วอชิงตัน 19 มี.ค.- ซีเอ็นเอ็น (CNN) วิเคราะห์หาสาเหตุที่สหรัฐรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเพียง 690 คน ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนจนถึงขณะนี้ ทั้งที่มีคนอพยพออกจากยูเครนแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน ตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์
ซาชารี บี วูลฟ์ นักเขียนอาวุโสของซีเอ็นเอ็นระบุว่า ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเกือบ 2 ล้านคนเดินทางไปยังโปแลนด์ที่มีพรมแดนติดกันทางตะวันตก ขณะที่สหรัฐรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเพียง 690 คนตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน แสดงว่าแทบไม่มีผู้ลี้ภัยไปสหรัฐเลยตั้งแต่รัสเซียรุกราน ปัญหาเกิดจากระเบียบขั้นตอนยุ่งยากและระบบคนเข้าเมืองของสหรัฐที่มีปัญหา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 1 มีนาคมว่า ยินดีต้อนรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครน แต่จนถึงขณะนี้ครอบครัวชาวอเมริกันยังไม่สามารถรับอุปการะชาวยูเครนได้ แหล่งข่าวหลายแห่งเผยว่า รัฐบาลกำลังหารือวิธีช่วยให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนได้พักอาศัยกับครอบครัวที่มีถิ่นฐานอยู่ในสหรัฐอยู่แล้ว ประธานาธิบดีอันด์เซ ดูดา ของโปแลนด์ได้ร้องขอเป็นการส่วนตัวกับรองประธานาธิบดีคามาลา เดวี แฮร์ริสของสหรัฐที่ไปเยือนสัปดาห์ที่แล้ว ให้เร่งกระบวนการดังกล่าวและลดความซับซ้อนลง
วูลฟ์อธิบายว่า กระบวนการขอเป็นผู้ลี้ภัยในสหรัฐใช้เวลายาวนานหลายปีในการดำเนินการและคัดกรอง ประธานาธิบดีไบเดนได้เพิ่มเพดานรับผู้ลี้ภัยจาก 15,000 คนในสมัยรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เป็น 62,500 คนในเดือนพฤษภาคม 2564 และเพิ่มล่าสุดเป็น 125,000 คน แต่ยังคงต่ำมากเมื่อเทียบกับช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1980 ที่สหรัฐรับผู้ลี้ภัยปีละหลายแสนคน ขณะที่รัฐสภาสหรัฐอนุมัติงบช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ยูเครนมากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 133,160 ล้านบาท) ในจำนวนนี้ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 46,600 ล้านบาท) เป็นงบสำหรับช่วยวิกฤตผู้ลี้ภัยโดยเฉพาะ.-605