจะเพิ่มแรงกดดันของนานาชาติในการทำให้รัฐบาลทหารเมียนมาต้องรับโทษและทำผิดได้ยากขึ้น คณะทำงานค้นหาความจริงของสหประชาชาติสรุปในปี 2561 ว่า ปฏิบัติการทางทหารในปี 2560 ที่รัฐบาลทหารเมียนมาอ้างว่าเป็นการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย มีการกระทำที่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (genocidal acts) แต่รัฐบาลสหรัฐในเวลานั้นระบุว่า เป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) ซึ่งไม่มีคำนิยามทางกฎหมายในกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ ทั้งนี้นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา สหรัฐใช้คำว่า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” อย่างเป็นทางการเพียง 6 ครั้งกับเหตุสังหารหมู่ในบอสเนีย, รวันดา, อิรักและดาร์ฟูร์, เหตุกลุ่มรัฐอิสลามปองร้ายชาวยาซิดีและชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ และการที่จีนปฏิบัติไม่ดีต่อชาวอุยกูร์และชาวมุสลิม.-สำนักข่าวไทย

จีนว่ายืนอยู่ฝั่งถูกต้องของประวัติศาสตร์กรณียูเครน

นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนกล่าวว่า จีนยืนอยู่ในฝั่งที่ถูกต้องของประวัติศาสตร์กรณีวิกฤติการณ์ยูเครน และเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เรื่องนี้และจุดยืนของจีนก็เป็นไปตามแนวทางที่เป็นความต้องการของประเทศส่วนใหญ่ในโลกนี้

วิเคราะห์เหตุสหรัฐรับผู้ลี้ภัยยูเครนไม่ถึง 700 คน

วอชิงตัน 19 มี.ค.- ซีเอ็นเอ็น (CNN) วิเคราะห์หาสาเหตุที่สหรัฐรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเพียง 690 คน ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนจนถึงขณะนี้ ทั้งที่มีคนอพยพออกจากยูเครนแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน ตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ซาชารี บี วูลฟ์ นักเขียนอาวุโสของซีเอ็นเอ็นระบุว่า ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเกือบ 2 ล้านคนเดินทางไปยังโปแลนด์ที่มีพรมแดนติดกันทางตะวันตก ขณะที่สหรัฐรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเพียง 690 คนตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน แสดงว่าแทบไม่มีผู้ลี้ภัยไปสหรัฐเลยตั้งแต่รัสเซียรุกราน ปัญหาเกิดจากระเบียบขั้นตอนยุ่งยากและระบบคนเข้าเมืองของสหรัฐที่มีปัญหา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 1 มีนาคมว่า ยินดีต้อนรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครน แต่จนถึงขณะนี้ครอบครัวชาวอเมริกันยังไม่สามารถรับอุปการะชาวยูเครนได้ แหล่งข่าวหลายแห่งเผยว่า รัฐบาลกำลังหารือวิธีช่วยให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนได้พักอาศัยกับครอบครัวที่มีถิ่นฐานอยู่ในสหรัฐอยู่แล้ว ประธานาธิบดีอันด์เซ ดูดา ของโปแลนด์ได้ร้องขอเป็นการส่วนตัวกับรองประธานาธิบดีคามาลา เดวี แฮร์ริสของสหรัฐที่ไปเยือนสัปดาห์ที่แล้ว ให้เร่งกระบวนการดังกล่าวและลดความซับซ้อนลง วูลฟ์อธิบายว่า กระบวนการขอเป็นผู้ลี้ภัยในสหรัฐใช้เวลายาวนานหลายปีในการดำเนินการและคัดกรอง ประธานาธิบดีไบเดนได้เพิ่มเพดานรับผู้ลี้ภัยจาก 15,000 คนในสมัยรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เป็น 62,500 คนในเดือนพฤษภาคม 2564 และเพิ่มล่าสุดเป็น 125,000 คน แต่ยังคงต่ำมากเมื่อเทียบกับช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี […]

สหรัฐไม่พอใจอินเดียเพิ่มนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

สหรัฐแสดงความไม่พอใจกรณีอินเดียประกาศจะซื้อน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มขึ้น เพื่อบรรเทาความต้องการพลังงาน จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19

อินเดียแจงเรื่องนำเข้าน้ำมันรัสเซีย

นิวเดลี 19 มี.ค.- เจ้าหน้าที่อินเดียชี้แจงเรื่องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศว่า อินเดียจะนำเข้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ในปีนี้ หลังจากถูกวิจารณ์เรื่องนำเข้าจากรัสเซียที่ถูกหลายประเทศคว่ำบาตรเพราะรุกรานยูเครน เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียที่ขอสงวนนามชี้แจงกับรอยเตอร์ว่า อินเดียนำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลางมากที่สุด ประกอบด้วยอิรักร้อยละ 23 ซาอุดีอาระเบียร้อยละ 18 และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ร้อยละ 11 ส่วนสหรัฐนั้น อินเดียนำเข้ามากเป็นอันดับ 4 โดยในปีนี้จะนำเข้าเพิ่มอีกร้อยละ 11 เป็นร้อยละ 8 ขณะที่รัสเซียครองส่วนแบ่งน้อยในตลาดน้ำมันอินเดีย แต่หลังจากรุกรานยูเครน รัสเซียได้เสนอขายน้ำมันแบบมีส่วนลดเพื่อลดผลกระทบจากการถูกคว่ำบาตร อินเดียนออยล์คอร์ปที่เป็นโรงกลั่นอันดับหนึ่งของอินเดียเพิ่งสั่งซื้อน้ำมันจากรัสเซีย 3 ล้านบาร์เรลผ่านการประมูล และฮินดูสถานปิโตรเลียมคอร์ปสั่งจอง 2 ล้านบาร์เรลให้ส่งมอบเดือนพฤษภาคม เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียอีกคนกล่าวว่า อินเดียพร้อมรับข้อเสนอที่มีการแข่งขันจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ราคาน้ำมันโลกทะยานขึ้น จนทำให้อัตราเงินเฟ้ออินเดียสูงขึ้น ฐานะการคลังตึงตัว และกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เจ้าหน้าที่อินเดียกล่าวด้วยว่า แม้แต่ยุโรปเองก็ยังนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียอยู่ มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย และไม่ตัดธนาคารรัสเซียที่ทำธุรรรมด้านนี้ออกจากสมาคมโทรเลขทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลกหรือสวิฟต์ (SWIFT) ดังนั้นการทำธุรกรรมด้านพลังงานที่ชอบด้วยกฎหมายจึงไม่ควรถูกนำมาเป็นเรื่องทางการเมือง.-สำนักข่าวไทย

“สี” เตือน “ไบเดน” จัดการเรื่องไต้หวันไม่ดีจะกระทบสัมพันธ์

ปักกิ่ง 19 มี.ค.- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเตือนประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐว่า จำเป็นต้องจัดการเรื่องไต้หวันอย่างเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้รับผลกระทบเชิงลบ สื่อทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสีกล่าวระหว่างสนทนาผ่านระบบวิดีโอทางไกลกับประธานาธิบดีไบเดนเมื่อวันศุกร์ว่า บางคนในสหรัฐกำลังส่งสัญญาณผิด ๆ ไปยังกลุ่มแยกดินแดนในไต้หวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง หากประเด็นไต้หวันไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม จะเกิดผลทางลบต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนย้ำกับประธานาธิบดีสีว่า นโยบายของสหรัฐเรื่องไต้หวันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และสหรัฐยังคงคัดค้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว ด้านกระทรวงต่างประเทศไต้หวันแถลงขอบคุณผู้นำสหรัฐที่ย้ำเรื่องคงสถานภาพปัจจุบันเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน รวมถึงการสนับสนุนความมั่นคงของไต้หวันอย่างแข็งขัน พร้อมกับถือโอกาสนี้เรียกร้องให้จีนดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมและประณามรัสเซียที่รุกรานยูเครน สื่อทางการจีนรายงานว่า ในการสนทนาดังกล่าวที่สหรัฐเป็นฝ่ายขอให้จัดขึ้น ประธานาธิบดีสีกล่าวถึงวิกฤตยูเครนว่าเป็นเรื่องที่จีนไม่อยากให้เกิดขึ้น องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตควรเจรจากับรัสเซียเพื่อแก้ไขต้นเหตุความขัดแย้ง ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่า ในการสนทนาที่กินเวลาราว 2 ชั่วโมง ประธานาธิบดีไบเดนได้พูดถึงผลกระทบและผลที่จะติดตามมา หากจีนให้การสนับสนุนทางวัตถุแก่รัสเซียที่โจมตีเมืองและชาวเมืองยูเครนอย่างโหดร้าย.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” จะยกหูเตือน “สี จิ้นผิง” ไม่ให้หนุนรัสเซีย

วอชิงตัน 18 มี.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะเตือนประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ไม่ให้สนับสนุนรัสเซียในการบุกโจมตียูเครนในการหารือร่วมกันผ่านทางโทรศัพท์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาในจีน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีไบเดนกับประธานาธิบดีสีจะหารือร่วมกันผ่านทางโทรศัพท์ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาในจีนเกี่ยวกับประเด็นด้านความสัมพันธ์และปัญหาระหว่างสหรัฐกับจีน ขณะที่ทำเนียบขาวสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้นำของสหรัฐกับจีนจะหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านการแข่งขันของทั้งสองประเทศ ปัญหาบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย และปัญหาอื่น ๆ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะเน้นย้ำให้ชัดเจนว่า จีนจะต้องได้รับผลกระทบจากการกระทำใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายการสนับสนุนให้รัสเซียบุกโจมตียูเครน สหรัฐเชื่อว่าจีนมีอิทธิพลต่อประธานาธิบดีปูตินและการปกป้องระเบียบข้อบังคับระหว่างประเทศตามที่จีนเคยให้คำมั่นไว้ อย่างไรก็ดี จีนกลับมีท่าทีเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่เคยพูดด้วยการไม่ออกแถลงการณ์ประณามการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย รวมถึงการพยายามวางตัวเป็นกลาง ซึ่งทำให้สหรัฐรู้สึกวิตกกังวลว่าจีนกำลังพิจารณาช่วยรัสเซียด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ในยูเครน ในขณะเดียวกัน นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐ กล่าวว่า การประชุมระหว่างประธานาธิบดีไบเดนกับประธานาธิบดีสีในวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะทำให้ผู้นำสหรัฐประเมินจุดยืนของผู้นำจีนที่มีต่อสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน เนื่องจากจีนไม่ยอมออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของรัสเซีย ซึ่งทำให้ทั่วโลกต่างรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับท่าทีของจีนที่มีต่อรัสเซีย ทำเนียบขาวของสหรัฐยังกล่าวในแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า ผู้นำสหรัฐและจีนจะหารือกันทางโทรศัพท์ในเวลา 9.00 น. ตามเวลาในสหรัฐ หรือ ตรงกับ 20.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐขับมือถือจีนอีกราย อ้างความมั่นคง

สหรัฐเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทางการจีนอีกรายเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐ โดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ

“ไบเดน” เรียก “ปูติน” ว่าอาชญากรสงคราม

วอชิงตัน 17 มี.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เรียกประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ว่าเป็น ‘อาชญากรสงคราม’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าอาจทำให้ความตึงเครียดทางการทูตของทั้งสองประเทศทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก ประธานาธิบดีไบเดนตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า ผู้นำสหรัฐพร้อมที่จะเรียกประธานาธิบดีปูตินว่า ‘อาชญากรสงคราม’ หรือไม่ หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องสงครามในยูเครน ประธานาธิบดีไบเดนตอบว่า ไม่พร้อมที่จะใช้คำนั้น ก่อนที่จะถูกผู้สื่อข่าวท้าทาย และเปลี่ยนคำตอบใหม่ว่า เขาคิดว่าประธานาธิบดีปูตินเป็นอาชญากรสงคราม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีไบเดนใช้คำดังกล่าวประณามการกระทำของผู้นำรัสเซีย ในเวลาต่อมา นางเจน ซากี โฆษกหญิงของทำเนียบขาวสหรัฐ ระบุว่า ประธานาธิบดีไบเดนพูดถึงประธานาธิบดีปูตินจากความรู้สึกในหัวใจ หลังได้เห็นภาพโหดร้ายทารุณจากการที่รัสเซียใช้ความรุนแรงในยูเครน มากกว่าที่จะประกาศใช้คำเรียกนั้นอย่างเป็นทางการ ทั้งยังระบุว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องขั้นตอนทางกฎหมายในการพิจารณาและกำหนดว่าการกระทำใดถือเป็นอาชญากรรมสงคราม ในขณะเดียวกัน นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของรัฐบาลรัสเซีย เผยกับสำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียว่า รัสเซียคิดว่าการใช้วาทกรรมดังกล่าวของประธานาธิบดีไบเดนเป็นสิ่งที่รัสเซียยอมรับไม่ได้และไม่ให้อภัยเด็ดขาด เนื่องจากสหรัฐเองก็เคยยิงระเบิดหลายร้อยลูกที่ทำให้ประชาชนหลายแสนคนทั่วโลกเสียชีวิตมาแล้ว.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียกำลังหารือจริงจังเรื่องความเป็นกลางของยูเครน

มอสโก 16 มี.ค.- นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเผยว่า รัสเซียกำลังหารืออย่างจริงจังเรื่องสถานะความเป็นกลางของยูเครน นายลาฟรอฟให้สัมภาษณ์อาร์บีซีนิวส์ (RBC News) ที่เป็นช่องข่าวดาวเทียมและเคเบิลของสหรัฐในวันนี้ว่า การเจรจาสันติภาพกับยูเครนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีความหวังที่จะประนีประนอมกันได้ เรื่องที่กำลังมีการเจรจาอย่างจริงจังคือ สถานะความเป็นกลางของยูเครนและการรับรองเรื่องความมั่นคง รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียระบุว่า ประเด็นสำคัญได้แก่ความปลอดภัยของประชาชนทางภาคตะวันออกของยูเครน การทำให้ยูเครนเป็นประเทศปลอดทหาร และสิทธิของผู้พูดภาษารัสเซียในยูเครน ด้านยูเครนแสดงความเห็นเชิงบวกอย่างระมัดระวังต่อการเจรจาสันติภาพ โดยระบุว่าพร้อมเจรจาเพื่อยุติสงคราม แต่จะไม่ยอมจำนนหรือยอมรับการยื่นคำขาดของรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียประกาศใช้ปฏิบัติการทางทหารพิเศษกับยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยกล่าวโทษสหรัฐว่า คุกคามรัสเซียด้วยการขยายองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการทหาร ให้มาทางฝั่งตะวันออกจนประชิดชายแดนรัสเซีย และว่าเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้ปฏิบัติทางการทหาร เพราะผู้พูดภาษารัสเซียในยูเครนตกเป็นเหยื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของกลุ่มชาตินิยมและนาซีใหม่ในยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนในปี 2557 ด้านยูเครนและชาติตะวันตกแย้งว่า ข้ออ้างของรัสเซียเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นเรื่องไม่มีมูลความจริง.-สำนักข่าวไทย

เผยสหรัฐจะเพิ่มงบช่วยทหารยูเครนเป็นกว่า 3 หมื่นล้านบาท

มอสโก 16 มี.ค.- สื่อรัสเซียรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐจะประกาศเพิ่มงบความช่วยเหลือแก่ทหารยูเครนอีก 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26,760 ล้านบาท) รวมเป็นกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 33,452 ล้านบาท) เว็บไซต์รัสเซียทูเดย์หรืออาร์ที (RT) ซึ่งเป็นสื่อทางการรัสเซียรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยกับสื่อเมื่อวันอังคารว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเตรียมประกาศความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก และจะทำให้ความช่วยเหลือทั้งหมดที่ประกาศเฉพาะสัปดาห์ที่แล้วสัปดาห์เดียวเพิ่มเป็น 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยว่า ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจะประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่กระทรวงต่างประเทศระบุว่า ความช่วยเหลือ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,690 ล้านบาท) ที่ประกาศเมื่อวันเสาร์จะมีอาวุธที่จัดส่งให้กองกำลังยูเครนใช้ต่อสู้กับภัยยานยนต์หุ้มเกราะ ภัยทางอากาศ และภัยอื่น ๆ ขณะเดียวกันประธานาธิบดีไบเดนได้ลงนามกฎหมายงบประมาณรัฐบาลมูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 50 ล้านล้านบาท) เมื่อวันอังคาร เพื่อจัดสรรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและความมั่นคงให้แก่ยูเครน โดยจะแถลงรายละเอียดความช่วยเหลือดังกล่าวในวันนี้ อาร์ทีรายงานด้วยว่า อาวุธและความช่วยเหลือทางทหารในรูปแบบอื่น ๆ รวมถึงนักรบอาสาต่างชาติได้หลั่งไหลจากสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตเข้าไปในยูเครน ขณะที่การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนกำลังจะล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 นับจากวันที่ […]

1 159 160 161 162 163 597
...