fbpx

นักข่าวยูเครนตายหลังรัสเซียยิงจรวดถล่มตึกในเคียฟ

เคียฟ 30 เม.ย.- สถานีวิทยุเรดิโอลิเบอร์ตีในยูเครนยืนยันว่า นักข่าวสตรีของทางสถานีเสียชีวิต หลังจากรัสเซียยิงจรวดถล่มอาคารพักอาศัยในกรุงเคียฟที่เธออาศัยอยู่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานสถานีวิทยุเรดิโอลิเบอร์ตีที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหรัฐแถลงว่า เสียใจอย่างยิ่งที่ทราบข่าววีรา ไฮริช นักข่าวในยูเครนเสียชีวิต ทุกคนตกใจและเจ็บปวดที่เธอต้องเสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติในบ้านพักของตนเองที่อยู่ในเมืองและประเทศที่เธอรัก เธอเคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์ชั้นนำของยูเครน ก่อนย้ายมาทำงานกับสถานีวิทยุแห่งนี้ในปี 2561 ในฐานะนักข่าวและโปรดิวเซอร์ ไฮริช วัย 55 ปี อาศัยอยู่ในอาคารพักอาศัยสูง 25 ชั้น ย่านใจกลางกรุงเคียฟ หน่วยฉุกเฉินของยูเครนแจ้งว่า รัสเซียยิงจรวดใส่อาคารหลังนี้เมื่อเย็นวันพฤหัสบดี ทำให้เกิดไฟไหม้ทันที ชั้นล่าง ๆ ของอาคารเสียหายบางส่วน มีผู้บาดเจ็บ 10 คน เจ้าหน้าที่พบร่างของเธอในวันศุกร์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) กำลังเยือนกรุงเคียฟในวันเดียวกัน หลังจากไปพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียที่กรุงมอสโกหนึ่งวันก่อนหน้านั้น นายกูเตอร์เรสเผยว่า ตกใจกับการโจมตีของรัสเซีย ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวหารัสเซียว่า พยายามทำให้ยูเอ็นขายหน้า เช่นเดียวกับนายวิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟที่กล่าวว่า ผู้นำรัสเซียแสดงพฤติกรรมหยาบคายใส่เลขาธิการยูเอ็น ด้านรัสเซียยืนยันว่า ได้โจมตีเป้าหมายในยูเครน แต่ไม่พูดถึงการถล่มอาคารพักอาศัยที่ทำให้นักข่าวยูเครนเสียชีวิต สหภาพผู้สื่อข่าวแห่งชาติของยูเครนเผยว่า มีผู้ประกอบอาชีพสื่อทั้งชาวยูเครนและชาวต่างชาติถูกสังหารแล้ว 23 […]

รัสเซียเผยมีคนอพยพจากยูเครนเข้ารัสเซียแล้วกว่าล้านคน

มอสโก 30 เม.ย.- นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์มีคนอพยพออกจากยูเครนเข้ารัสเซียแล้วมากกว่า 1 ล้านคน เว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศรัสเซียเผยแพร่ความเห็นที่นายลาฟรอฟให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนว่า คนในยูเครน 2 ล้าน 8 แสนคนได้ร้องขออพยพเข้ารัสเซีย จนถึงขณะนี้ได้เข้าไปในรัสเซียแล้ว 1 ล้าน 2 หมื่นคน ในจำนวนนี้ 120,000 คน เป็นชาวต่างชาติและผู้ที่ได้รับการอพยพออกจากแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ที่แยกตัวจากยูเครนและรัสเซียรับรองว่าเป็นสาธารณรัฐอิสระก่อนเริ่ม “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” กับยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ด้านยูเครนแย้งว่า รัสเซียบังคับคนในยูเครนอพยพเข้ารัสเซีย หลังจากเปิดฉากทำสงครามทั้งที่ยูเครนไม่ได้เป็นฝ่ายยั่วยุ ข้อมูลของสหประชาชาติระบุว่า มีคนอพยพออกจากยูเครนแล้วมากกว่า 5 ล้าน 4 แสนคน ขณะที่ความพยายามอพยพคนออกจากพื้นที่สู้รบ โดยเฉพาะเมืองมารีอูปอลในแคว้นโดเนตสก์ที่ถูกปิดล้อม ล้มเหลวมาแล้วหลายครั้ง รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวด้วยว่า หากรัสเซียและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ต้องการแก้ไขวิกฤตยูเครน “อย่างแท้จริง” ก็ควรหยุดจัดส่งอาวุธให้แก่ยูเครน เพราะขณะนี้นาโตได้แสดงความสนับสนุนรัฐบาลยูเครนอย่างออกหน้าด้วยการทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางการบรรลุข้อตกลงทางการเมืองที่จะยุติปฏิบัติการของรัสเซีย.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนหวังอพยพคนออกจากโรงงานเหล็กในมารีอูปอลวันนี้

เคียฟ 29 เม.ย. – ยูเครนตั้งเป้าอพยพพลเรือนที่ซ่อนตัวอยู่กับทหารกองสุดท้ายของยูเครนที่โรงงานเหล็กอาซอฟสตอลในเมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครน ในวันนี้ ขณะที่รัสเซียยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับแผนดังกล่าว ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนเผยวันนี้ว่า ยูเครนได้เตรียมแผนอพยพพลเรือนออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตอลที่เมืองมารีอูปอลในวันนี้ แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่รัสเซียยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการวางแผนอพยพพลเรือนออกจากโรงงานดังกล่าวของยูเครน ด้านนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น กล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ขณะนี้กำลังมีการหารือเข้มข้นเกี่ยวกับการเปิดเส้นทางอพยพพลเรือนออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตอลที่ถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อมอย่างหนาแน่น ส่วนผู้ประสานงานด้านวิกฤตแห่งสหประชาชาติเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่า ยูเอ็นหวังว่าทุกฝ่ายจะมีความปรารถนาดีต่อกันเพื่อเปิดเส้นทางอพยพในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้เห็นชอบตามหลักการของยูเอ็นและคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือไอซีอาร์ซี ในการมีส่วนร่วมอพยพพลเรือนออกจากโรงงานอาซอฟสตอล ด้านทางการท้องถิ่นของเมืองมารีอูปอลระบุว่า ยังคงมีพลเรือนราว 100,000 คนตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียและการอยู่ในสถานที่ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ รวมถึงการขาดแคลนน้ำดื่มและอาหาร.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” ขอรัฐสภาอนุมัติเงินกว่า 3 หมื่นล้านช่วยยูเครน

วอชิงตัน 29 เม.ย. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ขอให้รัฐสภาสหรัฐ หรือสภาคองเกรส อนุมัติเงิน 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือยูเครนในด้านการทหาร เศรษฐกิจ และความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม โดยเน้นย้ำว่าการทำเช่นนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อโจมตีรัสเซีย ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า การลงมติอนุมัติวงเงินดังกล่าวของสมาชิกรัฐสภาสหรัฐถือว่ามีความสำคัญ เพราะจะทำให้ยูเครนสามารถป้องกันตนเองได้ เงินจำนวนนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เงินช่วยเหลือด้านการทหาร 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (688,000 ล้านบาท) เงินช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (292,000 ล้านบาท) และเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (103,000 ล้านบาท) เงินจำนวนนี้มีมูลค่าค่อนข้างมาก แต่ถ้าสหรัฐไม่ช่วยยูเครนในตอนนี้และปล่อยให้ยูเครนถูกโจมตีต่อไป ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็จะมีมูลค่ามหาศาลมากกว่านี้เช่นกัน ประธานาธิบดีไบเดนยังระบุว่า กองทัพสหรัฐได้สนับสนุนยูเครนด้วยการส่งปืนต่อสู้รถถัง (anti-tank weapon) 10 กระบอกต่อรถถัง 1 คันของรัสเซีย พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า สหรัฐไม่ได้ตั้งจงใจโจมตีรัสเซีย แต่จำเป็นต้องช่วยเหลือยูเครนให้ป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย […]

เลขาฯ ยูเอ็นยอมรับ “UNSC” ล้มเหลวเรื่องสงครามยูเครน

เคียฟ 29 เม.ย. – นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ยอมรับว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ประสบความล้มเหลวในการป้องกันหรือยุติสงครามในยูเครน ขณะที่กรุงเคียฟเกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้งในระหว่างที่นายกูเตอร์เรสเดินทางเยือนยูเครน นายกูเตอร์เรสกล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดีว่า ยูเอ็นเอสซีประสบความล้มเหลวในการใช้อำนาจที่มีอยู่เพื่อป้องกันหรือยุติสงครามในยูเครน ซึ่งทำให้หลายคนผิดหวัง คับข้องใจ และโกรธเคือง แต่เขาขอยืนยันกับประธานาธิบดีเซเลนสกีและประชาชนยูเครนตรงนี้ว่า ยูเอ็นจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจในการดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อยุติในสงครามครั้งนี้ ทั้งนี้ รัสเซียเป็น 1 ใน 5 ประเทศสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซีและได้ใช้สิทธิยับยั้ง หรือวีโต้ (Veto) มติของยูเอ็นเอสซีที่เรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตียูเครนมากกว่า 1 ครั้ง ทางด้านประธานาธิบดีเซเลนสกีแถลงว่า นายกูเตอร์เรสได้มีโอกาสลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมสงครามของรัสเซียด้วยตาตัวเองเมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมทั้งกล่าวหาการกระทำดังกล่าวของรัสเซียในยูเครนว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของกรุงเคียฟเผยว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้งที่เขตเชฟเชนโกของกรุงเคียฟในขณะที่นายกูเตอร์เรสเดินทางเยือนยูเครน.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียถล่มเคียฟ ระหว่างการเยือนของเลขาฯ ยูเอ็น

รัสเซียทิ้งระเบิดโจมตีหลายพื้นที่ของยูเครน รวมถึงกรุงเคียฟระหว่างที่เลขาฯ ยูเอ็น เดินทางสำรวจพื้นที่

เลขาฯ ยูเอ็นลงพื้นที่สำรวจเมืองรอบกรุงเคียฟของยูเครน

เคียฟ 28 เม.ย. – นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ได้เดินทางไปสำรวจความเสียหายในหลายเมืองรอบกรุงเคียฟของยูเครน เช่น เมืองโบโรเดียนกาและเมืองบูจาที่ถูกกองทัพรัสเซียคุมพื้นที่หลายสัปดาห์ในช่วงเดือนมีนาคม พร้อมทั้งระบุว่า สงครามเป็นสิ่งชั่วร้ายและขอสนับสนุนการสืบสวนเรื่องนี้ของศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า นายกูเตอร์เรสได้เดินทางไปสำรวจความเสียหายที่เมืองโบโรเดียนกา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ เป็นที่แรกในขณะที่ปฏิบัติภารกิจเดินทางเยือนยูเครนในวันนี้ โดยที่เมืองดังกล่าวเป็นเมืองที่ถูกกองทัพรัสเซียโจมตีทางอากาศและทิ้งระเบิดจนเสียหายหนัก นายกูเตอร์เรสกล่าวในระหว่างที่ยืนอยู่ใกล้ซากปรักหักพังของอาคารที่พักอาศัยบนถนนสายหนึ่งของเมืองโบโรเดียนกาว่า ซากปรักหักพังของอาคารที่พักทำให้เขาจินตนาการถึงภาพหลานสาวของตัวเองกำลังวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว การทำสงครามไม่ควรเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 และไม่มีใครยอมรับการทำสงครามในยุคสมัยนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นในเมืองนี้เป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนว่าสงครามเป็นสิ่งชั่วร้าย และเขาขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากสงครามในครั้งนี้ จากนั้น นายกูเตอร์เรสได้เดินทางไปเมืองบูจาเพื่อสำรวจหลุมศพหมู่ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หลังโบสถ์แห่งหนึ่งและฟังเจ้าหน้าที่ยูเครนเล่าถึงเหตุสังหารพลเรือนในเมืองนี้ของกองทัพรัสเซีย นายกูเตอร์เรสระบุว่า ที่แห่งนี้จะทำให้ทุกคนรู้ซึ้งถึงความสำคัญของการเดินหน้าสืบสวนเพื่อลงโทษผู้กระทำความผิด เขาขอสนับสนุนศาลอาญาระหว่างประเทศให้สืบสวนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และขอเรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซียให้ความร่วมมือกับไอซีซีด้วย.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” เตือนรัสเซียพร้อมโต้กลับชาติแทรกแซงสงครามยูเครน

มอสโก 28 เม.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เตือนว่า ประเทศใดที่พยายามแทรกแซงสงครามยูเครนจะต้องเผชิญกับการตอบโต้กลับอย่างทันทีทันควันจากรัสเซีย ประธานาธิบดีปูตินกล่าวกับบรรดา ส.ส. รัสเซียที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทางตอนเหนือของรัสเซียเมื่อวันพุธว่า หากประเทศใดพยายามแทรกแซงสงครามในยูเครนและสร้างภัยคุกคามเชิงยุทธศาสตร์ต่อรัสเซีย รัสเซียก็จะโต้กลับอย่างทันทีทันควัน เพราะรัสเซียมีเครื่องมือที่ใช้ตอบโต้ชนิดที่ไม่มีชาติไหนสามารถทำได้ รัสเซียจะไม่พูดจาโอ้อวดประสิทธิภาพของเครื่องมือเหล่านี้ แต่จะนำมาใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น ทั้งยังระบุว่า รัสเซียได้ตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้มาตรการตอบโต้ทั้งหมดแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งนี้ คำกล่าวของประธานาธิบดีปูตินมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังกลุ่มชาติตะวันตกจัดการประชุมสุดยอดที่เยอรมนีเมื่อวันอังคาร ในขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรป หรืออียู กล่าวหาว่า รัสเซียตั้งใจแบล็คเมลอียูหลังจากที่รัสเซียตัดสินใจระงับส่งก๊าซให้โปแลนด์และบัลแกเรียเมื่อวันพุธ นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า การกระทำดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ารัสเซียขาดความน่าเชื่อถือในฐานะผู้จัดหาก๊าซ ก่อนหน้านี้ ก๊าซพรอม (Gazprom) บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซียได้ระงับส่งก๊าซไปยังโปแลนด์และบัลแกเรีย เนื่องจากทั้งสองประเทศปฏิเสธที่จะจ่ายค่านำเข้าก๊าซเป็นสกุลเงินรูเบิลของรัสเซียตามนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีปูตินเมื่อเดือนมีนาคม เพื่อตอบโต้ที่ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรรุนแรงต่อรัสเซียจนทำให้สกุลเงินรูเบิลสั่นคลอน.-สำนักข่าวไทย

ชวนเยอรมันขับรถน้อยลง ลดใช้น้ำมันรัสเซีย

เบอร์ลิน 27 เม.ย.- สมาคมยานยนต์ทรงอิทธิพลของเยอรมนีเชิญชวนสมาชิก 21 ล้านคนช่วยประเทศลดการพึ่งพาน้ำมันนำเข้าจากรัสเซีย ด้วยการขับรถให้น้อยลงและใช้การเดินแทนหากสามารถทำได้ สมาคมเอดีเอซี (ADAC) โพสต์จดหมายเปิดผนึกในเว็บไซต์วันนี้ว่า การขับขี่ด้วยความเร็วที่ลดลงและการชะลอความเร็วล่วงหน้าโดยไม่หยุดรถกะทันหันจะช่วยประหยัดน้ำมันลงได้สูงสุดถึงร้อยละ 20 ขณะเดียวกันขอให้สมาชิกผู้ขับขี่ยานยนต์ใคร่ครวญเรื่องความจำเป็นในการใช้รถอย่างจริงจัง และเลือกไปใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือใช้การเดินแทน สมาคมเรียกร้องเรื่องนี้ หลังจากรัฐบาลเยอรมนีเผยว่า ต้องการยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียให้ได้ภายในสิ้นปีนี้.-สำนักข่าวไทย

รูเบิลแข็งค่าขึ้นหลังรัสเซียงดจ่ายก๊าซให้โปแลนด์-บัลแกเรีย

มอสโก 27 เม.ย.- เงินรูเบิลของรัสเซียแข็งค่าขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดมอสโกวันนี้ หลังจากรัสเซียเผยว่าได้งดจ่ายก๊าซให้แก่โปแลนด์และบัลแกเรีย รอยเตอร์รายงานว่า เมื่อเวลา 08:31 น.วันนี้ตามเวลามาตรฐานสากล ตรงกับเวลา 15:31 น.วันนี้ตามเวลาในไทย รูเบิลเทียบกับยูโรแข็งค่าขึ้นร้อยละ 1.1 ไปเคลื่อนไหวที่ 76 รูเบิลต่อยูโร หลังจากทำสถิติแข็งค่าที่สุดในรอบกว่า 2 ปีด้วยการขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 75.9075 รูเบิลต่อยูโร ส่วนรูเบิลเทียบกับดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นร้อยละ 1 ไปเคลื่อนไหวที่ 72.82 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของรูเบิลมักถูกจำกัดโดยธนาคารกลางผ่านมาตรการควบคุมกระแสเงินทุน บริษัทด้านการลงทุนในตลาดทุนรัสเซียชี้ว่า การที่รัสเซียงดจ่ายก๊าซให้แก่ประเทศในยุโรปอาจเพิ่มความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และอาจทำให้ความสัมพันธ์กับยุโรปเสื่อมถอยลง ส่งผลเสียต่อบรรยากาศการลงทุน ขณะเดียวกันตลาดในรัสเซียกำลังรอดูผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางรัสเซียในวันศุกร์นี้ โดยคาดว่าจะลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 15 หวังกระตุ้นให้มีการขอสินเชื่อมากขึ้น แม้ว่ารัสเซียกำลังเผชิญภาวะเงินเฟ้อสูง และอาจทำให้รูเบิลเสี่ยงผันผวนต่อปัจจัยภายนอกมากขึ้นก็ตาม บริษัทก๊าซพรอม ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัฐบาลรัสเซีย กล่าววันนี้ว่า ได้ระงับการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับบัลแกเรียและโปแลนด์แล้ว เนื่องจากทั้งสองประเทศไม่ยอมชำระค่าก๊าซเป็นเงินรูเบิลตามที่รัสเซียกำหนดไว้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัสเซียตัดการส่งก๊าซไปยังลูกค้าในทวีปยุโรปนับตั้งแต่รัฐบาลมอสโกบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในขณะที่ประเทศที่เป็นลูกค้ากล่าวว่า การเรียกร้องให้จ่ายเป็นเงินรูเบิลของรัสเซียเป็นการละเมิดสัญญาที่กำหนดให้ชำระค่าก๊าซเป็นเงินสกุลยูโร.-สำนักข่าวไทย

เยอรมนีกลับลำ ยอมส่งอาวุธหนักให้ยูเครน

รามชไตน์-มีเซนบาค 27 เม.ย.-เยอรมนี ตกลงจะจัดส่งระบบต่อต้านอากาศยานให้แก่ยูเครน เป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญเรื่องการจัดสรรความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครนที่กำลังสู้รบกับรัสเซีย นางคริสทีน แลมเบรชต์ รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนีแถลงในการประชุมเจ้าหน้าที่กลาโหมนานาชาติที่ฐานทัพอากาศสหรัฐรามชไตน์ ในรัฐทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนีเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า เยอรมนีตัดสินใจแล้วว่าจะสนับสนุนยูเครนด้วยปืนต่อสู้อากาศยานอัตตาจรเกพาร์ด (Gepard) ที่ยูเครนกำลังต้องการอย่างยิ่งอยู่ในขณะนี้ เพื่อรักษาน่านฟ้ายูเครนจากภาคพื้นดิน เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นระบุว่า นับเป็นครั้งแรกที่เยอรมนีตกลงจะจัดส่งอาวุธหนักชนิดนี้ให้แก่ยูเครนเพื่อใช้สู้รบกับรัสเซีย เป็นปืนต่อสู้อากาศยานอัตตาจรที่เยอรมนีทยอยนำออกจากการประจำการตั้งแต่ปี 2563 เดิมเยอรมนียืนกรานไม่ยอมส่งอาวุธหนักให้แก่ยูเครนตามที่มีเสียงเรียกร้อง โดยจะส่งแต่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและอุปกรณ์ทางการแพทย์เท่านั้น สอดคล้องกับนโยบายที่เยอรมนียึดมั่นมานานเรื่องไม่จัดส่งอาวุธที่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตไปยังเขตที่เกิดภาวะวิกฤติ รัฐบาลนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนีที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อปลายปีก่อนประกาศในช่วงไม่กี่เดือนก่อนรัสเซียบุกยูเครนว่า จะบรรจุนโยบายส่งออกอาวุธอย่างมีข้อจำกัดไว้ในข้อตกลงกับพันธมิตรด้วย แต่ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางครั้งใหญ่หลังจากถูกพันธมิตรและประชาชนกดดัน จนต้องประกาศใหม่ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ว่า จะเริ่มส่งอาวุธบางประเภทให้แก่ยูเครน โดยย้ำว่าเป็นอาวุธเพื่อใช้ป้องกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

เลขายูเอ็น-ปูตินตกลงเรื่องอพยพคนออกจากโรงงานในมารีอูปอล

สหประชาชาติ 27 เม.ย.- นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียตกลงกันเรื่องจัดเส้นทางให้คนอพยพออกจากโรงงานเหล็กในเมืองมารีอูปอลของยูเครนที่ถูกกองกำลังรัสเซียปิดล้อมอยู่ โฆษกยูเอ็นแถลงว่า ในการพบหน้ากันตัวต่อตัวเมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อ 2 เดือนก่อน นายกูเตอร์เรสและนายปูตินได้หารือข้อเสนอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการอพยพคนออกจากเขตขัดแย้ง ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ในเมืองมารีอูปอล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ทั้งคู่เห็นพ้องในหลักการว่ายูเอ็นและคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศควรเข้าไปมีส่วนร่วมในการอพยพพลเรือนออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตอล โดยจะมีการหารือเรื่องนี้กับสำนักงานมนุษยธรรมยูเอ็นและกระทรวงกลาโหมรัสเซียในวันพุธ เลขาธิการยูเอ็นและผู้นำรัสเซียหารือกันเกือบ 2 ชั่วโมง โดยนั่งอยู่เพียง 2 คน ตรงข้ามกันด้านหัวโต๊ะยาว เลขาธิการยูเอ็นวิจารณ์ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนว่า ละเมิดบูรณภาพทางดินแดนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างชัดเจน และขอให้รัสเซียเปิดทางให้มีการอพยพพลเรือนที่ติดค้างอยู่ในโรงงานเหล็กดังกล่าว ขณะที่ผู้นำรัสเซียอ้างว่า กองกำลังรัสเซียได้เสนอเปิดเส้นทางด้านมนุษยธรรมให้แก่พลเรือนแล้ว แต่กองกำลังยูเครนที่ปักหลักอยู่ในโรงงานใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์และไม่ยอมปล่อยให้ออกมา เอพีรายงานว่า โรงงานแห่งนี้ถูกรัสเซียโจมตีจนเหลือแต่ซาก และเป็นที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มต่อต้านในเมืองมารีอูปอล ว่ากันว่ามีทหารยูเครน 2,000 นาย และพลเรือน 1,000 คนกบดานอยู่ในชั้นใต้ดินของโรงงาน.-สำนักข่าวไทย

1 97 98 99 100 101 256
...